สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(23 มกราคม 2568)-------นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) SCC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (หรือ “SCC”) ได้รายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เรื่อง โครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่โรงงาน Long Son Petrochemicals Company Limitedประเทศเวียดนาม (หรือ “LSPE”) ซึ่งเป็นโครงการของบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (หรือ“SCGC”) (บริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด) นั้นSCC ขอแจ้งความคืบหน้าที่สำคัญของโครงการ LSPE ดังนี้
(i) สัญญาจัดหาวัตถุดิบก๊าซอีเทน: เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 SCGC และ Enterprise Products PartnersL.P. (หรือ “Enterprise”) ซึ่งเป็นผู้จัดหาก๊าซอีเทนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามสัญญาระยะยาวในการจัดหาวัตถุดิบก๊าซอีเทนและใช้ท่าเรือต้นทางผ่านบริษัทย่อยของ SCGC และ Enterprise ภายใต้สัญญาดังกล่าว Enterprise จะจัดหาก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาโดยส่งมอบที่ท่าเรือต้นทางหรือ Free On Board(FOB) สำหรับโครงการ LSPE ประมาณ 1 ล้านตันต่อปีตลอดระยะเวลาสัญญา 15 ปี
(ii) เรือขนส่ง: เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 SCGC และ Mitsui O.S.K. Lines, Ltd. (หรือ “MOL”) ซึ่งเป็ นผู้ให้บริการเรือขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลวชั้นนำของโลก ได้ลงนามในสัญญาระยะยาวสำหรับเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very Large Ethane Carriers (VLECs)) รอบแรกจำนวน 3 ลำ ผ่านบริษัทย่อยของ SCGC และMOL เพื่อขนส่งก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเวียดนามสำหรับโครงการ LSPE ภายใต้สัญญาดังกล่าว กลุ่มบริษัท MOL จะให้บริการขนส่งก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเวียดนามตลอดระยะเวลาสัญญา 15 ปีทั้งนี้ สัญญาเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทนในส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ
(iii) ถังเก็บวัตถุดิบ: การสร้างถังเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทนอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งถังเก็บวัตถุดิบดังกล่าวถูกออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเก็บวัตถุดิบอีเทนที่สภาวะอุณหภูมิต่ำประมาณ -90 องศาเซลเซียสโครงการ LSPE จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีนัยสำคัญจากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงและความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบที่มากขึ้นของโรงงาน LSP อีกทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ ในเบื้องต้น LSP จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนภายใน SCC และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2570Enterprise Products Partners L.P. เป็นหนึ่ง ในห้างหุ้นส่วนจำกัดการ ค้าสาธารณะ (Publicly TradedPartnerships) ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นผู้ให้บริการจัดหาเชื้อเพลิงพลังงานชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภคก๊าซธรรมชาติก๊าซโซลีนธรรมชาติ (NGLs) น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยส่งออกผลิตภัณฑ์ไฮโดรคาร์บอนเหลวมากกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567 (ณ วันที่ 30 กันยายน) โดยรายละเอียดของ Enterprise สามารถดูได้ที่ www.enterpriseproducts.com
Mitsui O.S.K. Lines, Ltd. เป็นบริษัทขนส่งชั้นนำ ที่มีการดำเนินงานระดับโลกด้วยเรือประมาณ 900 ลำ และMOLได้พัฒนาธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยมีธุรกิจหลัก ได้แก่ การขนส่งทางทะเล เทคโนโลยีและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริการเรือของ MOL ประกอบด้วยเรือบรรทุกสินค้าแห้ง เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เรือบรรทุกยานยนต์ และเรือบรรทุกน้ำมัน นอกจากธุรกิจขนส่งแบบดั้งเดิมแล้ว MOLยังให้บริการทางธุรกิจด้านความเป็นอยู่และไลฟ์ สไตล์ เช่น อสังหาริมทรัพย์ การดำเนินงานท่าเรือ และบริการเรือเฟอร์รี่รวมถึงธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โลจิสติกส์และพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOL สามารถดูได้ที่ https://www.mol.co.jp/en/