Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.โกลเบล็ก : Morning Call

189

 


วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway up บวกสูงสุดราว 11 จุด ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคโดยมีปัจจัยหนุนจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเงินบาทที่แข็งค่า มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร เป็นต้น ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดที่ 1,361.77 จุด +9.24 จุด +0.68% มูลค่าการซื้อขาย 43,896 ลบ. Program Trading+1,743.82 ลบ. ต่างชาติ +1,704.50 ลบ. TFEX +3,853 สัญญา ตราสารหนี้ +907.73 ลบ.

 

 

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 130.92 จุด หรือ +0.30% ขณะที่ดัชนีS&P500 และ Nasdaq ปิดบวกเช่นกัน ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์(AI) ในสหรัฐฯ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Netflix
+ ก.คลังเตรียมพร้อมในการโอนเงินสนับสนุน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปในวันที่ 27 ม.ค.
+ ก.คลังเปิดเผยว่ารัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub) และเป็นผู้เล่นส าคัญในเวทีโลกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ปัจจุบันร่าง"พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ...." เปิดรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นแล้ว และจะเข้าสู่การพิจารณาของครม. อย่างช้าต้นเดือนก.พ.2568
+ ซิตี้แบงก์ ประเมิน GDP ไทยในปี 68 จะเติบโตที่ 3.2% เพิ่มจาก 2.7%ในปี 67 โดยการบริโภคภาคเอกชน แม้จะเติบโตในอัตราชะลอลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และยอดขายรถยนต์ที่ซบเซา แต่ยังคงได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานที่แข็งแกร่งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
+ ครม.อนุมัติพ.ร.บ.การท่าเรือฯ ฉบับใหม่ สนับสนุนจัดตั้งบริษัทลูกดำเนินการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ-แหลมฉบังเต็มรูปแบบ พร้อมวางแนวทางการพัฒนากิจการของการท่าเรือให้ทันสมัย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคต

 

 

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ -0.51%ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ าสุดในรอบ 1 สัปดาห์จากการปิดลบติดต่อกัน 4 วันท าการ ขณะที่นักลงทุนรอประเมินว่ามาตรการภาษีศุลกากรของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมากเพียงใด
- นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนให้ยุโรปเตรียมพร้อมรับมือการตั้งกำแพงภาษีของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ
- ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เป็นการส่งสัญญาณเดินหน้าบังคับใช้มาตรการภาษีการค้าแบบเชิงรุกซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
- ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียหากปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียไม่ยอมเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน
- ประธานบจ.ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ประเมินว่าการประกาศเก็บภาษีจากรายได้ต่างประเทศและข้อก าหนดที่ให้ผู้ที่พำนักในประเทศไทยเกิน180 วันต้องเสียภาษี ส่งผลให้ลูกค้าบางรายของ Thailand PrivilegeCard อาจต้องทบทวนแผนการใช้ชีวิตในประเทศไทยจากภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับวีซ่าและการขยายอายุวีซ่าต่างๆอาจท าให้ประเทศไทยดูไม่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวระยะยาวที่มองหาประเทศที่มีระบบภาษีที่เป็นมิตรต่อการพ านัก


แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามดาวโจนส์หลัง ทรัมป์ ได้ประกาศเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AIนอกจากนี้ดัชนีได้โมเมนตัมเชิงบวกจากหุ้นกลุ่ม BANK ELECTRONIC FINANCE และ HEALTH อีกทั้ง Fund Flow ที่ไหลเข้าเป็นแรงหนุนต่อดัชนี มองกรอบดัชนี 1,355-1,370 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้