Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดวันนี้ SET "ถึงโซนสกัดสำคัญแถว 1366 จุด" หากทะลุผ่านได้ จะเกิดสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม

314

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 23 มกราคม 2568)------บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX Securities Co., Ltd.) ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568 เปิดเผยว่า SET ขึ้นมาถึงจุดสำคัญบริเวณแนวต้าน 1366 และ 1374 จุด ตามลำดับ ซึ่งเป็นจุดบอกแนวโน้มถัดไปในภาพรวม โดยหากสามารถขึ้นทะลุผ่านได้ จะเกิดสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม ส่วนกรณีไม่ผ่าน ดัชนีจะเป็นเพียงการฟื้นตัว และกลับมาปรับลงต่อเหมือนที่ผ่านมา ด้านแนวรับอยู่ที่ 1350 และ 1345 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่าเป็นลบ

 

 

ประเด็นสำคัญ
• ปธน. สหรัฐฯ ประกาศมาตรการการค้า วางแผนเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจากจีน 10% เริ่มวันที่ 1 ก.พ. 2568 และกำลังพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปในอนาคต โดยจะตรวจสอบประเด็นต่างๆ ในเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย. 2568
• ปธน. ทรัมป์เตรียมจะคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่และเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูง หากรัสเซียไม่ยอมบรรลุข้อตกลงยุติสงครามกับยูเครน
• รมช. คลังเผยไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ แต่รัฐบาลจะพยายามหาโอกาสเจรจากับสหรัฐฯ และเฝ้าติดตามสินค้าจีนทะลักเข้าไทยซึ่งเป็นผลจากมาตรการการค้าอย่างใกล้ชิด
• R&I ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ A- Stable โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว Real GDP Growth ปี 2567 อยู่ที่ 2.6% และคาดจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 และเชื่อรัฐบาลไทยจะสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะไม่ให้เกินกรอบกฎหมายได้
• ท่าเรือต่างๆ ในมลรัฐเท็กซัสและหลุยเซียอานายังคงปิดทำการเนื่องจากเผชิญพายุฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้การขนส่งทางเรือหยุดชะงัก คาดจะสามารถกลับมาเดินเรือได้ในเร็วๆ นี้
• Financial Times รายงานว่า Google เตรียมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในบริษัท Start Up ด้าน AI Anthropic สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้พัฒนา AI และคู่แข่งสำคัญอย่าง OpenAI
• รมช.คลังเผยคลังได้ยกร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางทางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (ฟินฮับ) เสร็จแล้ว โดยเป็นกฎหมายใหม่ทั้งฉบับซึ่งคาดจะเสนอให้ครม. พิจารณาได้ไม่เกินต้น ก.พ. และนำเข้าประชุมสภา มี.ค. เพื่อให้กฎหมายเสร็จมีผลบังคับได้ในปลายปีนี้

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1400 จุด ทั้งนี้แม้มองปัจจัยภายนอกจากภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มดอกเบี้ยมีท่าทีดีขึ้น รวมถึงผลประกอบการ 4Q67 ของ บจ. ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่ง และท่าทีของว่าที่ปธน. สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังทำให้ตลาดคลายกังวลได้ในระดับนึง แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยภายในประเทศ (นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ) ยังมีแนวโน้มเปราะบางจากการขาดความเชื่อมั่นด้านการลงทุน ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าตลาดหุ้นในต่างประเทศ อีกทั้งกระแสเงินของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีสัญญาณกลับมาซื้อหุ้นไทยอย่างมีนัยฯ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 

แนวรับ-ต้าน
1350/1345 – 1366/1374


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสฟื้นแต่ภาพรวมยังเปราะบางหลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภคจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เช่น นำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุในวันที่ 27 ม.ค. นี้ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT AOT) กลุ่มเนื้อสัตว์ (CPF BTG)
2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP KTB BBL PTT
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA AWC AU
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรในหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียกระทบอุปทานน้ำมัน เลือก PTTEP

 

Daily top picks

ERW: มองเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร หลัง 4Q67 คาดกำไรปกติจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 305 ลบ. เพิ่มขึ้น 31%YoY และ 145%QoQ ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า อีกทั้งปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวลดลง 27% ในปี 2567 และ 13%YTD สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และ Valuation ต่ำกว่าค่ากลางของกลุ่มอยู่ 23% ซึ่งบ่งชี้ถึงความคาดหวังที่ต่ำของตลาด


BDMS: เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์ โดยปี 2568 คาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่องที่ 8.3%YoY อีกทั้ง valuation ต่ำ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER 2568F ระดับ 22.1 เท่า ซึ่งต่ำกว่าระดับ -2SD ของ PER เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และถือเป็นระดับที่ลึกที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม อีกทั้งยังต่ำกว่าหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดภูมิภาค (ไม่รวมประเทศไทย) ราว 21%

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตั้งลำ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุุ้นไทย ดีดตัว ตั้งลำได้อีกครั้ง ยืน 1,180 จุด ได้ ด้วยตลาดต่างประเทศปรับตัวขึ้น ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้