KBANK : การควบคุมค่าใช้จ่ายช่วยให้กำไรสูงกว่าคาด
KBANK รายงานกำไรสุทธิใน 4Q24 ที่ 1.05 หมื่นล้านบาท (-12% QoQ/+12% YoY) สูงกว่าที่เราและ Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ 9% โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด สรุปประเด็นสำคัญดังนี้ :
• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเพียง 8% QoQ (เทียบกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18% QoQ) เช่นเดียวกับธนาคารอื่นๆ แรงกดดันด้านรายได้ทำให้กสิกรไทยต้องลดค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาผลกำไร แม้จะมีแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านไอที แต่ปี 2024 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 2% YoY สะท้อนถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของธนาคาร
• อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์ยังคงมีความเปราะบาง แม้ว่า NPL รวมจะทรงตัว QoQ (อัตรา NPL ลดลงเหลือ 3.71% เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง) แต่สินเชื่อ Stage-2 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 13% QoQ เป็น 2.16 แสนล้านบาท (คิดเป็น 8.6% ของสินเชื่อ) ธนาคารเพิ่มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ 5% QoQ เป็น 12.2 พันล้านบาท (+9bps เป็น 198bps ในแง่ของ Credit Cost) ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงการเสื่อมลงของสินเชื่อ Stage-2 ในรายงานมุมมองปี 2025 ของเรา เราได้อธิบายว่า Credit Cost ของกสิกรไทยควรจะกลับสู่ภาวะปกติในปีนี้ ตามที่ผู้บริหารได้กล่าวไว้หลายครั้ง (ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ KBANK) พัฒนาการใน 4Q24 เพิ่มความมั่นใจในการคาดการณ์นี้ของเรา คาดว่ากสิกรไทยจะประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2025 ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025
• องค์ประกอบอื่นๆ เป็นไปตามคาด สินเชื่อเพิ่มขึ้น 2.9% QoQ โดยมีแรงขับเคลื่อนจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลดลง 9bps เหลือ 3.52% เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ในระหว่างไตรมาส และการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนสินเชื่อที่น่าจะมุ่งไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยดีกว่าที่คาดเล็กน้อยเนื่องจากผลขาดทุนจากเบี้ยประกันภัยรับสุทธิของธุรกิจประกันภัยที่ลดลง (-0.8 พันล้านบาท เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ -1.8 พันล้านบาท) ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ KBANK โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 168.00 บาท
• การประชุมนักวิเคราะห์จะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. วันนี้