KKP : FVTPL หนุนกำไรสุทธิ
ผลกำไรสุทธิใน 4Q24 ของ KKP อยู่ที่ 1.41 พันล้านบาท (+8% QoQ/+110% YoY) สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 53% และสูงกว่า Bloomberg consensus 37% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก FVTPL ประเด็นสำคัญในไตรมาสมีดังนี้
• KKP บันทึก FVTPL ที่ 484 ล้านบาท (เทียบกับ 60 ล้านบาท QoQ) โดยอ้างอิงจากการปรับตัวดีขึ้นในตลาดทุนใน 4Q24 สนับสนุนโดยผลการดำเนินงานของตลาดที่ดีขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมโดยรวมฟื้นตัว (+9% QoQ) รวมถึงธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง นายหน้า และวาณิชธนกิจ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังกำไรสุทธิที่ดี
• คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมค่อนข้างคงที่ แม้ว่า NPL รวมจะทรงตัว QoQ แต่ KKP เพิ่ม credit cost เป็น 99bps (เทียบกับ 71bps ใน 3Q) ข่าวดีคือ ผลขาดทุนจากการขายรถยึดยังคงลดลงต่อเนื่อง (-10% QoQ เหลือ 1.1 พันล้านบาท) ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของการขายรถยึด ธนาคารยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้สินเชื่อหดตัวลงอีก (-1.5% QoQ) โดยเฉพาะเช่าซื้อ (-2.7% QoQ) สินเชื่อส่วนบุคคล (-4.7% QoQ) และอสังหาริมทรัพย์ (-5.3% QoQ) NIM ลดลง 12bps เหลือ 3.90% เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
• เช่นเดียวกับธนาคารอื่นๆ KKP พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานใน 4Q และทำได้ดีในด้านบุคลากร (-4% QoQ) และค่าใช้จ่ายด้านสถานที่ (-3% QoQ) นอกเหนือจากผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่ลดลงตามที่กล่าวข้างต้น
คงคำแนะนำ "ถือ"
แม้จะมีกำไรสุทธิที่น่าพอใจ แต่ FVTPL ไม่น่าจะอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ในไตรมาสถัดไป นอกเหนือจาก FVTPL องค์ประกอบอื่นๆ ดูเป็นไปตามคาด แม้ว่าเราจะรับทราบความคืบหน้าในการปรับงบดุล แต่ยังไม่ชัดเจนว่า KKP จะเติบโตรายได้อย่างไรในอนาคต โดยเฉพาะคำถามสำหรับธุรกิจสินเชื่อ การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นล่าสุดทำให้มูลค่า KKP อยู่ในระดับที่เราถือว่าเหมาะสม คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ KKP โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 53.00 บาท