Thailand Tourism
การเทขายหุ้นดูไม่สมเหตุสมผล

ผลกระทบจากประเด็นการลักพาตัวนักแสดงชาวจีนมีจำกัด
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรม สนามบิน และสายการบิน ถูกเทขายหนักถึง 8-18% ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ เนื่องจากปัจจัยเชิงลบเกี่ยวกับการยกเลิกทริปวันหยุดของชาวจีนมาเที่ยวไทยหลังจากข่าวลือการลักพาตัวนักแสดงที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เราเชื่อว่าความตื่นตระหนกของนักลงทุนไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง (ข้อมูลจนถึง 19 มกราคม) มีอัตราการเติบโตทั้งในภาพรวมและนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไทยเฉลี่ยต่อวัน +15% YoY และ 14% YoY ตามลำดับ ขณะเดียวกัน โรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นปัจจุบันพบการยกเลิกการจองในปริมาณน้อย เราจึงคงมุมมองเชิงบวกในภาคท่องเที่ยวเนื่องจากดาวน์ไซด์ต่อกำไรมีจำกัด (คาดการณ์การเติบโตในปี 68 ที่ 23%) โดยกลุ่มโรงแรมมีการซื้อขายที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ -2.0 SD ซึ่งสะท้อนปัจจัยเชิงลบส่วนใหญ่ไปแล้ว

ผลกระทบเล็กน้อยจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน
ตามข้อมูลจาก ATTA การเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจีนอาจลดลง 10-20% ในช่วงเทศกาลตรุษจีน (29 ม.ค. - 16 ก.พ.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดังนั้นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในไทยอาจซบเซา แม้รัฐบาลไทยจะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความมั่นใจว่าไทยไม่ใช่จุดหมายปลายทางของนักต้มตุ๋น ทั้งนี้ เราประเมินผลกระทบต่อหุ้นโรงแรมที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก โดย ERW, AWC และ CENTEL สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็น 17%, 14%, และ 10% ของรายได้โรงแรมใน 9 เดือนแรกของปี 67 ตามลำดับ เรามองว่าผลกระทบต่อรายได้ในปี 68 จะจำกัดที่ 0.5-1.4% จากการลดลงทุกๆ 5% ของนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อ MINT ค่อนข้างน้อยเนื่องจากรายได้จากต่างประเทศสูงกว่า

ข้อมูลในอดีตสะท้อนว่าการปรับฐานใกล้จะจบแล้ว
เรารวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์สุดขั้วในอดีต เช่น การยิงหมู่ การระเบิดในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ และเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตซึ่งทำให้ชาวจีนเสียชีวิต 47 คน เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจีนและผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉลี่ยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับลดลง 9-13% และใช้เวลา 9-10 วันทำการสำหรับตลาดในการย่อยข่าวร้าย ขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์แรกของปี 68 และราคาหุ้นปรับตัวลดลงในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น เราคาดว่าการปรับฐานครั้งนี้จะจบลงในไม่ช้า

หุ้นแนะนำ AWC และ CENTEL
AWC เป็นหุ้นแนะนำอันดับ 1 เนื่องจากจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการใช้จ่ายที่สูงขึ้นในการเข้าพักและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย แม้จะมีปัจจัยลบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วน CENTEL เป็นหุ้นแนะนำอันดับ 2 เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งอันดับ 2 (ปี 67-69) ได้รับแรงหนุนจาก RevPAR ที่สูงขึ้นในประเทศไทยหลังการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ และในญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการจัด World Expo ที่โอซาก้า ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม 68