วันศุกร์ที่ผ่านดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่มากระทบ ขณะที่มีแรงกดดันจาก Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกอย่างต่อเนื่อง มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน จากความกังวลภาครัฐปรับจะลดค่าไฟฟ้าลง ประกอบกับมีแรงขายเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอกนิกส์ และไอซีที นักลงทุนจับตาการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดที่ 1,340.63 จุด -11.93 จุด -0.88% มูลค่าการซื้อขาย 37,538.15 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -27.36 จุด -2.00%) Program Trading -245.39 ลบ. ต่างชาติ -1,268.37 ลบ. TFEX-2,740 สัญญา ตราสารหนี้ +257.85 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 334.70 จุด หรือ +0.78% และปิดแข็งแกร่งท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
+ ตัวเลข GDP ของจีนขยายตัว 5%YoY ในปี 2567 ได้แรงหนุนจากการเติบโตแข็งแกร่งใน Q4 รวมทั้งการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งช่วยให้รัฐบาลจีนสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ได้
+ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3%ในปี 2568 ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนต.ค.2567 3.2% คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.7% ในปี 2568 จากเดิม2.2% และคาดว่าเศรษฐกิจจีน
จะขยายตัว 4.6% ในปี 2568 จากเดิม 4.5%
+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท1 ปีไว้ที่ระดับ 3.1% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.6%เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินหยวนจำกัดความพยายามของ PBOC ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 80 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ยังคงปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯ ต่อการค้าพลังงานของรัสเซียได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันของอุปทานน้ำมัน
- เจเน็ต เยลเลน รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า หนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯจะถึงเพดานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายในวันอังคารนี้ (21 ม.ค.) และกระทรวงฯจะเริ่มใช้มาตรการพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเกินเพดาน และความเสี่ยงที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้
- ทางการจีนได้สั่งการให้หลายหน่วยงาน รวมถึง สถานทูตจีนและสถานกงสุลจีนเร่งช่วยเหลือและดำเนินการสืบสวนคดีที่ชาวจีนหลายคน รวมถึงนักแสดง หวัง ซิงหรือ "ซิงซิง" ถูกหลอกไปยังชายแดนไทย-เมียนมาก่อนหายตัวไปและถูกกักขังจนสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน
- กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่จะส่งหาน เจิ้งรองประธานาธิบดีเข้าร่วมพิธีแทน
-รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ประเมินผลกระทบจากกรณี โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับต าแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐต่อการค้าโลกและไทย ซึ่งจะมีการดำเนินมาตรการสงครามการค้า ทั้งการขึ้นภาษีนำข้าจากจีน แคนาดา เม็กซิโก การปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ และไม่สนับสนุนนโยบายสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า IMFได้ประเมินผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐ จะทำให้เศรษฐกิจโลกปี 68เติบโตชะลอตัวลงเหลือ 2.4%
- ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนระหว่าง 1-17 มกราคม2568 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,627.90 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,123.35 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 7,700.94 ล้านบาทนักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,949.69 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังไหลออกต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนีที่ 1,330-1,350 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH
• Sentiment เชิงบวกจาก บ้านเพื่อไทย : CK STECON CRD