Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

533

 


เห็นดีดตัวได้ก็เริ่มอุ่นใจขึ้นมา
เราได้ให้มุมมองมาระยะหนึ่งแล้วว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้แพง โดยเราเห็นหุ้นถึง 40 บริษัทใน SET 100 มีราคาหุ้นไม่เกิน BOOK VALUE แยกเป็น 34หุ้นที่ราคาต่ำกว่า BOOK VALUE ทั้งที่ส่วนใหญ่สามารถทำกำไรจากการดำเนินการได้ นอกจากนี้ในส่วนของค่า PER ตัวเลขที่ระดับสูงเกือบ20 เท่า น่าจะถือเป็นความแพงทางเทคนิค เนื่องจากใช้EPS ย้อนหลัง 4ไตรมาสมาคำนวน ซึ่งเราพบว่า ในงวด 4Q66 และ 3Q67 มีเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนมีฐานกำไรต่ำกว่าปกติมาก หลังจากประกาศงบ 4Q67ที่มีฐานกำไรสูงขึ้นก็น่าจะเห็น PER ต่ำลง นอกจากนี้หากมองในมุมของMARKET EARNING YIELD GAP ก็พบว่า อยู่ในเกณฑ์ที่สูงช่วง 4.5 –4.8% สิ่งที่เรายังขาดอยู่คงเป็นเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้ไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามหากเริ่มเห็นสัญญาณในการดีดตัวกลับของ SET INDEX ก็อาจทำให้เกิดภาวะการอุ่นใจมากขึ้นเชิง VALUATION ถือได้ว่าตลาดหุ้นไทยไม่แพง เพียงต่อรอ SENTIMENTเชิงบวกเข้ามาหนุน ซึ่งการ REBOUND วานนี้ก็ถือเป็นสัญญารดี กรอบวันนี้ 1345 –1365 จุด TOP PICK เลือก COM7, CPN และ TOP


สัญญาณดอกเบี้ยสวิงรายวัน ตามตัวเลขเศรษฐกิจ
สัญญาณการเดินปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นในหลายประเทศ หลังล่าสุดมีการเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 67 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ดังนี้

• สหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป +2.9%YOY แม้จะออกมาตามตลาดคาด แต่เมื่อตัดสินค้ากลุ่มพลังงานและอาหารออกไป ทำให้เงินเฟ้อพื้นฐาน(CORE CPI) +3.2%YOY ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าตลาดคาดที่ +3.3%YOY ส่งผลให้ตลาดตีความว่า FED อาจเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม สะท้อนจาก FEDWATCH TOOL ที่ล่าสุดคาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2568 ในเดือน มิ.ย.68 (วานนี้คาดเดือน ก.ค.)และจะเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ครั้ง

• อังกฤษ มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป +2.5%YOY ชะลอตัวครั้งแรกในรอบ3 เดือน อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าตลาดคาด เช่นเดียวกับทิศทางเงินเฟ้อ
พื้นฐาน (CORE CPI) +3.2%YOY ทำให้เพิ่มหวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ ด้าน BLOOMBERG คาดการณ์ไว้ว่า BOE จะปรับลดดอกเบี้ยราว 2ครั้งในปี 2568 ช่วงเดือน ก.พ. (ครั้งที่ 1) และเดือน ส.ค. (ครั้งที่ 2) เงินเฟ้ออังกฤษชะลอตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หนุนความหวังหั่นดอกเบี้ย

• อินโดนีเซีย มีการประชุมนโยบายการเงินครั้งแรกของปี โดยธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BRI) ทำ SURPRISE ตลาดปรับลดดอกเบี้ยลง 25 BPS. สู่ระดับ5.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งเมื่อพิจาราณอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง(ดอกเบี้ย - เงินเฟ้อ) ของอินโดนีเซียล่าสุด 4.18% ซึ่งอยู่ในระดับสูงมาก (ไทยอยู่ที่ 1.02%) ทำให้ยังมีช่องทางในการปรับลดดอกเบี้ยได้เยอะ

ขณะที่ความคาดหวังในเรื่องดอกเบี้ยขาลง กดดันให้ BOND YIELD 10Y สหรัฐฯ วานนี้ ร่วงลงมาราว 14 BPS. สู่ระดับ 4.65% หนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นมาแรงราว 1.7% - 2.5% ซึ่งน่าจะเป็น SENTIMENT เชิงบวกมายังบ้านเราด้วย

น้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นแรง ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่นที่LAGGARD

วานนี้ราคาน้ำมันดิบ BRENT / WTI บวกแรง 3.3% และ +12%YTD มาใกล้ๆ 80เหรียญ/บาร์เรล จากหลายปัจจัยหนุนเริ่มจากการเกิด POLAR VORTEX ของขั้วโลกและ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย ดังที่เคยกล่าวไปแล้วในบทวิเคราะห์รวมถึงการเดินหน้าเข้าสู่ยุค TRUM 2.0 (รายละเอียดในบทวิเคราะห์ MARKET TALK 13 ม.ค.68)


ขณะที่อีกประเด็นหนุน คือ วานนี้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 65) และต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 0.9 ล้านบาร์เรลอย่างไรก็ตามค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบ WTI เดือน ม.ค. 2025 อยู่ที่ 75.94 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งปรับตัวขึ้น 5.4%YOY จึงทำให้มีโอกาสสูงที่เงินเฟ้อสหรัฐฯจะทรงตัวระดับเดิม หรือขยับขึ้นเล้กน้อย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันให้ FED ส่งสัญญาณ HAWKISHเพิ่มได้ในอนาคต

 

ขณะที่ภาพรวม SET INDEX ในช่วงสั้นคาดได้รับ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งมีน้ำหนัก(MARKETCAP) สูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักทั้งหมดแนะนำเก็งกำไร หุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ได้แก่กลุ่มผู้ประกอบการผลิตและสำรวจน้ำมันที่มีรายได้อิงกับราคาขายน้ำมัน คือ PTTEP +8.4%YTD ส่วนของธุรกิจโรงกลั่น คือTOP -5.3%YTD, PTT -1.6%YTD, BANPU -12.5%YTD,SPRC -8.4%YTD ซึ่งราคาหุ้นดังกล่าว LAGGARD ราคาน้ำมันดิบทั้งสิ้นในช่วงเวลาตั้งแต่ต้นปี(YTD)


โดยชื่นชอบ TOP มากสุด มีปัจจัยบวกหนุน คือ คาดจะกลับมาจ่ายปันผลงวด 2H24 ที่0.8 บาท/หุ้น (DIVIDEND YIELD 3%) ทั้งปีนี้คาดจ่าย 2 บาท/หุ้น (DIVIDEND YIELD7%) หลังจากกังวลประเด็น CFP มาในระดับหนึ่งแล้ว

 

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เฟด คงดอกเบี้ย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย พัก แบบปรับฐาน ในเช้าวันนี้ หลังจากวานนี้ ดัชนฯพุ่งแรง ประกอบกับ เฟด ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้