News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

16 ม.ค. 2568 09:17:23 636

Market Wrap-Up

SET วันที่ 15 ม.ค.68 ปิด +12.92 จุด อยู่ที่ 1,353.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,216 ลบ. สถาบันซื้อ 1,921 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,145 ลบ. ต่างชาติขาย 961 ลบ. และรายย่อยขาย 2,105 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 358 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น GPSC,CCET,PTT,SCC,PRM และยอดขายหุ้น DELTA,ADVANC,PTTEP,INTUCH,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,320 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ MBK,PSH,OR โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 27,725 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 38,760 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,470 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.65%, S&P500 +1.83%, Nasdaq +2.45% นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +3.0%, บริการสื่อสาร +2.6% หลัง ก.แรงงานสหรัฐเผย US Core CPI ธ.ค. +3.2% ตำกว่าคาดที่ 3.3% YoY ยังลดความกังวลภาวะเงินเฟ้อสหรัฐ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.33% นำโดยกลุ่มอสังหา +3.3%, สาธารณูปโภค +1.8%, การเงิน +2% หลังข้อมูล CPI ฝรั่งเศส, สเปน ธ.ค. เป็นไปตามคาดการณ์

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และบริการสื่อสาร หลัง ก.แรงงานสหรัฐเผย US Core CPI ธ.ค. อยู่ที่ 3.2% & คาดที่ 3.3% & พ.ย. 3.3% YoY และ US CPI ธ.ค. อยู่ที่ 2.9% YoY ตามคาดการณ์ ซึ่งช่วยลดความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อสูง ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.654% ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth และดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 +1.99% โดย CME FedWatch ชี้มีโอกาส 44.6% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม มิ.ย. นี้ ส่วนรายงานกำไร Q4/67 ของ JP.Morgan, Goldman Sachs, Citiigroup ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค.
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น ตอบรับ US Core CPI ธ.ค. ชะลอตัวลง กอปรกับข้อมูล CPI ฝรั่งเศส ธ.ค. +1.3% YoY และ CPI สเปน ธ.ค. +2.8% YoY ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ ส่งผลให้ Euro Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.53% โดยรอง ปธ.ECB ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อ เพื่อลดความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัว หลัง GDP เยอรมันปี 67 หดตัว -0.2% YoY ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนข้อมูล CPI อังกฤษ ธ.ค.อยู่ที่ 2.5% ชะลอตัวในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ตลาดคาด BOE อังกฤษมีโอกาส 84% จะลดดอกเบี้ยในการประชุม 6 ก.พ.
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ทรงตัวรอตัวเลข US CPI ธ.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ โดยดัชนีนิเกอิ -0.08%, เซี่ยงไฮ้ -0.43% ขณะที่ดัชนีหุ้นอินโด ฯ +1.77% หลัง ธ.กลางอินโดฯ ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 5.75% ส่วนผลการประขุม ธ.กลางเกาหลีใต้เช้านี้ มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 3% และวันพรุ่งนี้ติดตาม GDP จีน Q4/67 คาด 5.0% & Q3/67 ที่ 4.6% YoY และ YTD +4.9% YoY
SET วานนี้ +0.96% ปริมาณการซื้อขาย 4 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,921 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,145 ลบ. ต่างชาติขาย 961 ลบ. และรายย่อยขาย 2,105 ลบ. ดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ทรัมป์อาจทยอยปรับขึ้นภาษีศุลกากร เพื่อลดความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐที่อาจปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี เริ่มปรับลดลง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสงครามการค้าสหรัฐ – จีน ที่รุนแรง ซึงเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มปิโตเคมีของไทย ส่วนกลุ่มค้าปลีกวานนี้ +2.5% รับข่าวบวก ม.แจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 2 จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในวันที่ 27 ม.ค. รวมถึง ม.Easy E-Receipt ที่จะเริ่มวันนี้จนถึง 28 ก.พ. ขณะที่กลุ่มพลังงานก็ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ หลังอิสราเอล & ฮามาสสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และจะมีการปล่อยตัวประกันของทั้ง 2 ฝ่าย โดยภาวะการซื้อขายวันนี้คาดดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง จาก Fund Flow ต่างชาติมีแนวโน้มชะลอการไหลออก หลัง US Bond Yield เริ่มปรับลดลง กอปรกับ กลต.กำลังออก ม.เปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้นของ บจ. ในช่วง Q1 นี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 แนวต้าน 1,370 คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังความผันผวนของ US Bond Yield 10 ปี เริ่มลดลง แนะนำเก็งกำไร DELTA,CCET,GULF,GPSC คาดได้ปัจจัยหนุนจาก US Bond Yield ปรับลดลง / กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC,OSP ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.แจกเงิน 1 หมื่นบาทเฟส 2 และ Easy E-Receipt / กลุ่มลงทุน Data Center เช่น ADVANC,INTUCH,TRUE,AMATA,WHA
PTTEP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) ได้รับ sentiment บวกในช่วงสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ตามประเด็นสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดพุ่งเป้าไปยังบริษัทน้ำมันของรัสเซีย ได้แก่ Gazprom Neft และซูร์กุตเนฟเตกัส (Surgutneftegas) รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมัน 183 ลำที่เคยขนส่งน้ำมันรัสเซีย ส่งผลให้ลูกค้าอย่างอินเดียและจีนจะซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียได้ยากขึ้นกว่าเดิมในช่วงแรก
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย50 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 +YoY -QoQ แม้มี Fx Loss และ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการควบบริษัทของ CPAXT รวม แต่กำไรยังทำได้ดีตามรายได้ +6%YoY -3%QoQ โดย QoQ อ่อนตัวตามฤดูกาล ส่วน YoY ยังโตได้ดีจากการฟื้นตัวกำลังซื้อในประเทศ และ สินค้าในร้านค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ส่วน 4Q67 คาดว่าจะ +QoQ +YoY หนุนด้วยปัจจัยตามฤดูกาล และ ม.กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศของภาครัฐฯ ขณะที่ GPM จะยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากสินค้าอาหาร เครื่องดื่มที่มาร์จิ้นสูง ใน 7-11 นอกจากนี้ 1Q68 ยังมีปัจจัยเสริมจาก Easy E-Receipt และมีของ OTOP ขายใน 7-11

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.พ. +$2.54 อยู่ที่ $80.04 / บาร์เรล, Brent มี.ค. +$2.11 อยู่ที่ $82.03/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 2 ล.บาร์เรล ลดมากกว่าคาดที่ 992,000 บาร์เรล กอปรได้ปัจจัยหนุนจาก ม.คว่ำบาตรบริษัทน้ำมัน & ก๊าซของรัสเซีย

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+35.50 อยู่ที่ $2,717.80 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.17% อยู่ที่ 109.08 หลังข้อมูล US Core CPI ธ.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.2% & คาดที่ 3.3% YoY

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -0.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -27.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +36.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -9.24 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.66 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -17 จุด อยู่ที่ 1,063

(+) BitCoinเช้านี้ +2.65% อยู่ที่ 99,957 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

14 ม.ค. ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย

สัปดาห์ที3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม.

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

ต่างประเทศ

14 ม.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (ธ.ค.)

15 ม.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ธ.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

16 ม.ค. US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)

US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ม.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

17 ม.ค. CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 4)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio January 2025: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

Analysts

Apichai Raomanachai