SCGP : บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง
4Q24 คาดพลิกขาดทุนหลังปัจจัยลบเข้ามาพร้อมกัน : เราคาดการดำเนินงาน 4Q24 พลิกขาดทุนหลังปัจจัยลบเข้ามาพร้อมกันทั้งต้นทุนวัตถุดิบเพิ่ม, หยุดซ่อมบำรุงประจำปี และรับรู้การผลขาดทุนจากดำเนินงาน Fajar เต็มไตรมาส โดยแบ่งเป็น
กลุ่มบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (Integrated Packaging Business : IPB) ได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนส่งผลให้อุปสงค์ดีขึ้น รวมถึงจีนมีการส่งออกมากขึ้นก่อนจะเริ่มมีผลหลังทรัมป์ขึ้นรับตำแหน่งทำให้การใช้กำลังการผลิตในจีนเพิ่มเป็น 75% จาก 70% และยังสามารถปรับราคาขายขึ้น 2-3% ได้ แต่จะเน้นการผลิตในจีนแทนการนำเข้า ส่งผลให้เกิดอุปทานล้นหลังส่งออกจีนไม่ได้ ส่งผลให้ EBITDA ดีขึ้น q-q แต่หลังรวมการดำเนินงานของ Fajar เข้ามาทำให้ภาพรวมการดำเนินงานหดตัว เพราะรับรู้ขาดทุนเต็มไตรมาส ขณะที่ 3Q24 รับรู้เพียง 1 เดือน
กลุ่มเยื่อและกระดาษ(Fibrous Business) สินค้าที่ขายให้กลุ่ม Food service ในยุโรปได้รับผลจากอากาศหนาวทำให้การขายลดลง แต่ในเอเชียดีจากฤดูท่องเที่ยว ส่วนกลุ่ม Pulp แม้กลุ่มเยื่อเคมีละลายจะดีขึ้นตามยอดขายกลุ่มสิ่งทอ แต่เนื่องจากมีการหยุดประจำปีราว 20-25 วันส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทำให้กระทบต่อ EBITDA ให้ลดลงเช่นกัน
กลุ่ม Recycling ได้รับผลจากต้นทุนเพิ่มขึ้นและอุปสงค์ชะลอตัวส่งผลให้ราคาขายลดลงทำให้กระทบต่ออัตรากำไรลงราว 20 เหรียญต่อตัน
ยังต้องรอต่อไป
“แนวโน้ม 4Q24 คาดกลับมาขาดทุนจากปัจจัยลบเข้ามาพร้อมกัน แม้ว่าอุปสงค์จะดีขึ้น แต่อาจไม่สามารถชดเชยได้ ขณะที่แนวโน้ม 1Q25 คาดจะเห็นการฟื้นตัวหลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มส่งผล
ตลาดยังไม่ค่อยเชื่อต่อการฟื้นตัวของการดำเนินงานทั้งธุรกิจเดิม รวมถึงต้องแบก Fajar เพิ่ม คงต้องรอการปรับโครงสร้างบริษัทดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ถึงจะทำให้ SCGP กลับมามีความน่าสนใจมากขึ้น
นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971 naree.a@liberator.co.th