สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 14 มกราคม 2568)------นายวิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) SMD100 เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 บริษัท เอสเอ็มดีไอ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อย (ถือหุ้น 100%) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในโครงการ ศูนย์ บำบัดโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี Proton Therapy โดยโครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญในการขยายขีดความสามารถด้าน การแพทย์ของประเทศไทย พร้อมยกระดับการรักษาให้ได้มาตรฐานระดับสากล
รายละเอียดโครงการ
• โครงการนี้มีการลงทุนเกือบ 2,000 ล้านบาท
• รองรับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้มากถึง ปีละเกือบ 1,000 คน
• คาดว่าจะสร้างรายได้ตลอดอายุสัญญา 20 ปี มากกว่า 12,000 ล้านบาท
• โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการลงทุนที่มีผลตอบแทนเชิงเศรษฐกิจควบคู่กับผลกระทบเชิงสังคม หรือ Financial Returns with Social Impact โดยแสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างการสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจและการยกระดับคุณภาพ ชีวิตของประชาชน ข้อดีของเทคโนโลยี Proton Therapy เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่ล้ำสมัย มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการฉายรังสีแบบเดิม (LINAC)
โดยมีจุดเด่นดังนี้:
1. ความแม่นยำสูงสุด (Superior Precision) : สามารถส่งพลังงานรังสีเข้าถึงเนื้อเยื่อมะเร็งโดยตรง ลดความเสียหาย ต่อเนื้อเยื่อปกติ
2. ผลข้างเคียงต่ำ (Minimal Side Effects) : ลดความเสี่ยงต่ออวัยวะใกล้เคียง ส่งผลให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น
3. เหมาะสำหรับมะเร็งที่ซับซ้อน (Optimal for Complex Tumors) : เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งในเด็ก และมะเร็งที่อยู่ใกล้ หัวใจหรือไขสันหลัง
4. เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย (Improved Quality of Life) : ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วและมี คุณภาพ
นอกจากนี้ยังสนับสนุนนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาล
โครงการศูนย์ Proton Therapy นี้ยังสอดคล้องกับนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาลไทย ที่มุ่งพัฒนาประเทศให้เป็น ศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน โดยการนำนวัตกรรมการรักษาระดับโลกเข้ามาใช้ เพิ่มขีดความสามารถของระบบ สาธารณสุข และดึงดูดผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ความคิดเห็นจากผู้บริหาร
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า :
“โครงการศูนย์บ าบัดโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี Proton Therapy เป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่จะ ขับเคลื่อนวงการแพทย์ไทยไปสู่ระดับสากล เรามั่นใจว่าศูนย์นี้จะเป็นทั้งจุดเปลี่ยนในวงการรักษาโรคมะเร็งของประเทศ และเป็น ส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้เป็น Medical Hub ในภูมิภาค ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดมา ให้บริการ”
“การลงทุนในโครงการนี้ยังเป็นแบบอย่างที้ดีของการสร้าง ผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Returns) ที่ควบคู่ไปกับ ผลกระทบเชิงสังคม (Social Impact) ซึ่งตอบสนองทั้งความต้องการของผู้ถือหุ้นและความรับผิดชอบต่อสังคม”
โครงการที่เกี่ยวข้องในเครือ
ก่อนหน้านี้บริษัท เอสเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังได้ดำเนินงานใน โครงการศูนย์ตรวจการนอนหลับ ขนาด 11 เตียง ในศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ (THAMC) ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก American Accreditation Commission International (AACI) พร้อมให้บริการประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือชื่อใหม่ บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการ ให้บริการทางการแพทย์ พร้อมลงทุนในโครงการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อผลักดันวงการแพทย์ไทยให้ ก้าวหน้าสู่เวทีระดับโลกในรูปแบบ “Building Hospital Empire, No Hospital Required.” ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในประกอบธุรกิจ การให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในปัจจุบันและอนาคต
อนึ่ง โครงการนี้คาดว่าจะดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการ ภายใน 2 ปี ซึ่งโดยปกติแล้ว ศูนย์ฉายแสงรักษา มะเร็งด้วยระบบโปรตอนจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4-5 ปี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทคัดสรรมามีขนาดกระทัดรัดที่สุด ในปัจจุบัน