วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ปรับตัวลงต่่าสุดราว 18 จุด โดยได้รับ Sentiment เชิงลบจากสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ ท่าให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้่ามันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นและมีแรงซื้อเก็งก่าไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนการประกาศงบปี 67 เป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดที่ 1,354.34 จุด -13.65 จุด -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 42,966.31 ลบ. ProgramTrading -6.24 ลบ. ต่างชาติ +118.21 ลบ. TFEX -15,730 สัญญา ตราสารหนี้ -5,096.48 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 358.67 จุด หรือ +0.86% แต่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ดัชนี Nasdaq ปิดลบ ขณะที่ดัชนี S&P500บวกเล็กน้อยหลังร่วงลงแตะระดับต่่าสุดในรอบ 2 เดือนในระหว่างวันโดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งความกังวลว่า FED จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
+ สัญญาน้่ามันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 2.25 ดอลลาร์ หรือ +2.94% ปิดที่78.82 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ว่าการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่่าบาตรต่ออุตสาหกรรมน้่ามันของรัสเซีย จะส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อน้่ามันในอินเดียและจีนต้องหันไปพึ่งพาซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ
+ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร (UK) แถลงวิสัยทัศน์การน่าพา UKสู่การเป็นผู้น่าระดับโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยวางแผนจัดตั้งเขตพิเศษส่าหรับศูนย์ข้อมูล พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนหันมาศึกษาด้านเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
+ กลุ่มฮามาสให้ค่าตอบ "ในเชิงบวก" ต่อร่างข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาที่ได้รับการเสนอจากตัวแทนการเจรจาไกล่เกลี่ยที่กรุงโดฮาเมืองหลวงของกาตาร์
+ BOI เปิดเผยว่าแนวโน้มการลงทุน ปี 68 คาดว่าจะมียอดค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 1.1 1ล้านล้านบาทเติบโต 35% สูงสุดในรอบ 10 ปีจ่านวนโครงการ 3,137 โครงการเพิ่มขึ้น 40% สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ปัจจัยลบ
- ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ส่งกฤษฎีกาปรับแก้ก่อนชงเข้าสภา
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้่าหนัก97.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. นักลงทุนคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.,พ.ค.,มิ.ย.และก.ค. ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568
- อินเดียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 5.22%YoY ในเดือนธ.ค.2567ต่่าสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค .2567 และต่่ากว่าตัวเลข คาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.30%
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้่ามันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรงประกอบกับได้แรงหนุนจาก Chat with Tony ที่พยายามจะแก้ปัญหาในตลาดทุน มองกรอบดัชนีที่ 1,350-1,365 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL
• Chat with Tony : VGI BTS BEM GULF INTUCH