Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

342


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index รีบาวน์กลับ
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการเติบโต


Market Strategy
SET Index คาดรีบาวน์ตามกรอบ 1350-1370 จุด แรงกดดันจากภายนอกลดลงหลัง U.S.Bond Yield สหรัฐฯเริ่มทรงตัว การรายงานตัวเลขนำเข้า/ส่งออกจีนเดือน ธ.ค. ขยายตัวดีกว่าคาด ส่วนปัจจัยในประเทศคาดน่าจะมี Sentiment ที่ดีขึ้นจากการขับเคลื่อนโครงการต่างๆในอนาคตของรัฐบาล วันนี้เลือก TRUE และ SKY

ประเด็นในประเทศวันนี้เชื่อว่านักลงทุนให้น้ำหนักการแสดงวิสัยทัศน์ของคุณทักษิณ ในงาน Chat with Tony โดยเราได้สรุปประเด็นหลักและหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ดังนี้ 1) ฟื้นความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน ซึ่งจะต้องมีความโปร่งใส เป็นธรรมและการจัดการปัญหาที่รวดเร็ว 2) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น DATA CENTER, AI, Semiconductor, Entertainment Complex และ Biotechnology มองเป็นบวกต่อกลุ่มนิคม WHA AMATA GULF BTS VGI MEDEZE เป็นต้น 3) ส่งเสริม Platform ใหม่เพื่อเพิ่มธุรกรรมที่เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจ เช่น Bitcoin, Carbon Credit และ Virtual Bank บวกต่อ BBIK DITTO 4) ภาคการท่องเที่ยว สร้างความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวและจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด AI ในพื้นที่ จ. ท่องเที่ยวและ กทม. มองเป็น SKY 5) โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ในส่วน Infrastructure Fund จะตั้งเสร็จในเดือน ต.ค. มองเป็นบวกต่อ BTS STEC 6) การฟื้นกองทุน LTF และสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืน เนื่องจาก Valuation ถูก ภาพรวมงานที่ออกมา เราเชื่อว่าจะสร้าง Sentiment ที่ดีช่วยต่อตลาดหุ้นบ้านเราฟื้นกลับในวันนี้

สำหรับปัจจัยต่างประเทศแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐฯลดลงจากตลาดหุ้นที่เริ่มมีการรีบาวน์กลับหลัง U.S.Bond Yield ชะลอการปรับขึ้น เพื่อติดตามการรายงานดัชนี PPI และ CPI เดือน ธ.ค. ในสัปดาห์นี้ ฝั่งของจีนวานนี้รายงานตัวเลขส่งออก/นำเข้าเดือน ธ.ค. ขยายตัวได้ดีกว่าคาดและมากกว่าเดือนก่อน จากการเร่งทำธุรกรรมก่อนที่คุณ Trump จะเข้ารับตำแหน่ง โดยมีสัญญาณบวกจากยอดนำเข้าจาก ASEAN ที่ขยายตัว 5.4%YoY ซึ่งเรามองเป็นสัญญาณชี้นำด้านบวกต่อส่งออกเดือน ธ.ค. ของเรา โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มยางพารา STA NER

 


Market Summary
SET Index ปรับลง -1% ตามตลาดหุ้นภูมิภาคจากความกังวลดอกเบี้ยลดลงช้า กลุ่มที่ Underperform กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ -5% กลุ่มไฟแนนซ์ -1.6% กลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM -1.2% GULF -0.9% ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวปรับลง -1.5% และ AOT -3% จากความกังวลการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน กลุ่มที่แข็งกว่าตลาดกลุ่มธนาคาร +1.4% จากความคืบหน้าสถานบันเทิงครบวงจร VGI+3% BTS +1.7% MBK +2.6%

 

 

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ TRUE SKY

 

TRUE
งบ 4Q67 สวย
พร้อมปรับประมาณการกำไรขึ้น
เราคาดว่ากำไรหลัก 4Q67 ที่ 3.4 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนหลัก 1.0 พันล้านบาทใน 4Q66 และเพิ่มขึ้นจากกำไรหลัก 2.9 พันล้านบาทใน 3Q67 คาดการเติบโตของกำไร 17% QoQ หนุนโดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 1.1% QoQ และค่าใช้จ่ายด้าน SG&A และดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจมือถือใน 4Q67 ซึ่งคิดเป็น 79% ของรายได้บริการหลัก คาดว่าจะเติบโต 1.2% QoQ จากการเพิ่มขึ้นของ ARPU และจำนวนผู้ใช้งาน โดยใน 4Q67 คาดมีลูกค้าเพิ่มขึ้น พลิกจากเสียลูกค้า 2.6 ล้านรายใน 9M67 (จากการลดค่าคอมมิชชั่นขายซิมการ์ดแบบเติมเงิน)
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 67 ขึ้น 5% โดยปรับเพิ่มประมาณการรายได้บริการหลัก 0.3% และลดค่าใช้จ่าย SG&A ลง 0.5% สำหรับปี 68/69 เราได้ปรับประมาณการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งกำไรหลักใหม่ปี 67/68 ของเราสูงกว่าที่ตลาดคาด 9%/15% ซึ่งการปรับเพิ่มประมาณการของตลาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อการปรับราคาหุ้น (re-rating) ของ TRUE ในอนาคต
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.90 บาท

 

SKY
ได้ประโยชน์จากการลงทุน
ด้าน IT ของภาครัฐฯ
คาดว่ากำไรหลักในปี 68 จะเติบโต 56% YoY จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารสนามบินและการลงทุนของภาครัฐ ราคาเป้าหมายอิงวิธี SoTP อยู่ที่ 30.10 บาท แบ่งเป็น 1) 23.60 บาทจากบริการที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน และ 2) 6.50 บาท จากธุรกิจ SI (System Integration)
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากงาน “Chat With Tony” หลังวานนี้คุณทักษิณเผยว่าถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิด Embedded AI ใน กทม. และต่างจังหวัด ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าประมูลงานของ SKY ในอนาคต
ด้านงบประมาณการลงทุนทางด้าน IT ของ 5 หน่วยงานภาครัฐ (ประกอบด้วยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กรมท่าอากาศยาน การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมศุลกากร) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 20% YoY ในปีงบประมาณ 68 เป็นปัจจัยบวกต่อโอกาสในการเข้ารับงานใหม่ต่อไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.10 บาท

 

 

 

 

KEY FACTOR
ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีน เดือน ธ.ค. 1) นำเข้า ขยายตัว +1.0% YoY พลิกเป็นบวกจากที่ Consensus คาด -1.0% และดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ -3.9% 2) ส่งออก ขยายตัวเด่น +10.7% YoY สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ +7.5% YoY และเร่งตัวจากเดือนก่อนที่ +6.7%YoY อย่างไรก็ตามแม้ว่าตัวเลขจะออกมาโดดเด่น แต่การตีความของตลาดให้น้ำหนัก การที่ภาคธุรกิจเร่งส่งออกก่อนที่ Donald Trump จะขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เลี่ยงคามเสี่ยงจากความไม่แน่นอนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
วันนี้ ติดตามการรายงาน PPI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ซึ่ง Consensus คาดจะเร่งตัว +3.5% YoY จาก +3.0% ในเดือนก่อนหน้า และ +0.4% MoM โดยมีแรงกดดันมาจากภาคบริการ (เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าตั๋วเครื่องบิน) ซึ่งแม้ว่าส่วนหนึ่งจากมาจากปัจจัยทางฤดูกาล แต่อาจเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ภาพเงินเฟ้อ (CPI) ที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของฝั่งผู้บริโภคอาจเร่งตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

 

 

 

EYES ON
14 ม.ค. ดัชนี PPI สหรัฐฯ ธ.ค.
15 ม.ค. ดัชนี CPI สหรัฐฯ ธ.ค.
17 ม.ค. GDP 4Q67 จีน, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และจีน, ดัชนี CPI Eurozone ธ.ค.

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้