Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

248

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 10 ม.ค.68 ปิด +5.02 จุด อยู่ที่ 1,367.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,718 ลบ. ต่างชาติขาย 1,103 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 164 ลบ. สถาบันซื้อ 567 ลบ. และรายย่อยซื้อ 701 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 812 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,PTTEP,CPALL,TRUE,MINT และยอดขายหุ้น PTT,DELTA,BBL,INTUCH,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,462 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,OR,PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,123 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 41,063 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 459 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.63%, S&P500 -1.54%, Nasdaq -1.63% หลัง ก.แรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ช้ากว่าคาด ซึ่งเป็นผลลบต่อกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.84% จากแรงขายกลุ่มสาธารณูปโภค -2.3%, อสังหา -1.1% ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนนโยบายการค้าของทรัมป์ และเฟดอาจคงดอกเบี้ยต่อไป

Market View

  • DJIA -1.86%, S&P500 -1.94%, Nasdaq -2.34% WoW ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค. เพิ่มขึ้น 256,000 & พ.ย. 227,000 สูงกว่าคาดที่ 154,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงาน ธ.ค. ลดลงอยู่ที่ 1% & พ.ย. 4.1% บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐยังขยายตัวได้ดี กอปรนักลงทุนกังวลต่อนโยบายกีดกันการค้า และ ม.ควบคุมผู้อพยพของทรัมป์ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มสูงขึ้น โดย CME FedWatch ชี้โอกาส 93.6% ที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 -4.5% ในการประชุมวันที่ 29 ม.ค. และคาดปีนี้จะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งใน มิ.ย. สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล US CPI & PPI , ยอดค้าปลีก, ตัวเลขเริ่มสร้างบ้าน, ผลผลิตภาคอุต ฯ ธ.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานกำไร Q4/67 กลุ่มธนาคารสหรัฐ
  • Stoxx 600 +0.65% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้า & บริการอุปโภค, เทคโนโลยี และบริการสุขภาพ แต่ช่วงปลายสัปดาห์ดัชนีปรับลดลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอยุ่ที่ 567% สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 67 จากความกังวล ECB อาจชะลอการลดดอกเบี้ยใน ม.ค. และ มี.ค. นี้ หลัง CPI ยูโรโซน ธ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.4% & พ.ย. 2.2% YoY โดยราคาอาหาร & พลังงานยังมีแนวโน้มปรับสูง
  • MSCI Asia Pacific X Japan -1.85% WoW หลังดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.3% WoW จากความกังวลต่อภาวะเงินฝืดในจีน หลังข้อมูล CPI จีน ธ.ค.อยู่ที่ 0.1% & พ.ย. 0.2% YoY ชะลอตัวเป็นเดือนที่ 4 และ PPI จีน ธ.ค. คาด -2.3% & พ.ย. -2.5% YoY หดตัวเป็นเดือนที่ 27 กอปรยังกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ ส่วนดัชนีนิเกอิ -1.7% WoW หลังข้อมูลค่าจ้างแรงงานของญี่ปุ่น ธ.ค. ปรับสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อญี่ปุ่นสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ดังนั้น BOJ อาจพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง ม.ค. หรือ มี.ค. นี้ สัปดาห์นี้วันศุกร์ ติดตาม GDP จีน Q4/67 คาด 5.0% & Q3/67 ที่ 4.6% YoY และ YTD +4.9% YoY
  • SET -1.21% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 02 หมื่น ลบ. +22.8% WoW ต่างชาติขาย 1,384 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,123 ลบ. สถาบันซื้อ 397 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,110 ลบ. WoW โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มปิโตรเคมี -8.9%, บรรจุภัณฑ์ -7.0% และวัสดุก่อสร้าง -4.9% WoW ซึ่งเป็นกลุ่ม Global Play ที่อาจถูกกดดันจาก ม.กำแพงภาษีของทรัมป์ ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว & ขนส่งก็ถูกแรงขาย จากประเด็นข่าวอาชญากรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย โดย ATTA คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงตรุษจีนอาจลดลง 10 – 20% ทางด้านปัจจัยในประเทศนั้น กลต.กำลังพิจารณาเกณฑ์ปล่อย Margin Loan ใหม่ ซึ่งอาจเป็นผลลบต่อปริมาณการซื้อขายของตลาด ส่วนประเด็นที่ต้องติดตมวันนี้ ผลการประชุม ครม.คาดมีการพิจารณาร่าง พรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และช่วงค่ำคุณทักษิณ จะแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Bull Rally Thai Capital Market / วันอังคาร TISCO จะรายงานกำไร Q4/67 คาด 1.7 พัน ลบ. -1%QoQ, -4%YoY และวันพฤหัส เริ่ม ม.Easy E-Receipt สามารถหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า & บริการ จนถึง 28 ก.พ. นี้

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,360 แนวต้าน 1,375 – 1,380 คาดดัชนีถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลออก ระหว่างรอประเมินนโยบายการค้าของทรัมป์ แต่คาดยังได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อจาก ม.Easy E-Receipt, ม.แจกเงินผู้สูงอายุ และ ม.ส่งเสริมลงทุนด้าน Data Center แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC,SYNEX/ ADVANC,INTUCH,GULF,WHA,SIS คาดได้ประโยชน์จากการลงทุน Data Center / VGI,BTS,BA คาดได้ประโยชน์จากร่าง พรบ.Entertainment Complex
  • PCE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Consensus 3.55 บาท) งวด 9M67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท +103%YoY ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไรปกติในงวด 4Q67 จะยังดีขึ้น QoQ จากราคา CPO ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับราคาในตลาดโลก ช่วยชดเชยปริมาณขาย B100 ที่ถูกกระทบจากการปรับสัดส่วนเป็น B5 ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.67 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะรักษาระดับได้และผันผวนน้อยกว่าคนอื่นเนื่องจากธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยทั้งปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้จะเติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมาย ส่วนในปี 68 แม้ในประเทศจะถูกกระทบจาก B5 แต่จะได้ประโยชน์จากตลาดส่งออกในช่วง 1H ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจากนโยบายปรับส่วนผสมไบโอดีเซลของอินโดนีเซียเพิ่มเป็น B40 ส่วน PCE เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มี Market Share อันดับ 1 ของไทย มีความได้เปรียบการแข่งขันที่ตอนนี้ไทยยังไม่มีการเก็บ export tax
  • MASTER* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 58.92 บาท) กำไรสุทธิ 9M67 อยู่ที่ 303 ลบ.,+20%YoY หนุนด้วยรายได้ศัลยกรรมและรายได้ต่างชาติ รวมถึง Equity Income ที่สูงขึ้น ขณะที่ 4Q67 คาดการดำเนินงานยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการจัดอีเว้นท์ในต่างประเทศ ส่วนภาพรวมปี2568 นี้ ทางผู้บริหาร MASTER วาง เป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดย เป็นการโตแบบ Organic ในสัดส่วน 80% และอีก 20%เติบโตแบบ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ทั้งนี้ ตลาดคาด กำไรสุทธิปี67 และ 68ของ MASTER* ที่ 501 ลบ.( +22%YoY)  และ 624 ลบ.(+25%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.พ. +$2.56 อยู่ที่ $76.57 / บาร์เรล, Brent มี.ค. +$2.84 อยู่ที่ $79.76/บาร์เรล ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ & ยุโรป กอปร ปธ.ไบเดนอาจออก ม.เพิ่มเติมในการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมัน & ก๊าซของรัสเซีย

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+24.2 อยู่ที่ $2,715 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +1.7% WoW เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -196.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -39.68 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -130.90 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -25.69 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.765 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +79 จุด อยู่ที่ 1,048

(+) BitCoinเช้านี้ +0.55% อยู่ที่ 95,103 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ส่งออกจีน ธ.ค. คาด 7.3% & พ.ย. 6.7% YoY, นำเข้าจีน ธ.ค.คาด -1.5% & พ.ย. -3.9% YoY

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

14 ม.ค.     ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย

สัปดาห์ที3 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม.

                กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

 

ต่างประเทศ

14 ม.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (ธ.ค.)

15 ม.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ธ.ค.)

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

16 ม.ค.     US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)

US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ม.ค.)

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

17 ม.ค.     CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 4)

                EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้