Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

750

 


"Cyclical Play"

KSS Daily Strategy: คาด SET วันนี้ "ผันผวนก่อนฟื้นตัว" ต้าน 1370/1375 จุด รับ 1352/1342 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน ดัชนี S&P500 -1.54% ตลาดปรับสถานะสินทรัพย์ใหม่ หลังภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค. 24 ดีกว่าคาด เพิ่ม m-m สู่ 2.56 แสนตำแหน่ง อัตราว่างงาน ลดลงเหลือ 4.1% ทำให้ตลาดกังวลวงจรดอกเบี้ยที่ลดลงช้ากว่าคาด US Bond Yield 10 ปีเร่งขึ้น +9 bps สู่ 4.77% ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ พ.ย. 23 กดดันเงินบาทอ่อนค่าสู่ 34.73 บาท จิตวิทยาลบต่อ SET อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นเร่งเฉลี่ย 3.64% จากความกังวล Supply น้ำมันที่กลับมา หลังสหรัฐฯเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซรัสเซีย ระยะสั้นน่าจะช่วยให้กลุ่มพลังงานต้นน้ำ (10-11% มูลค่าตลาด SET) ขณะที่ดัชนีกรอบ 1360-1345 จุดเป็นโซนที่มี Equity Risk Premium ระดับ AVG + 1 S.D. ที่เป็นจุดกลับตัวกรณีไม่มีวิกฤติ ผสาน ความคาดหวังเชิงบวกต่อข้อมูลจากงาน "Chat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market" ช่วงเย็น คาด SET วันนี้ผันผวนก่อนมีโอกาสฟื้นตัวระหว่างวัน หุ้นนำ คือ กลุ่มพลังงานต้นน้ำ กลุ่มธนาคาร กลุ่มที่ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า และหุ้น Dividend Plays วันนี้แนะนำ PTTEP, KTB, SCB เด่น

 

 

 

 

Daily outlook: "ผันผวนก่อนฟื้นตัว" ต้าน 1370/1375 จุด รับ 1352/1342 จุด

What happened around the world?

(*/-) US Stocks: ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงแรง จากประเด็นตัวเลขแรงงานสหรัฐแกร่งหนุนคาดการณ์สหรัฐไม่รีบลดดอกเบี้ย หรือ Good News is Bad News โดย Dow jones -1.63%d-d S&P500 -1.54%, Nasdaq -1.63%d-d โดยดัชนี S&P 500 Sectors ที่ปรับขึ้นมีเพียง กลุ่ม Energy, นอกนั้นทุก Sector ปรับลงหลักๆคือ Real estate, Financials, IT, Consumer staples ฯลฯ โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวผันผวน NVDIA -3.0% AMD -4.76% แรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า สหรัฐฯ อาจประกาศข้อกำหนดใหม่ด้านการส่งออก เป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

(*)US labor รายงานภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ธ.ค. 24 แกร่ง 1.) ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค.24 เร่งขึ้นมาที่ 2.56 แสนตำแหน่งสูงกว่าตลาดคาด 1.53 แสนตำแหน่ง vs prev. 2.27 แสนตำแหน่ง. โดยรวมหนุนอัตราว่างงาน ธ.ค. 24 ลดลงมาอยู่ที่ 4.1%ดีกว่า ตลาดคาด 4.2% 3.)ค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น +0.3%m-m, 3.9y-y ใกล้เคียงคาด 4.) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ม.ค ร่วงลงสู่ระดับ 73.2 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 74.0 prev. 74.0 ในเดือน ธ.ค. โดยรวมสะท้อนภาพการจ้างงานสหรัฐฯบ่งชี้ภาพ Goldilocks to Soft Landing ของสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างชัด และยังไม่น่าจะทำให้ตลาดกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย (Hard Landing)

(*)Donald Trump :นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ รอดพ้นจากการถูกจำคุกในคดีอาญาที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดก่อนหน้านี้ ฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ โดยปกปิดการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ ลดความกังวลในช่วงก่อนหน้าซึ่งจะเข้ารับตำแหน่ง 20 ม.ค. มองุ้นในตีม Donald Trump อาทิ กลุ่มธนาคาร SCB KTB กลุ่มคริปโต JTS BTC (trading) กลุ่มนิคม AMATA WHA

(*) TSMC : ผู้ผลิตชิปขั้นสูงรายใหญ่ที่สุดในโลกของไต้หวันประกาศรายงานรายได้เดือน ธ.ค. ที่ TWD 278.16 bn +58%y-y แต่ Flat m-m โดยรวมทำให้รายได้ใน 4Q24 อยู่ที่ TWD 869 bn มากกว่า Bloomberg Censensus คาด โดยรวมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วน แต่มองเป็นบวกต่อ DELTA เนื่องจากมีรายได้ที่จาก Data Center และ AI Application

(*) To monitor : ฝั่งสหรัฐ 14 ม.ค. ติดตามเงินเฟ้อ PPI ธ.ค. คาด +0.4%m-m เท่าเดือนก่อนม 15 ม.ค. ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ธ.ค. คาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.9%y-y, +0.3%m-m ฝั่งจีน 17 ม.ค. ติดตามรายงาน GDP ไตรมาส 4 คาด +5.0%y-y vs prev. +4.6%y-y และติดตามดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีน ธ.ค. ฝั่งยุโรป 17 ม.ค. ติดตามรายงานเงินเฟ้อ CPI ธ.ค. คาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.4%y-y, +0.3%m-m vs prev. +2.2%y-y, -0.3%m-m, เงินเฟ้อพื้นฐาน +2.4%y-y vs prev. +2.2%y-

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐปรับขึ้นต่อและทำจุดสูงสุดตั้งแต่ พ.ย.23 รับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแกร่ง อิง อายุ 2 ปี ปรับขึ้น 11 bps อยู่ที่ 4.381% และอายุ 10 ปีปรับขึ้น 5 bps อยู่ที่ 4.72% (หากอิงสถิติ US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield 10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว) มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร KBANK SCB BBL ประกันชีวิต BLA TLI ส่วน Dollar Index แกว่งตัวแข็งค่าต่อขึ้นมาบริเวณ 109.5 จุด

(*/+) Oil : ราคาน้ำมันดิบเป็นขาขึ้นและทำจุดสูงสุดตั้งแต่ พ.ย.24 น้ำมันดิบ Brent +3.7%d-d ปิดที่ USD 79.7/barrel น้ำมันดิบ West Texas +3.58%d-d ปิดที่ USD 76.5/barrel แรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะหายไป คือข่าว รัฐบาลสหรัฐ ไบเดนได้ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ผลิตน้ำมัน, เรือบรรทุกน้ำมัน, คนกลาง, เทรดเดอร์ และท่าเรือต่าง ๆ ของรัสเซีย โดยรวมมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ เน้นเก็งกำไร PTTEP

What happened in Thailand?

(-) SET Index SET Index วันทำการล่าสุดผันผวนรอรีบาวน์ปิดบวก 5.02 จุด (+0.37%) ปิดที่ระดับ 1367.99 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) เป็นกลุ่มนำฟื้นตัวตามที่ KSS ประเมิน จากจุดเด่น Dividend กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA, CCET) ยอดขาย DELTA ไต้หวัน ธ.ค. 24 ยังหนุนโมเมนตัมบวก ส่วน CCET ยอดขาย ธ.ค. 24 ยังเด่นวานนี้ CCET รายงานยอดขายเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นแตะระดับ 350 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.9%yoy กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มขนส่ง (AOT) ภาคท่องเที่ยวเผชิญประเด็นความเสี่ยงนักท่องเที่ยวจีนอาจชะลอเข้าไทย กลุ่มอสังหาฯ (AWC) คาดเป็นประเด็นเดียวกับ AOT

(*/-) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุด เงินไหลออก ขายหุ้น -31.7 ล้านเหรียญฯ แต่ซื้อพันธบัตร +12.1 ล้านเหรียญฯ TFEX Net short -3,123 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าสู่ 34.73+/- บาท

(*/+) New Law: รมว. กระทรวงดิจิทัลฯ เปิดเผยเตรียมผลักดัน 2 นโยบายผ่านกลไกการแก้ไขกฎหมาย 2 ส่วน ดังนี้

1.) การนำธุรกิจพนันออนไลน์เข้าสู่ระบบ โดยจะต้องจะต้องปรับปรุงกฎหมายลำดับรอง โดยเตรียมออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการรัฐสภา เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน คาดนำเรื่องเสนอ ครม. สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลกรุงเทพธุรกิจรายงานในปี 2023 พบว่า

- ตลาดดังกล่าวโลกมีขนาดใหญ่ 9.5 หมื่นล้านเหรียญฯ ตลาดที่ใหญ่สุด คือ สหรัฐฯ ตามด้วย สหราชอาณาจักร ส่วนเอเชีย นำโดยญี่ปุ่น ตามด้วยจีน

- ไทยมีมูลค่าราว 488.9 ล้านเหรียญฯ โดยมีแนวโน้มเติบโตสูง 7.3% ต่อปี

ดังนั้น หากนำธุรกิจดังกล่าวเข้ามาในระบบและมีระบบกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ คาดส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจภาพรวม ขณะที่ระยะสั้นน่าจะมีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบกำกับดูแลก่อน ประเมินเป็นบวกหุ้นรับเหมา ICT และ Digital Tech อาทิ SAMART (เก็งกำไร แนวรับ ( ) แนวต้าน ( ) , Stop Loss ) BE8 และ BBIK

2.) ดินหน้าจัดทำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันด้านเศรษฐกิจดิจิทัลบนเวทีโลก คาดเริ่มมีผลบังคับใช้ปลายปี 25 ประเมินช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ดีขึ้น ถือเป็นจิตวิทยาทางบวกกลุ่มสื่อสารที่การผลักดันจะช่วยให้ปริมาณการใช้งานข้อมูลเร่งขึ้นต่อเนื่อง ระยะสั้นเน้น หุ้นเด่น Yield ADVANC, INTUCH

(*/+) TH Tourism: อิงรายงานสำนักตรวจคนเข้าเมือง 10 ม.ค. 25 นักท่องเที่ยวสูง 1.28 แสนคน กลุ่มที่เข้ามามากสุด คือ จีน บ่งชี้สัญญาณการท่องเที่ยวกลับมาเร่งขึ้นหลังผ่านสัปดาห์หลังปีใหม่ที่มักลดลงจากฐานสูง ขณะที่ YTD ถึง 10 ม.ค. อยู่ที่ 1.08 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 1.08 แสนคน หากเทียบค่าเฉลี่ยรายวัน ม.ค. 24 ที่ 9.7 หมื่นคน ยังเห็นการเติบโต 10.3%y-y ยังบ่งชี้การเดินหน้าสู่กรอบนักท่องเที่ยวปี 2025F ที่ Krungsri Research ประเมิน 40 ล้านคน (+12%y-y) ประเมินจิตวิทยาบวกหุ้นอิงภาคท่องเที่ยว บริการ ทั้งนี้ หากรวมประเด็นจิตวิทยาลบ Entertainment Complex (รายละเอียด Bullet ถัดไป) เราให้น้ำหนักกลุ่มดังกล่าวันนี้เป็นกลาง

(*/-) Entertainment Complex:แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์ นี้ โดยหลังผ่าน ครม. แล้ว จะส่งร่างฯให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุด กฤษฎึกาได้มีการพิจารณาก่อนเสนอ ครม. ให้ความเห็นโครงการดังกล่าวว่าวัตถุประสงค์ไม่ชัด โดยควรกำนดกรอบสถานบันเทิงให้ความมีชัดเจนว่าหมายถึง กิจการอะไร อาทิ กรณีการแก้ไขพนันผิดกฎหมาย ก็ให้พิจารณาเฉพาะในส่วน กฎมายว่าด้วยการพนัน โดยรวมทำให้การผลักดันร่าง ฯดังกล่าวยังต้องรอติดตามว่ารัฐฯจะเดินหน้าได้ต่อหรือไม่ อย่างไรก็ดี กระบวนการที่มีโอกาสสะดุด ถือเป็นจิตวิทยาลบหุ้นในธีม Entertainment Complex ในส่วนหุ้นท่องเที่ยว ภาคบริการ

(*/-)Consumer IT: ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏข่าว มือถือ Oppo และ Realme มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่น "กู้เงิน" ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การแอบติดตั้งซอฟต์แวร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้นับเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน และเสี่ยงต่อการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด อย่างไรก็ดี การแก้ไขปัญหาที่ค่อนข้างรวดเร็ว เราประเมินเป็นจิตวิทยาลบอ่อนๆระยะสั้นต่อกลุ่มจำหน่ายมือถือ ประเมินหุ้นปรับลงเป็นโอกาสลงทุนหุ้นเด่นที่เราชื่นชอบทางพื้นฐาน ADVICE

(*) To monitor: ปัจจัยกายในสัปดาห์นี้ติดตาม

1.) 13 ม.ค. ติดตามข้อมูลงานสัมมนา "Chat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market" โดยมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ให้ข้อมูล

2.) 14 ม.ค. ประชุม ครม. และรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติ ญธธฎรายสัปดาห์

3.) 14 ม.ค. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค. 24 ไม่มีคาด vs prev. 56.9 จุด

4.) 14 ม.ค. กลุ่มธนาคารเริ่มรายงานกำไร 4Q24F นำโดย TISCO ตามด้วย 17 ม.ค. ในส่วน TISCO ธนาคารที่เหลือคาดทยอยรายงานสัปดาห์ถัดไปช่วง 20-21 ม.ค. ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มธนาคารที่เราศึกษา ประเมิน กำไรสุทธิ 4Q24F ที่ 4.90 หมื่นลบ. กำไรเพิ่มขึ้น +15% y-y เพราะ i) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ ii) การลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ขณะที่กำไรลดลง -11% q-q เพราะ i) การลดลงของ yield on loan ii) การลดลงของเงินลงทุน(FVTPL) iii) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายตามฤดูกาล โดยทางพื้นฐานเราชื่นชอบ KBANK และ KTB มากสุด

5.) 16 ม.ค. นโยบาย Easy E-Receipt เริ่มมีผล คาดหนุนภาพบริโภคคึกคักขึ้น

6.) 17 ม.ค. นายกฯ เตรียมเปิดตัว "บ้านเพื่อคนไทย"

 

Daily Strategy : PTTEP, KTB, SCB

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ "ผันผวนก่อนฟื้นตัว" ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ US Bond Yield ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ พ.ย. 23 หลังภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม จุดบวกที่พอช่วยประคอง SET ได้ คือ SET อยู่ในโซน Value ERP ปัจจุบันใกล้ AVG + 1 S.D. ที่มักเป็นจุดกลับตัวกรณีไม่มีวิกฤติ 1.) Yield ที่เร่งขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าหนุนจิตวิทยาบวกกลุ่มธนาคารและกลุ่มได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า 2.) ราคาน้ำมันที่เร่งเฉลี่ย +3.6% หนุนกลุ่มพลังงงานต้นน้ำ 3.) ความคาดหวังเชิงบวกต่อตลาดทุนจากต่อข้อมูลจากงาน "Chat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market" ช่วงเย็น

 

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, CPF, SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, BJC)

•Jan 2025 Stock Picks : ADVANC, INTUCH, SCB, TTB, BTS, GULF, MALEE

• 2025F Stock Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

Tactical & Investment Idea

 

Research Highlight

 

Strategy Update: คาด Global Minimum Tax กระทบจำกัดกว่าตลาดกังวล โอกาสลงทุนหุ้น Infra Tech

จากกรณี ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.ก. ภาษีขั้นต่ำ หรือ Global Minimum Tax 15% สำหรับ บ. ข้ามชาติที่มีรายได้มากกว่า 750 ล้านยูโรต่อปี และ ร่าง พ.ร.ก. กองทุนส่งเสริมการแข่งขัน เป็นกองทุนสนับสนุนเงินที่ บ.ข้ามชาติที่ต้องเสียภาษีเพิ่ม เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2025 ที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัย KSS จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นจากมาตรการดังกล่าวที่มีต่อบริษัทที่อาจจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติม โดยเราใช้เกณฑ์ 1) รายได้ปี 2023 สูงกว่าระดับ 2.6 หมื่นล้านบาท และ 2) อัตราภาษี Effective Tax Rate ประเมินโดย Bloomberg ต่ำกว่าระดับ 15.0% หากใช้สมมติฐานกรณีเลวร้าย คือ ให้ทุกบริษัทเสียภาษีเพิ่มเป็น 15% โดยไม่ได้รับผลชดเชยด้านอื่น พบว่า กำไรปี 2025F ของบริษัทที่จะถูกกระทบจากมาตรการดังกล่าวอย่างมีนัยยะ ได้แก่ EA (คาดกำไรปี 2025F จะลดลง -11.96%) GULF (-11.82%) HANA (-10.37%) AH (-10.09%) DELTA (-9.5%) TU (-3.28%) ขณะที่หากรวมเป็นผลกระทบต่อคาดการณ์กำไรตลาดจะอยู่ราว -8.6 พันล้านบาท หรือ -0.7% ของกำไรตลาดปี 2025F ที่เราประเมิน 96 บาท

 

ในเชิงกลยุทธ์ เราประเมินหุ้นที่มีความเสี่ยงกระทบส่วนใหญ่ทยอยปรับตัวลงสะท้อนความเสี่ยงดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว EA (YTD2025 Return +0.5%) GULF (-6.3%) HANA (+0.4%) AH (-3.07%) CK (-4.69%) DELTA (-4.92%) TU (-3.08%) แต่หากอิงโอกาสที่รัฐฯน่าจะต้องหาช่องทางสนับสนุนเงินคืนเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงการบริหารภาษีภายในบริษัทต่างๆ คาดผลกระทบจะจำกัดกว่าที่ประเมินข้างต้น เชิงกลยุทธ์แนะนำตั้งรับหุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่เป็น New S Curve ของไทยระยะถัดไป หากราคาปรับลงมา ได้แก่ โรงไฟฟ้า ที่อยู่ในธีม Infra Tech เน้น GULF GPSC

Strategy Update : Dividend Plays 2H24

ช่วงปลายเดือน ก.พ. - พ.ค. 2025 จะเข้าสู่เทศกาลจ่ายปันผลประจำปี 2024 ของบริษัทจดทะเบียน ทีมกลยุทธ์ KSS จึงได้รวบรวมหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลช่วง 2024F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ 2H24F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง) จากคาดการณ์ของ KSS และ Consensus เพื่อนำมาคัดสรรหุ้นปันผลสูง (High Dividend) คือ Dividend Yield มากกว่า 3.5% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะ 1 - 2 เดือนแรกของปี ใน "Theme Dividend Play"

Key Ideas : KSS มีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นปันผลในช่วงต้นปีเนื่องจาก

o KSS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล(SETHD) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SETHD ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ของทุกปี ผลตอบแทนมักเป็นบวก เดือน ม.ค. ผลตอบแทนบวก 6 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.7%, เดือน ก.พ. บวก 7 ใน 10 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.67%

o SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด 1Q) ผลตอบแทนเป็นบวก 7 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.85%)

กลยุทธ์ : ในเชิงกลยุทธ์ KSS แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD 2 สัปดาห์แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD (dividend capture) มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี ทีมกลยุทธ์ KSS ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ

1.) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล ช่วง 2024F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ 2H24F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง)

2.) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโต/กระแสเงินสดมั่นคง /อยู่ใน Theme การลงทุนหลักของ KSS ปี 2025 อาทิ Theme เศรษฐกิจไทยปี 2025F เติบโต อาทิ กลุ่มธนาคาร หรือ อยู่ในอุตสาหกรรม Up Cycle อาทิ Sector ICT หรือ หุ้นที่อยู่ในกลุ่มได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อาทิ กลุ่มอสังหา กลุ่มการเงิน ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำ

พบว่ามีหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลเด่น 9 บริษัท คือ

หุ้น Big Cap ได้แก่ SCB (TP Max Con 135.0, Yield 2H24F 8.6%), TTB (TP25-2.2,Yield 2H24F 7.2%) HMPRO (TP25-13.5,Yield 2H24F 4.3%) INTUCH (TP25-108,Yield 2H24F 4.2%), ADVANC (TP25-305, Yield 2H24F 3.7%),
หุ้น Mid Cap ได้แก่ AP (TP25-11.8., Yield 2H24F 7.65%), TISCO (TP25-97.0, Yield 2H24F 5.84%), SC (TP25-3.2, Yield 2H24F 5.52%), JMT (TP25-22.8, Yield 2H24F 2.3%),

หุ้นปันผลสูงครึ่งหลังปี 2024 ADVANC, INTUCH, SCB, TTB, HMPRO,JMT AP, SC, TISCO

โดยทีมกลยุทธ์ KSS ได้ทำการศึกษาสถิติหุ้นปันผลเด่น 9 บริษัทดังกล่าวข้างต้น ย้อนหลัง 8 ปี พบว่าหากลงทุนซื้อหุ้นก่อน 2 สัปดาห์และขายวันที่ขึ้น XD พบว่า ผลตอบแทนเป็นบวก โดยหุ้นที่ให้ Return มากที่สุด คือ JMT +5.36%, TTB +4.16%, ADVANC +3.05%, ส่วน SCB, HMPRO, INTUCH, AP, SC, TISCO ผลตอบแทน (Capital Gain) เฉลี่ยอยู่ราว 1% เท่ากับว่า การลงทุนหุ้นกลุ่ม High Dividend ในช่วงเวลาดังกล่าว หลาย ๆ ครั้งนักลงทุนจะมักจะได้รับเงินปันผลฟรี

 

 

• ICT (Bullish): We remain bullish on the sector as earnings and FCF will continue to rise. We maintain our earnings estimate that earnings growth for the sector this year will be 89% yoy and be up by 10% yoy in 2025F. The spectra to be auctioned next year will be earnings accretive due to little competition. BUYers on both ADVANC and TRUE. But TRUE remains our top pick with TP of Bt14.7.

•Utilities (Neutral): Weekend reporting in Prachachartturakij highlighted proposals from the FTI Vice Chairman for potential electricity tariff reductions. The strategies include familiar measures mentioned last week, but notably propose refinancing the EGAT debt through government bonds. If implemented alongside other existing strategies, these measures could lower electricity charges by Bt0.60-0.70/unit (vs. the government's proposed Bt0.45/unit). This suggests the government may be exploring similar cost-reduction avenues. We maintain a Neutral rating on the sector, expecting limited impact on IPPs, compared to SPPs. Our top pick remains CKP.

• DELTA (Reduce , TP25F-110): We expect DELTA's core earnings in 4Q24F at Bt5.1b (+8% yoy, -14% qoq) due to 1) Baht appreciation qoq, 2) a lower GPM due to an expectation of a less inventory reversal in the quarter. Maintain REDUCE at the same TP of Bt110 given that the company's share price is trading at ...x P/E (+1.5SD), while its earnings forecast for 2025 would have a downside risk from GMT.

 

 

 

 

 

2025F Equity Outlook : Resilient Domestic Escort amid Market Volatility


Stock Best Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE


Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้