Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

402

 

 

 

SET Index คงมุมมองฐานแนวรับแรกที่ 1350 จุด
กลยุทธ์หลบความผันผวนไปที่หุ้นปันผล
Market Strategy
SET Index คาดพักตัวช่วง 1350-1375 จุด แรงกดดันจากความกังวลต่อการลดดอกเบี้ยช้าของสหรัฐฯ แต่ Downside จำกัดจากความหวังของนโยบายกระตุ้นของรัฐฯและน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว วันนี้เลือก BCP และ KKP

 

การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.56 แสนตำแหน่ง และตัวเลขอัตราการว่างงานที่ 4.1% ดีกว่าคาด ทำให้ความกังวลต่อดอกเบี้ยสหรัฐฯลดลงช้ายังสร้างแรงกดดัน โดย FEDWATCH Tool คาดการลดดอกเบี้ยปี 68 อยู่ที่ 1 ครั้ง เทียบกับ FOMC Dot Plot คาดลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง กดดัน U.S. Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นมาที่ 4.76% ทำจุดสูงสุดรอบกว่า 1 ปี Dollar Index สูงสุดรอบกว่า 2 ปีที่ 109.6 จุด เป็นลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาค

 

ส่วนผลต่อบ้านเรายังมีความเสี่ยงต่อ Fund Flow ต่างชาติไหลออก ทำให้ SET Index อยู่ในช่วงปรับฐาน โดยหากมองในมุมกลุ่มอุตสาหกกรรมที่ถูกกดดัน คือ กลุ่มที่เสียประโยชน์จากดอกเบี้ยฯลงช้าอย่าง กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มโรงไฟฟ้า ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์ยังเป็นกลุ่มธนาคาร (ชอบ KTB KBANK BBL) กลุ่มประกัน (ชอบ TLI) นอกจากนี้หุ้นกลุ่มปันผลสูงจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหลบภัยในภาวะที่ตลาดผันผวน เราเลือก 3 หุ้น Top Pick คือ BCP KKP และ TASCO (สำหรับหุ้นปันผลอื่นๆ ที่น่าสนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Strategy Report ฉบับวันนี้

 

ประเด็นในประเทศที่ติดตามวันนี้ คือ การประชุม ครม. คาดพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (หุ้นที่อาจเห็นแรงเก็งกำไร BTS VGI STEC และ AAV) คมนาคมเสนอโครงการบ้านเพื่อคนไทย (Sentiment บวกต่อ HMPRO) และเย็นนี้ติดตาม คุณทักษิณเข้าร่วมงาน Chat With Tony โดยหากอิงผลตอบแทนหลังงาน Dinner Talk รอบก่อนเมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 กลุ่มที่ Outperform คือ Domestic Play อย่างกลุ่มไฟแนนซ์ +5% ธนาคาร +2% (จาก Hair Cut หนี้ลด FIDF) กลุ่มสื่อ +2% (จาก Soft Power) กลุ่มค้าปลีก +3% (จาก Digital Wallet)

 

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 5 จุด หรือ 0.38% กลุ่มที่ปรับขึ้นดีกว่า จะเป็นหุ้นที่ลงแรงในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มปิโตรฯ กลุ่ม ICT TRUE +2.8% กลุ่มที่เก็งกำไรต่อคุณทักษิณที่เข้าร่วมงาน Chat With Tony ในวันนี้หนุน GULF +2.2% INTUCH +2.1% BTS +4.4% ขณะที่กลุ่มที่ Underperform กลุ่มท่องเที่ยวจากความกังวลต่อนักท่องเที่ยวจีนยังกดดัน AOT -1.3% AWC -2.4% ส่วนกลุ่มอื่นๆ กังวลต่อผลประกอบการ 4Q67 ITC -2.2%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BCP KKP
BCP
แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ
ผสานปันผลเด่น
เราคาดว่ากำไรหลักปี 68 จะเติบโต 48.6%YoY หนุนจากการเริ่มดำเนินงานของหน่วยผลิตเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (SAF) ซึ่งจะเริ่มใน 2Q68 เป็นต้นไป และธุรกิจโรงกลั่นที่เรามีมมุมมองบวกต่อทิศทางค่าการกลั่นปี 68 เฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญฯ ฟื้นตัวจากปี 67 ที่เฉลี่ย 5 เหรียญฯ โดยมีแรงหนุนจาก Supply Growth ที่ในอัตราที่น้อยกว่า Demand Growth ส่วนระยะสั้นได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น 2.9% จากสหรัฐฯ จะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันรัสเซีย

 

ราคาหุ้นในช่วง 4Q67 ที่ผ่านมา ติดลบไปเกือบ -7% ส่วนหนึ่งมาจากประเด็น Index Play (หลุด SET ESG Index และ SET50 Index) ซึ่งเรามองเป็นการปรับลงที่ไม่ได้กระทบกับพื้นฐานกิจการของบริษัท จนราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/BV67 ที่ 0.7 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.6 S.D. ขณะที่อัตราการจ่ายปันผลปี 2H67 และ 68 สูงที่ 3.9% และ 8.7% ตามลำดับ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 62.00 บาท


KKP
อีกหนึ่งหุ้นปันผลเด่น
กำไร 68 เติบโตดี
คาดการณ์การเติบโตของกำไรปี 68 สูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 24% YoY จากขาดทุนจากการขายและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ฟื้นตัว และ แผนบริหารทุนที่แข็งแกร่ง เราคาดว่า KKP จะยังคงซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อลดลง

 

ขณะที่งบ 4Q67 เราคาดกำไรหลักอยู่ที่ 926 ล้านบาท หดตัว -29%QoQ แต่ขยายตัวสูงที่ 38%YoY จาก Credit Cost ที่ลดลง -35%YoY ขณะที่ NPL คาดมาอยู่ที่ 4.24% สูงกว่างวดก่อนที่อยู่ 4.14% เล็กน้อย ซึ่งยังเป็นกรอบที่บริหารจัดการได้
Valuation ปัจจุบันไม่แพงเพราะซื้อขายบน PER68E 8 เท่า นอกจากนี้ยังมีการจ่ายปันผลสูง ซึ่งเราคาดปี 2H67/68 จ่ายในอัตรา 3.3%/8.2% ตามลำดับ ส่วนระยะสั้นมองเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเก็งกำไรต่อคุณทักษิณที่เข้าร่วมงานข่าวหุ้นวันนี้ หากสามารถดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา มองบวกต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของ KKP
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 53.00 บาท

 

KEY FACTOR
มุมมองตลาดให้น้ำหนัก Fed ลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ หลังตัวเลขภาคแรงงาน
ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ +2.56 แสนตำแหน่ง สูงกว่า Consensus คาดที่ +1.65 แสนตำแหน่ง และสูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ +2.12 แสนตำแหน่ง 2) อัตราการว่างงาน อยู่ที่ระดับ 4.1% ต่ำกว่าที่ Consensus คาด 4.2% สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะสร้างความกังวลว่าดอกเบี้ยอาจสูงยาวนานกว่าเดิม
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี กลับมาเร่งตัวแรง แตะระดับ 4.76%

 

ในขณะที่ Dollar index พุ่งสู่ระดับ 109.65 จุด น่าจะเป็นปัจจัยกดดันในช่วงเปิดสัปดาห์ของตลาดหุ้นไทยวันนี้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่หุ้นไทยยังให้น้ำหนักในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. (รายงานวันที่ 15 ม.ค.) ซึ่ง Consensus คาดว่าจะทรงตัว +0.3% MoM และ +2.9% YoY ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า

 


EYES ON
13 ม.ค. ส่งออก-นำเข้าจีน ธ.ค. 14 ม.ค. ดัชนี PPI สหรัฐฯ ธ.ค.
15 ม.ค. ดัชนี CPI สหรัฐฯ ธ.ค.
17 ม.ค. GDP 4Q67 จีน, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ และจีน, ดัชนี CPI Eurozone ธ.ค.

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ



 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้