SET ปรับตัวลง : แรงกดดันจากความกังวลทิศทางนโยบายการเงินของเฟด และความไม่แน่นอนของนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯภายใต้ว่าที่ปธน. ทรัมป์ หากแต่พอมีแรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงและความหวังต่อมาตรการกระตุ้นตลาดทุน
แนวรับ-ต้าน
1,350 – 1,370
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 4Q67: BBL, KBANK, KTB, KTC, MASTER, PR9, TCAP, TTB
2) Spending+มาตรการรัฐ : ADVICE, CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME, HMPRO, SYNEX
3) พลังงาน : BCP, PTT, PTTEP, SPRC
4) หวังรัฐบาลกระตุ้นตลาดทุน : GULF KKP, SCB, TISCO
กังวลนโยบายการเงิน/เศรษฐกิจสหรัฐฯ
กังวลทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด : คาด Sentiment ทางลบมาจากการเผยตัวเลขแรงงานเดือนธ.ค.67 ของสหรัฐฯ หลัง 1) การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 2.56 แสนตำแหน่ง มากกว่าตลาดคาดและปรับตัวดีขึ้นจากเดือนพ.ย.67 ที่ 1.64 และ 2.12 แสนตำแหน่ง ตามลำดับ และ 2) อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.1% ต่ำกว่าตลาดคาดและลดลงจากเดือนพ.ย.67 ที่ 4.2% ซึ่งตัวเลขข้างต้นเป็นหนึ่งในสัญญาณชี้นำถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอาจส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อเฟดอาจจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น สอดรับกับ 1) Bloomberg ที่คาดว่าทั้งปีนี้เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวที่ 0.25% จากต้นปีที่คาด 1-2 ครั้ง โดยจะเกิดขึ้นในช่วง 2H68 และ 2) ผลสำรวจในเดือนม.ค.68 ของม.มิชิแกนที่ระบุว่าผู้บริโภคคาดเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลสำรวจที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.67 และเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในเดือนธ.ค.67 นอกจากนี้ US bond yield 2 และ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.4% และ 4.8% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.67 และเดือนพ.ย.66 ตามลำดับ คาดเป็นอีกแรงกดดัน
ลดสถานะเสี่ยงก่อนคุณทรัมป์รับตำแหน่ง : คาด SET Index มีแนวโน้มเผชิญแรงขายลดสถานะเสี่ยงเพื่อเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยก่อนที่คุณทรัมป์จะรับตำแหน่งปธน.สหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค.68 ท่ามกลางความกังวลนโยบายของเขา โดยเฉพาะด้านการค้า สอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับขึ้น 0.9% ปิดที่ $2,715 ต่อออนซ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และคาด SET Index คงเผชิญแรงกดดันจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ/นักลงทุนต่อการท่องเที่ยวไทย/ตลาดหุ้นไทย
ราคาน้ำมันพุ่งและความหวังมาตรการตลาดทุน : มอง SET Index ยังพอมีแรงพยุง โดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้น 3.58% ปิดที่ $76.57 ต่อบาร์เรล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย อีกทั้ง ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นตลาดทุน จากการแสดงวิสัยทัศน์ของคุณทักษิณ อดีตนายกฯ ในงาน Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market ในวันนี้
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) จีน ระบุว่ามีทรัพยากรทางการคลังเพียงพอที่จะรับมือกับความท้าทายจากภายนอก และให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการกระตุ้นการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนที่คุณทรัมป์จะรับตำแหน่งปธน.ในช่วงปลายเดือนนี้
(+) แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเผยกระทรวงการคลังจะนำร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมครม.วันนี้
(-) รองนายกฯและรมว.ดีอี เผยจะเสนอแก้ไขพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อที่ประชุมครม.ในวันนี้
(-) KResearch ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 68 จะเติบโต 2.4% ชะลอลงจากปี 67 ตามแรงหนุนท่องเที่ยว ส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และภาคการผลิตไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว
(-) IMF เผยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กำลังเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์