
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 9 มกราคม 2568)------9 มกราคม 2568 หุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) RS สัมผัสฟลอร์เป็นวันที่ 3 มาอยู่ที่ 1.82 บาท หลังผู้บริหาร โดน Force Sell หุ้นที่ถูกใช้วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยในบทวิเคราะห์ฯ วันนี้ว่า วิกฤติศรัทธา มาร์จิ้นกดดันตลาด หลังก.ล.ต.เผยว่าผู้บริหารหุ้น RS ได้มีการนำหุ้นไปวางค้ำประกันกว่า 222 ล้านหุ้น มูลค่ากว่าพันล้านบาทและยังมีการกระทำ แบบเดียวกันในหุ้นอื่น ๆ ซึ่งก.ล.ต.ไม่สามารถกำกับได้เนื่องจากเป็นการบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคล สร้างความกังวลให้นักลงทุน และ ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องซึ่งเคยมีการรายงานว่า กระทำการแบบเดียวกันเกิดความผันผวน
ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเปิดเผยข้อมูลจำนำหุ้นที่อยู่ในระบบ TSD หวังช่วยนักลงทุนมีข้อมูลประกอบตัดสินใจลงทุนมากขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย พร้อมทบทวนมาตรการกำกับการซื้อขายอีกครั้งก่อนเสนอบอร์ดปลายเดือนม.ค.นี้ และเปิดเกณฑ์เดือนก.พ.
ฝั่งของ RS ล่าสุดเย็นวันนี้ ( 9 มกราคม 2568) นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ RS) เปิดเผยว่า ขอชี้แจงพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯ เพิ่มเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน
จากการตรวจสอบของบริษัทฯ พบว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากธุรกรรมทางการเงินส่วนบุคคลของผู้บริหาร ซึ่งใช้หุ้นจำนวนหนึ่งเป็นหลักหรัพย์ค้ำประกันสำหรับธุรกรรมทางทางการเงินส่วนบุคคล เมื่อราคาหุ้นปรับลดลง จึงเกิดการขายหลักทรัพย์ตามเงื่อนไข (Forced sell) ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกและกลไกตลาด
บริษัทฯ ขอยืนยันว่าธุรกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน และสถานะทางการเงินของบริษัทฯรวมทั้งไม่มีปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และบริษัทฯ ยังเดินหน้าตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเสถียรภาพในการบริหารและความมั่นคงของบริษัทฯ และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อออกมาตรการและทบทวนทวนนโยบายการกำกับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการปรับปรุงนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันและเหตุการณ์ที่อาจส่งผส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในอนาคต
บริษัทฯ ขอขอบคุณในความไว้วางใจและสนับสนุนบริษัทฯ ของผู้ถือหุ้นและผู้ส่วนได้เสียทุกทาน หากบริษัทฯมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทฯ จะแจ้งให้นักลงทนทราบผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ้ายนักลงทุนสัมพันธ์ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-037-8126,02-037-8128, 02-037-8170 หรืออีเมล ir@rs.co.th
บล.กรุงศรี ระบุว่า ผลการดำเนินงานงวด 3Q24 ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) RS ยังไม่สดใส RS รายงานผลการดำเนินงานปกติมีผลขาดทุน -301 ลบ. (พลิกจากกำไร 71 ลบ. ใน 3Q23 และขาดทุนเพิ่มจาก -64 ลบ. ใน 2Q23) เนื่องจากรายได้ลดลงกว่า -37%yy และ -20%qq ตามการหดตัวของรายได้ ธุรกิจ Commerce และ Entertainment และแนวโน้ม 4Q24F เราคาด RS ยังคงมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติต่อเนื่อง
ฐานะทางการเงิน ณ สิ้น 3Q24 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ลบ. แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1,507 ลบ. เงินกู้ระยะยาว 1,835 ลบ. (ครบกำหนด 1 ปี 502 ลบ.) และหนี้สินสัญญาเช่าทางการเงิน 497 ลบ. และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 3,141 ลบ. คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.5x เรามองว่าฐานะการเงินไม่แข็งแรงนักภายใต้สภาวะที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน
ไม่ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างบริษัท เมื่อวันที่21 พ.ย.24 RS มีการ แจ้งยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท GIFT (ปัจจุบันชื่อ RSXYZ) เนื่องจากราคาหุ้น GIFT มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเงื่อนไขทางธุรกิจที่ตกลงไว้เดิมอาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 พ.ย.24 ก.ล.ต.มีการให้ RS ชี้แจงข้อมูลการปรับโครงสร้างบริษัทข้างต้น
การซื้อขายหุ้นของผู้บริหาร เราพบว่าช่วงปลายปี 2024 บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ RS มีการขายหุ้น 4-5 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 5-10 ล้านหุ้น ที่ราคา 5.5-5.86 บาท/หุ้น) แม้ว่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่เรามองไม่เป็นบวก ต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
การใช้หุ้นวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น ตามรายงาน ตลท. เดือน พ.ย.24 เราพบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จี้นของลูกค้าจำนวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง
ยังคงไม่มีคำแนะนำและราคาเป้าหมาย (TP25F) หุ้น RS เบื้องต้นเรามองการพลิกฟื้นธุรกิจหลัก Commerce และ Entertainment ของ RS มีความท้าทายสูง ขณะที่ เริ่มมีความเสี่ยงทางด้านฐานะทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเงินกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระภายในเดือน ก.ย.25 จำนวน 502 ลบ. ในขณะที่ RS มีเงินสด ณ สิ้นงวด 3Q24 ที่ 306 ลบ. และมีความเสี่ยงราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากการ Force Sell ของหุ้นที่ถูกใช้วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น
RS ไม่ใช่รายแรก เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มี SCM เจอพิษจำนำหุ้น โดนไป 4 ฟลอร์ติด ย้อนไปก่อนหน้าก็มีกรณี EA , NEX ,YGG รวมทั้ง JMART ที่แว่วว่าอาจจะเป็นรายต่อไป นักลงทุนคงต้องเช็คหุ้นในพอร์ตของตัวเอง และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด จะได้รู้ตัวก่อนเจ็บหนัก....
///จบ///