วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อน าโดยหุ้นDELTA และหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่มีแรงขายมากน าโดยหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า จากความกังวลภาครัฐจะปรับลดค่าไฟฟ้าลงต่ ากว่า 4 บาท อีกทั้งมีแรงขายเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มไอซีที และโรงพยาบาล เป็นปัจจัยกดดันดัชนีส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,372.65 จุด -12.11 จุด -0.87% มูลค่าการซื้อขาย 37,212.83 ลบ.Program Trading +529.36 ลบ. ต่างชาติ +650.03 ลบ. TFEX -9,331 สัญญา ตราสารหนี้ -2,733.83 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ56.8 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 33 เดือน จากระดับ 56.1ในเดือนพ.ย.
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.ของจีนขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 7 เดือนโดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
+ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสั งคม (ดีอี) เปิดเผยถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ระบบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะเสร็จช่วงเดือน มี.ค. ว่า ขณะนี้ได้บริษัทที่จะมาด าเนินการจัดทำแอปพลิเคชันแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 แล้ว
+ เงินเฟ้อไทยปี 2567 โตได้แค่ 0.40% ต่ าสุดรอบ 4 ปี จากมาตรการตรึงค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล ขณะที่ราคาอาหารและเครื่องดื่มปรับขึ้นเล็กน้อยขณะที่ปี 2568 คาดโต 0.8% ย้ำขึ้นค่าแรงไม่กระทบเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 25.57 จุด หรือ -0.06% ขณะที่ดัชนี S&P500และ Nasdaq ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนที่จะผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 40 เซนต์ หรือ -0.54% ปิดที่73.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ และเยอรมนี ได้บดบังปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากพายุหิมะที่แผ่ปกคลุมหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ
- โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ปธน .สห รัฐฯ ปฏิเสธข่าวในหนั งสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ที่ระบุว่าเขามีแผนผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
- สหรัฐฯ เปิดเผยว่าคำสั่งซื้อภาคโรงงาน ลดลง 0.4%MoM ในเดือนพ.ย.ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.3%MoM หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5%MoM
ในเดือนต.ค.
- ธปท. เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2568 มีความไม่แน่นอนสูงขึ้นทั้งจากปัจจัยเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความรุนแรงขึ้น รวมถึงนโยบายของประเทศคู่ค้าหลักที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น โดยเฉพาะนโยบายของเศรษฐกิจสหรัฐ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ตลาดยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับกังวลแรงขายจาก LTF ครบกำหนดในปี 68 คาดมองกรอบดัชนี 1,365-1,380 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL