Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

381


ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดต Momentum Tracker แนวโน้มตลาดหุ้นโลกและทองคำ


Key Takeaways:

ตลาดทั่วโลกเริ่มปี 2025 ไม่สดใส โดย MSCI All-Country World Equity ปรับตัวลง 0.5% ขณะที่ SET Index ลดลง 1.2% สะท้อนแรงกดดันที่มีต่อตลาดหุ้นในวงกว้างขึ้น

ดัชนีชี้วัดด้าน Market-timing หลายตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเชิงลบ ทั้ง Net New 52-week High & Low ที่ติดลบต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง McClellan Volume Summation Index ที่อยู่ในระดับต่ำ และ Momentum Tracker ที่อ่อนแอลง บ่งชี้ถึงแนวโน้มตลาดที่อาจผันผวนขึ้นในระยะสั้น
รายละเอียด:
‘ภาวะการลงทุนในสัปดาห์ก่อน’
ตลาดหุ้นโลกเริ่มต้นสัปดาห์แรกของปี 2025 ด้วยความผันผวน โดยดัชนี MSCI All-Country World Equity ปรับตัวลง 0.5% ขณะที่ทองคำและ Bitcoin ปรับตัวขึ้น 0.7% และ 4.2% ตามลำดับ
สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ก็เผชิญกับแรงกดดันในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก โดยปรับตัวลง 1.2% และมีแรงขายกระจายตัวไปในหุ้น 15/20 กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Electronics ซึ่งปรับตัวลงถึง 5.7%
‘พัฒนาการสำคัญในต่างประเทศช่วงที่ผ่านมา ได้แก่’
ดัชนีชี้วัดด้าน Market-timing ของตลาดหุ้นสหรัฐหลายตัวเริ่มส่งสัญญาณเชิงลบ ได้แก่
(1) Net New 52-week High & Low ได้ปรับตัวลงในโซนติดลบต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง สะท้อนว่า หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดอ่อนแอลง
(2) McClellan Volume Summation Index แม้จะฟื้นตัวเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 2024 แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง ท่ามกลาง valuation ที่แพง
(3) สัดส่วน Put/Call Options ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณการกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ย (mean-reversion) หลังจากปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในปลายปีที่แล้วที่ 0.61 สู่ 0.67 ในปัจจุบัน แนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนมกราคม
(4) ดัชนี Momentum Tracker ของ S&P500 ส่งสัญญาณอ่อนแอลงจาก stretched level ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้การรีบาวด์ของตลาดหุ้นสหรัฐขาดความต่อเนื่อง

‘ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่’
วันจันทร์: CN Caixin Services PMI (consensus คาดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการจีนเดือนธันวาคมจะขยายตัวที่ 51.7 ใกล้เคียงกับการขยายตัวระดับ 51.5 ในเดือนก่อนหน้า)
วันอังคาร: (1) US ISM Services PMI (consensus คาดดัชนี ISM ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการสหรัฐฯ เดือนธันวาคมจะขยายตัวที่ 53.5 เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.1 ในเดือนก่อนหน้า) และ (2) US JOLTs Job Openings (consensus คาดสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเดือนพฤศจิกายนจะชะลอตัวลงสู่ 7.65 ล้านตำแหน่ง จาก 7.74 ล้านตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า)
วันพุธ: FOMC Minutes (รายงานการประชุมเฟด)
วันศุกร์: (1) US Nonfarm Payrolls (consensus คาดการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ เดือนธันวาคมจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวลงจาก 227,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า) และ (2) US Unemployment Rate (consensus คาดอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือนธันวาคมจะทรงตัวที่ระดับ 4.2%)


‘แนวโน้มราคาสินทรัพย์ต่างๆ’
ในสัปดาห์นี้ เราแนะนำให้ระมัดระวังในการลงทุนในตลาดหุ้นโลกคล้ายกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแม้ว่าบางตลาดอาจมีจังหวะรีบาวด์ได้บ้าง แต่อาจไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากโมเมนตัมราคาที่อ่อนแอลงจะทำให้ความผันผวนโดยรวมสูงขึ้น

ราคาทองคำแกว่งตัวไร้ทิศทางในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากภาวะการเก็งกำไรที่มากเกินไป ซึ่งในปัจจุบันภาวะ overspeculation ค่อยๆปรับตัวลดลงมาในระดับหนึ่ง พิจารณาได้จากการที่ net long position ได้ปรับลงจากระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 2.2 เท่า สู่ระดับ 1.5 เท่า สะท้อนว่า ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นได้กดดันให้เทรดเดอร์ลดสถานะลง เราคาดว่าราคามีแนวโน้มผันผวนต่อไปในระยะสั้น จนกว่า net long position จะลดลงมาใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาว

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 7-10 ปี ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราคาดว่าในระยะสั้นตลาดพันธบัตรระยะยาวจะยังคงผันผวน อันเป็นผลจากความกังวลเรื่องความเสี่ยงเงินเฟ้อและการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 จะทำให้พันธบัตรมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อความเสี่ยง (risk/reward) มากกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นโลก

สรุปภาพตลาดวานนี้
เมื่อวันศุกร์ SET รีบาวน์ได้แค่เบาๆ หลังลงแรง หุ้นกลุ่ม DELTA GULF INTUCH CPAXT ถูกซื้อกลับ ขณะที่แรงซื้อกลุ่มธนาคารยังมีเข้ามาต่อเนื่องใน KTB SCB ส่วนด้านแรงขายมาจากปิโตรเคมี TOP IVL SCC PTTEP และกลุ่มใหญ่อื่นๆ อย่าง CRC AOT BTS-VGI อย่างไรก็ดี เห็นหุ้นกลาง-เล็กหลายบริษัทกลับมาเด้งแรง เช่น LTS EE MONO SINGER MASTER SISB เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
เริ่ม โหลดหุ้นเล่นรีบาวด์
หุ้นไทยเปิดศักราชใหม่ 2568 ด้วยตัวเลขดัชนีฯที่ตกลงมาตามแนวรับ 1,380 จุด จากประเด็น กดดันกลุ่มโรงไฟฟ้า เมื่อราคาก๊าซในตลาดโลกพุ่ง ผันผวน รับข่าวยูเครนปิดท่อส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป โดยยูเครนไม่ต่อสัญญากับรัสเซียเมื่อครบอายุ 5 ปี ตามข้อตกลง นาฟโตก๊าซ…แต่ส่งผลบวกต่อการเก็งกำไรหุ้น PTTEP PTTGC
ด้านประเด็นภาษีเท่าเทียม หรือ GMT ที่ไทยทำข้อตกลงไว้หลังสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD เมื่อมีผลเริ่ม 1 ม.ค.68 กลายเป็นข้อกังวลต่อกำไรกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่อย่าง DELTA กดดันดัชนี SET เพิ่มเติม
ยังไม่นับรวมประเด็นกังวลว่ากอง LTF อาจมีการเร่งขายไถ่ถอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ ดราม่า กันทุกต้นปี
กลายเป็นตลาดหุ้นไทยที่เริ่มต้นปีก็ให้ผลตอบแทนที่ย่ำแย่ และบั่นทอนความเชื่อมั่นนักลงทุนผ่าน กราฟทางเทคนิคที่ ให้สัญญาณไม่ดี...แต่

กลยุทธ์
แนะนำ รอโหลดหุ้นเพื่อเล่นรีบาวด์สำหรับรอบนี้ โดยที่เราประเมินว่า เมื่อประเด็นลบดังที่กล่าวมาเริ่มเห็นความชัดเจน เช่น แรงขาย LTF ไม่ได้มากมายอย่างที่กังวล, เส้นทางส่งก๊าซรัสเซีย-ยุโรป อาจมีทางออกอื่น หรือยุโรปซึ่งหันไปพึ่งพิงก๊าซจากที่อื่นแทนรัสเซียก่อนหน้า อาจไม่ได้รับผลกระทบ-กดดันราคาก๊าซอย่างที่กังวล เมื่อตลาดซึมซับข่าวร้าย และตั้งหลักได้ เราคาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีรีบาวด์ภายในสัปดาห์นี้ และจะเกิดการสร้างกราฟทางเทคนิคให้เกิดสัญญาณซื้อเล่นรีบาวด์รอบใหม่

คาดกรอบตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ที่ 1,380-1,400 จุด และหุ้นกลุ่มเด่น คาด ธนาคาร (เล่นรับงบ และ ปันผลระหว่างกาลเด่น)

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์แนะนำ เลือกสะสมหุ้นกลุ่มเด่นที่เราคาดว่าจะมี Flows หมุนเข้ามาเล่น และหุ้นรายตัวที่มีประเด็นสนับสนุน

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ผ่านมา 2 วันทำการ ลงแรงสลับรีบาวด์....กรอบบนติดเส้น EMA 200 (เส้นแดง) โดยปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น 1/2ของระยะทาง (Fibonacci retracement 50%) ส่วนกรอบล่างโซนรับยังคงอยู่ที่ previous low 1,361 จุด ขณะที่ RSI < 50 บ่งชี้โมมเนตัมอ่อนแรง กลยุทธ์ทางเทคนิค แนะเลือก Selective หุ้นโครงสร้างแกร่ง + ปันผลสูง เพื่อสู้กับตลาดที่ยังอยู่ในโหมดพักตัว...ค้นหาฐานใหม่!


What to watch
ติดตามดู แรงขายไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบอายุ
ค่าไฟฟ้าในประเทศ มีแนวโน้มลดลงจากนโยบายรัฐบาล กลุ่มค่าไฟ Ft เช่น GPSC BGRIM WHAUP น่าจะโดนกดดันต่อเนื่อง ส่วนหุ้นใช้ไฟฟ้า คาดจะได้ผลบวก เช่น กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
แนวทางเดินหน้าโครงการแจกเงินหมื่น เฟส 3 ซึ่งจะเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่เพื่อกระจายให้ประชาชนกลุ่มใหญ่
เงินเฟ้อไทย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ขยับขึ้นต่อเนื่อง (กดไม่ลง) มีแนวโน้มที่ดอกเบี้ยอาจทรงตัว ตามเฟด
รายงานการประชุมเฟด วันพุธนี้ ตลาดเริ่มมอง เฟดจะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในเดือน มีค.ปีนี้
จีนประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
ข้าราชการหลายล้านคนทั่วประเทศจีนได้รับการขึ้นเงินเดือนอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การขึ้นเงินเดือนนี้ครอบคลุมข้าราชการและพนักงานภาครัฐทั้งหมด 48 ล้านคน ก็จะเป็นเม็ดเงินที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจในทันทีราว 1.2-2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ครั้งสุดท้ายที่จีนประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั่วประเทศอย่างเป็นทางการคือในปี 2558 โดยรัฐบาลได้ขึ้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมากกว่า 30% เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค

หุ้นแนะนำวันนี้
SCB หุ้นธนาคารปันผลดีปันผลสูง(S 116 R 120 SL 115)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Retail Sector
SSSG ขยายตัวช้าลงในเดือน ธ.ค. แต่ภาพรวม 4Q24 ยังดี
ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) กลุ่มค้าปลีกชะลอตัวลงเหลือ 1.0% ในเดือนธันวาคม 2024 (ฐานสูง) และยอดขาย B2B ที่ลดลง (DOHOME GLOBAL) อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดการณ์ว่า SSSG เฉลี่ยสำหรับ 4Q24 จะอยู่ที่ 1.1% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากการหดตัว 1.4% ใน 3Q24 โดยกลุ่ม Grocery Retail น่าจะเติบโตดีกว่ากลุ่มอื่น ขณะที่กลุ่ม Home Décor & Construction (HD&C) ยังคงฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย
รายละเอียดบางบริษัทที่น่าสนใจ CPALL คาดว่า SSSG 4Q24 จะนำกลุ่มที่ 4.0% และ DOHOME มีแนวโน้ม SSSG 2.5% ซึ่งพลิกฟื้นจากการหดตัว 4.5% ใน 3Q24 ส่วน HMPRO และ GLOBAL ลดลง 1% น่าจะชะลอรอมาตรการ Easy E-Receipt ซึ่งทำให้คาดว่า SSSG เดือน ม.ค. จะเร่งตัวขึ้นในทุกกลุ่ม
เราคาดว่ากำไรหลักของกลุ่มค้าปลีกใน 4Q24 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ SSSG การเพิ่มสัดส่วนสินค้ากำไรสูง และการจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น CPALL จะเป็นผู้นำการเติบโต YoY ขณะที่ CRC จะเติบโต QoQ
Fundamental view: เรายังคงน้ำหนัก “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มค้าปลีก และเลือก CRC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้

Technology Sector
Session น่าติดตามในงาน TCD: LooLoo Technology
ต่อเนื่องจากธีม New Frontier สำหรับงาน BLS Thai Corporate Day นอกจาก JTS และ LTS ที่จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับ AI Transformation แล้ว เราจะมี Special session ที่เกี่ยวกับ AI โดยตรง จาก บริษัท Looloo Technology ซึ่งอยู่นอกตลาด และถือว่าเป็นผู้พัฒนาหลักในวงการ AI ไทย โดยเริ่มจากการประยุกต์ AI ในกลุ่มความรู้เฉพาะทางอย่าง การแพทย์ ธนาคาร และประกันฯ ทำให้เกิด Gen AI ที่คุยกับคนและเข้าใจบริบทองค์กรนั้นๆ นอกจากนี้บริษัทยังทำ Prediction models ให้กับหลายๆ บริษัท เพื่อเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และผลงานล่าสุดที่เปิดตัวไป คือ PresScribe เป็นการนำ AI ไปฟังเสียงบทสนทนาระหว่างแพทย์กับคนไข้แล้วสรุปใจความสำคัญ เพื่อลดการทำงานเอกสารของหมอ ได้ถึง 40%
โดยเราคาดว่า Looloo Technology จะเน้นย้ำถึงโอกาสและความท้าทายของ AI ในประเทศไทย รวมถึงความพร้อมและความคืบหน้าของการพัฒนา AI ต่อยอดจากการเข้ามาของ Hyperscalers ในปี 2025
คำถามหลักในปัจจุบันน่าจะเป็นเรื่องของ demand ที่ยังคงติดประเด็นในส่วนของ Use case ที่ยังมีน้อย และความคุ้มค่าในการลงทุน (ROI) และกรณีศึกษาเกี่ยวกับการใช้ AI ที่ช่วยเพิ่ม ROI อย่างชัดเจน และแนวโน้มของ AI ระหว่าง on-device AI และ cloud solutions ที่จะส่งผลต่อกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคต
นอกเหนือจาก AI เราคาดจะเห็นภาพของ Landscape รวมถึงสภาวะอุตสาหกรรมในปัจจุบันในด้านของภาพรวม Digital transformation ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรด้วย
(ต้องการเข้าร่วมรับฟัง กรุณาติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน)

 

Industrial Estate Sector
ประเด็นที่ต้องติดตามในงาน BLS Thai Corporate Day
BLS Thai Corporate Days (13-16 ม.ค.) เราได้เชิญวิทยากรที่เกี่ยวข้องกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม มาข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น BOI, AMATA และ WHA โดยเรามองว่ากลุ่มนี้มีประเด็นน่าติดตาม คือ ด้านโอกาส
1) FDI ของไทยยังคงแข็งแกร่ง และขับเคลื่อนการเติบโตได้จริงแค่ไหนจากกรณีสงครามการค้า
2) อุตสาหกรรมใหม่อย่าง Data Center ที่เม็ดเงินลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท จะเป็นดึงดูดอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาค แต่กลุ่มนิคมก็มีความท้าทายจาก
3) ต้นทุนที่ดินเพิ่มสูงขึ้นราว 10-20% ในปีที่ผ่านมา และ
4) ประเด็น GMT หรือภาษีขั้นต่ำ 15% นั้น BOI มีแผนรับมือเพื่อคงความสามารถในการแข่งขันของไทยไว้อย่างไรบ้าง


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้