Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

723

 


"Dividend Play"

KSS Daily Strategy: คาด SET วันนี้ " Sideways/Up" ต้าน 1390/1395 จุด รับ1378/1370 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น +1.26% หุ้นเทคโนโลยีนำตลาด จากมุมมองบวกต่อแนวโน้มอุตสาหกรรม หลัง Microsoft ประกาศลงทุน AI Data Center ในปี 2025 สูง 80 พันล้านเหรียญฯ (vs CAPEX ปี 2024 ที่ 53 พันล้านเหรียญฯ) ขณะที่ PMI ภาคผลิต (ISM) แม้สูงกว่าคาด แต่ยังมีองค์ประกอบการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด และหดตัวจาก prev. บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ Goldilocks to Soft Landing และยังช่วยให้ภาพวงจรดอกเบี้ยปี 2025F เป็นขาลง ด้านเอเชีย จีนค่อนข้าง Proactive ต่อความเสี่ยงสงครามการค้า จากการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นบริโภคภายในเพิ่มอีกชุด เพิ่มเงินเดือนข้าราชการ+ขยายความครอบคลุม Trade-in Program ครอบคลุม Smart Devices ประเมินเม็ดเงินสูงราว 0.2-0.3% ของ GDP หนุนราคาน้ำมันตอบรับทางบวกเฉลี่ย +1.2% ส่วนภายในวันนี้ติดตามรายงานเงินเฟ้อ คาดยังอยู่ในระดับที่คาดหวังโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ น่าจะหนุน SET วันนี้แกว่งขึ้น โดยมีหุ้นนำ คือ หุ้น China Plays, หุ้นในธีม Infra Tech และ หุ้น Dividend Plays (ธนาคาร สื่อสาร) หรือมีประเด็นหนุนเฉพาะ (เครื่องดื่ม การเงิน) วันนี้แนะนำ KTB, INTUCH, MALEE

 

 


Daily outlook: "Sideways" ต้าน 1390/1395 จุด รับ 1378/1370 จุด

What happened around the world?

(+) US Stock : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น อิงดัชนี Dow jones +0.80%, ดัชนี S&P500 +1.26% และดัชนี Nasdaq -1.75% โดย Sector ใน S&P ปรับขึ้นทุกกลุ่มหลักๆคือ Consumer discretionary IT Real estate Industrials ฯลฯ ฯลฯ หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ Tesla 8.2% , Microstrategy +13% กลุ่ม Semiconductor NVIDIA 4.4% AMD +3.9% มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนไทย ฯลฯ

(*)US Econ 1. รายงาน ISM PMI ภาคผลิต ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือนอยุ่ที่ 49.3 จุด สูงสุดตั้งแต่ พ.ค.24 และดีกว่าตลาดคาด 48.3 จุด vs prev. 48.4 จุด 2..) GDP Now โดย Fed atlanta คาดงวด 4Q24 +2.4%q-q ลดลง คาดที่ 2.6% และ prev. +2.8% ในงวด 3Q24

(*/-) US- China Tension : 1.)จีนเล็งคุมส่งออกชิ้นส่วนแบตเตอรี่-เทคโนโลยีแปรรูปแร่ โต้สหรัฐฯ8nvรัฐบาลจีนมีแผนคุมเข้มการส่งออกสินค้าที่ใช้ในการสร้างส่วนประกอบของแบตเตอรี่และการแปรรูปโลหะสำคัญ 2 ชนิด (จีนเป็นผู้นำในซัพพลายเชนแบตเตอรี่ เพราะมีกำลังการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ 85% เมื่อเทียบกับทั้งโลก) ความตึงเครียดทางการค้าที่ยังมีต่อ 2.) ฝั่งสหรัฐคณะบริหารของประธานาธิบดี ไบเดน กำลังพิจารณาออกกฎหมายควบคุมหรือสั่งห้ามโดรนของจีนในสหรัฐฯ KSS ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม อาทิ AMATA WHA

(+) China Stimulus : Financial Times เผยธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า PBOC อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ระดับ 1.5% "ในเวลาที่เหมาะสม" ในปี 2025 ผสานกับ รัฐบาลจีนประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ ครอบคลุมข้าราชการและพนักงานภาครัฐทั้งหมด 48 ล้านคน เม็ดเงินที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจราว 1.2-2.0 หมื่นล้าน$ + มาตรการหนุนการจับจ่ายเพิ่มเติม โดยขยายกลุ่มสินค้าภายใต้มาตรการ Trade-in Programmme ครอบคลุม Smart Devices จากเดิมเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถ โดยอาจมีการออกพันธบัตรสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่กำหนดไว้ 3.0 แสนล้านหยวน (56.2 พันล้านเหรียญฯ) ประเมินมีโอกาสเห็นเม็ดเงิน/GDP ทั้ง 2 ส่วนราว 0.2-0.3% ของ GDP มองเป็นสัญญาณบวก เน้นสะสมหุ้น China Play นำโดย SCC IVL PTTGC

(*) To monitor : ฝั่งสหรัฐ 10 ม.ค. ติดตามรายงานภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ธ.ค. 24 1) ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค..24 ตลาดคาด 1.53 แสนตำแหน่ง vs prev. 2.27 แสนตำแหน่ง 2) อัตราว่างงาน ธ.ค. 24 ตลาดคาด 4.2% ทรงตัวจาก prev. ที่ 4.2% เราประเมินความเป็นไปได้ที่จะเห็นภาพใกล้เคียงกับตลาดคาด อิงสัญญาณชี้นำภาคแรงงานในส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานว่างงานครั้งแรก ธ.ค. 24 เป็นภาพแกว่ง Sideways ในกรอบ 2.2-2.4 แสนราย แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 2.0 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาพการจ้างงานสหรัฐฯ สมดุล บ่งชี้ภาพ Goldilocks to Soft Landing ของสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างชัดในระยะหลัง และยังไม่น่าจะทำให้ตลาดกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย (Hard Landing) ฝั่งยุโรป 6 ม.ค. ติดตามรายงาน HCOB PMI เดือน ธ.ค. ภาคผลิตคาด 49.5 จุด เท่าเดือนก่อน, ภาคบริการคาด 51.4 จุด เท่าเดือนก่อนเช่นกัน 7 ม.ค. ติดตามรายงานเงินเฟ้อ CPI ธ.ค. คาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.4%y-y, +0.3%m-m vs prev. +2.2%y-y, -0.3%m-m, เงินเฟ้อพื้นฐาน +2.4%y-y vs prev. +2.2%y-y

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐแกว่งตัว อิง อายุ 2 ปี + 4 bps อยู่ที่ 4.28% และอายุ 10 ปีปรับขึ้น 5 bps อยู่ที่ 4.6% (หากอิงสถิติ US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield 10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว) มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร SCB BBL KBANK และประกันชีวิต BLA TLI ส่วน Dollar Index ชะลอการแข็งค่าบริเวณ 108.8 จุด

(*/+)Oil :ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเป็นวันที่ 4 อิง น้ำมันดิบ Brent +1.0%d-d ปิดที่ USD 76.7/barrel น้ำมันดิบ West Texas +1.3%d-d ปิดที่ USD 73.9/barrel แรงหนุนจากฝั่งจีนคาดจะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และฝั่งความต้องการใช้จากฤดูกาล จากสภาพอากาศในสหรัฐและยุโรป โดยมีการคาดการณ์ว่าจะเผชิญภาวะอากาศหนาวเย็น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมันดีเซลโดยรวมมองเป็นจิตวิทยาบวกระยะสั้นต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ PTT, PTTEP

 

What happened in Thailand?

(*/+) SET Index SET Index วันศุกร์ฟื้น +4.91 จุด (+0.36%) ปิดที่ระดับ 1,384.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.95 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 208 บริษัท, หุ้นปรับลง 251 บริษัท) ดัชนีปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย หุ้นกลุ่มที่ปรับขึ้น คือ กลุ่ม ชิ้นส่วน (DELTA, CCET) กลุ่ม พลังงาน (GULF, GPSC) ฟื้นตัวหลังจากวันก่อนรับประเด็น GMT กลุ่มธนาคาร (KTB, SCB) ปรับขึ้นจากมุมมองเศรษฐกิจปี 2025 เร่งขึ้นจากปี 2024 และเป็นหุ้นปันผลสูง ส่วน Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม ปิโตรเคมี (IVL PTTGC ), กลุ่ม อาหาร (CPF) ฯลฯ

(*/-) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุด เงินไหลออก พลิกซื้อหุ้น 13.9 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -178.3ล้านเหรียญฯ TFEX Net long 27,971 สัญญา เงินบาทอ่อนค่า 34.47+/- บาท

(*/+) TH Tourism: อิงข้อมูลสำนักตรวจคนเข้าเมือง จำนวนนักท่องเที่ยว 4 ม.ค. สูง 1.06 แสนคน โดยรวมหนุนนักท่องเที่ยว 1-4 ม.ค. 25 อยู่ที่ 4.08 แสนคน เฉลี่ยวันละ 1.02 แสนคน vs ค่าเฉลี่ยต่อวัน 1-7 ม.ค. 24 ที่ 8.6 หมื่นคน เติบโตราว 15%+/- โดยรวมยังอยู่ในทิศทางนักท่องเที่ยวปี 2025F กลับใกล้เคียงระดับ Pre-COVID ที่ 40 +/- ล้านคน (+12.6%y-y) ผสาน แรงหนุน ร่าง พ.ร.บ. โครงการสถานบันเทิงครบวงจรเดินหน้าตลอดทั้งปี ขณะที่หุ้นอิงภาคบริการที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในโซนฐาน แนะนำสะสมต่อเนื่อง เน้น AOT CPALL BTS

(*/+) Mass Transit อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 27 ธ.ค.24 - 2 ม.ค.25 ภาพรวม 7 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางรวม 9,077,045 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 194,936 คน-เที่ยว +2.2%y-y KSS มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มขนส่ง อาทิ BTS , BEM เน้น BTS ที่หุ้นอยู่ในโซนลงทุน + แนวโน้มผลประกอบการ Turnaround

(*/+) Digital Tech: ดัชนีการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGDI) ปี 2567 ซึ่งจัดโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ทุก ๆ 2 ปี โดยประเทศไทยได้ขยับขึ้นมาสู่อันดับที่ 52 จาก 193 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นอิงโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี อาทิ โรงไฟฟ้า สื่อสาร กลุ่ม Digital Tech โดยพัฒนาการที่ดีขึ้นน่าจะหนุนโอกาสดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติต่อเนื่องและหนุนไทยก้าวเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของอาเซียน

(*/+) Household Debt Measures: กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือน เฟส 2 คือ ช่วยลูกหนี้เปราะบางของกลุ่ม Non-Bank ผ่านวงเงิน Soft Loan มูลค่า 5.0 หมื่นล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. ภายใน ม.ค. 25 เช่น รัฐฯปล่อยกู้ให้ธนาคารออมสินดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี และให้ทางออมสินปล่อยสินเชื่อให้กับ Non-Bank ประเมินจิตวิทยาบวกกลุ่ม Domestic อาทิ ธนาคาร เช่าซื้อ

(*) Sugar : GACC หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางอาหารจีนออกคำสั่งฟ้าผ่าสั่งระงับการนำเข้าน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมที่ส่งออกจากโรงงานผู้ผลิตไทย 74 ราย อ้างได้รับการร้องเรียนน้ำเชื่อมไทยไม่ปลอดภัย ประเมินเป็นลบต่อหุ้นน้ำตาลที่ความต้องการสินค้ามีแนวโน้มลดลง อาทิ KSL KBS KTIS แต่บวกต่อหุ้นที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบในฝั่งเครื่องดื่ม อาทิ CBG (6% ของต้นทุน) OSP (5%) MALEE (5%) ICHI (6%) SAPPE (10%) เน้น MALEE

(*) TH CPI : วันนี้ติดตามเงินเฟ้อไทย CPI พ.ย. 24 ตลาดคาด +1.4%y-y, +0.8%m-m vs prev. +0.95%y-y, -0.13%m-m ทั้งนี้ ระดับเงินเฟ้อดังกล่าวยังอยู่ในกรอบล่างเงินเฟ้อ BOT คาดสร้างความยืดหยุ่นต่อการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ โดย Krungsri Research ประเมิน BOT มีโอกาสปรับลด 1 ครั้งในช่วงต้นปี 2025F

(*) To Monitor : ประเด็นที่ต้องติดตาม

1.) 7-13 ม.ค. ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือน ธ.ค. (ไม่มีคาด) prev. 50.4 จุด มองมีโอกาสเร่งขึ้น หนุนจากภาคท่องเที่ยว จากนักท่องเที่นวชาติชาตเข้ามาเร่ง ผสานกับช่วงปลายปี 2024 หลายเทศกาลทั้งคริสมาสตร์และปีใหม่ โดยรวมคาดหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก BJC, HMPRO

2.) ประชุม ครม. นัดแรกของปี 7 ม.ค. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 'DE" ชงเพิ่มโทษอาชญากรรมออนไลน์ มองเป็นเพียง Sentiment ลบ เรามีมุมมองเป็น กลาง ต่อ ธนาคาร และ กลุ่ม ICT เพราะ 1.ธนาคารมีการพัฒนาระบบ mobile และ internet banking อยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่ในงบการลงทุนทางด้าน IT 2.ช่วงที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการเพิ่มคำเตือนก่อนโอน เผื่อเป็นการเตือนลูกค้าในระบบหนึ่ง ดังนั้น หากมีกฎระเบียบที่เพิ่มเติม เรามองว่าธนาคารสามารถปฏิบัติตามได้

 

 

Daily Strategy : KTB, INTUCH, MALEE

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ "Sideways/Up" หนุนจากจิตวิทยาบวกตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มหุ้นเทคฯ หลัง Microsoft ประกาศลงทุน AI Data Center 80 พันล้านเหรียญฯ ผสาน จีน Proactive ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผสานเข้าใกล้ช่วง Dividend Season โดยรวมทำให้หุ้นเด่นนำตลาดวันนี้ ประกอบด้วย หุ้น China Plays, หุ้นในธีม Infra Tech และ หุ้น Dividend Plays (ธนาคาร สื่อสาร) หรือมีประเด็นหนุนเฉพาะ (เครื่องดื่ม การเงิน)

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, CPF, SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, BJC)
•Jan 2025 Stock Picks : ADVANC, INTUCH, SCB, TTB, BTS, GULF, MALEE

• 2025F Stock Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

Tactical & Investment Idea

 

Research Highlight

 

Strategy Update : Dividend Plays 2H24: ช่วงปลายเดือน ก.พ. - พ.ค. 2025 จะเข้าสู่เทศกาลจ่ายปันผลประจำปี 2024 ของบริษัทจดทะเบียน ทีมกลยุทธ์ KSS จึงได้รวบรวมหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลช่วง 2024F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ 2H24F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง) จากคาดการณ์ของ KSS และ Consensus เพื่อนำมาคัดสรรหุ้นปันผลสูง (High Dividend) คือ Dividend Yield มากกว่า 3.5% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะ 1 - 2 เดือนแรกของปี ใน "Theme Dividend Play"

Key Ideas : KSS มีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นปันผลในช่วงต้นปีเนื่องจาก

o KSS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล(SETHD) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SETHD ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ของทุกปี ผลตอบแทนมักเป็นบวก เดือน ม.ค. ผลตอบแทนบวก 6 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.7%, เดือน ก.พ. บวก 7 ใน 10 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.67%

o SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด 1Q) ผลตอบแทนเป็นบวก 7 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.85%)

กลยุทธ์ : ในเชิงกลยุทธ์ KSS แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD 2 สัปดาห์แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD (dividend capture) มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี ทีมกลยุทธ์ KSS ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ

1.) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล ช่วง 2024F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ 2H24F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง)

2.) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโต/กระแสเงินสดมั่นคง /อยู่ใน Theme การลงทุนหลักของ KSS ปี 2025 อาทิ Theme เศรษฐกิจไทยปี 2025F เติบโต อาทิ กลุ่มธนาคาร หรือ อยู่ในอุตสาหกรรม Up Cycle อาทิ Sector ICT หรือ หุ้นที่อยู่ในกลุ่มได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อาทิ กลุ่มอสังหา กลุ่มการเงิน ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำ

พบว่ามีหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลเด่น 9 บริษัท คือ

หุ้น Big Cap ได้แก่ SCB (TP Max Con 135.0, Yield 2H24F 8.6%), TTB (TP25-2.2,Yield 2H24F 7.2%) HMPRO (TP25-13.5,Yield 2H24F 4.3%) INTUCH (TP25-108,Yield 2H24F 4.2%), ADVANC (TP25-305, Yield 2H24F 3.7%),
หุ้น Mid Cap ได้แก่ AP (TP25-11.8., Yield 2H24F 7.65%), TISCO (TP25-97.0, Yield 2H24F 5.84%), SC (TP25-3.2, Yield 2H24F 5.52%), JMT (TP25-22.8, Yield 2H24F 2.3%),

หุ้นปันผลสูงครึ่งหลังปี 2024 ADVANC, INTUCH, SCB, TTB, HMPRO,JMT AP, SC, TISCO

โดยทีมกลยุทธ์ KSS ได้ทำการศึกษาสถิติหุ้นปันผลเด่น 9 บริษัทดังกล่าวข้างต้น ย้อนหลัง 8 ปี พบว่าหากลงทุนซื้อหุ้นก่อน 2 สัปดาห์และขายวันที่ขึ้น XD พบว่า ผลตอบแทนเป็นบวก โดยหุ้นที่ให้ Return มากที่สุด คือ JMT +5.36%, TTB +4.16%, ADVANC +3.05%, ส่วน SCB, HMPRO, INTUCH, AP, SC, TISCO ผลตอบแทน (Capital Gain) เฉลี่ยอยู่ราว 1% เท่ากับว่า การลงทุนหุ้นกลุ่ม High Dividend ในช่วงเวลาดังกล่าว หลาย ๆ ครั้งนักลงทุนจะมักจะได้รับเงินปันผลฟรี

 

• SCB (Neutral, TP-110): เรามีมุมมอง neutral ต่อกำไรสุทธิ 4Q24F คาดที่ 9.50 พันลบ. กำไรลดลง -14%y-y และ -13% q-q เพราะ i) การลดลงของสินเชื่อรวม -0.6% q-q คิดเป็น -0.3% YTD จากสินเชื่อ SME และรายย่อย ii) การลดลงของ yield on loan จาก 4Q23 และ 3Q24 มี one-time pre-payment ของลูกค้าภาคธุรกิจ iii) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพราะลูกหนี้ตกชั้นมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มบ้าน NPL Ratio คาดที่ 3.50% จาก 3Q24 ที่ 3.38% ภาพรวมเรามอง SCB คงปันผลเด่น dividend yield สูงสุดในกลุ่มธนาคารประมาณ 8-9% ต่อปี ซึ่ง 2H25F คาดจ่ายที่ 7.81 บ./หุ้น dividend yield ประมาณ 7%

• MOSHI (Buy, TP-64): มอง Positive ต่อแนวโน้มผลประกอบการทั้งระยะสั้น โดย SSSG 4Q24F คาดบวก 15-16% y-y เด่นสุดในกลุ่มฯ และระยะกลางยาว ยังมีโอกาสเติบโตดี คาดกำไรปี 25F +26% y-y ทั้งการขยายสาขาเชิงรุกปีนี้ และเริ่มมีสาขาใหญ่, การเพิ่ม SSSG ผ่านสินค้าใหม่และการปรับ Display ภายใต้การแข่งขันยังจำกัด แนะนำ Buy จาก TP65F 64.0 บาท อิง DCF

• Soft Commodity (Neutral): สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น +2%w-w จากความกังวลต่อภาวะแห้งแล้งในบางพื้นที่ของอเมริกาใต้ ราคาน้ำมันปาล์มลดลง -3.2%w-w จากปริมาณการส่งออกของมาเลเซียลดลง ราคายางพาราลดลง -0.4%w-w จาก ความกังวลด้านอุปทานตึงตัวลดลง ขณะที่อุปสงค์ชะลอในช่วงหยุดยาว ราคาน้ำตาลลดลง -0.3%w-w เนื่องจากแนวโน้มอุปทานทั่วโลกดีขึ้น บราซิลเร่งผลิตน้ำตาลเพื่อส่งออกเพราะค่าเงินเรียล(BRL)อ่อนค่าและคาดการผลิตในไทยฤดูกาล 2024/25 เพิ่มขึ้น

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ราคาไก่ ทรงตัว w-w อยู่ที่ 40.50 บาท (ต้นทุน 36-37 บาท) ราคาสุกรทรงตัว w-w ที่ 73.50 บาท (ต้นทุน 66-67 บาท) ราคาสุกรจีน เพิ่มขึ้น +1.7%w-w ที่ 15.80 หยวน หรือ 74.47 บาท (ต้นทุนการเลี้ยง 15.50 หยวน) จากความต้องการเพิ่มขึ้นหลังปีใหม่ ราคาสุกรเวียดนามเพิ่มขึ้น +0.8%w-w ที่ 67,333 ดอง หรือ 91.37 บาท (ต้นทุนการเลี้ยง 45,000 ดอง) คาดมาจากอุปทานลดลงเพราะโรคอหิวาต์แอฟริกา (ASF) และความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น

เราให้น้ำหนักกลุ่มฯ NEUTRAL เรายังคงเลือก CPF (TP25F 30) เป็น Top pick ราคาเนื้อสัตว์มีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำ

 

2025F Equity Outlook : Resilient Domestic Escort amid Market Volatility

Stock Best Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE


Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้