
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2 มกราคม 2568)------- SMD100 เปิดศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร ณ ศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ พร้อมตั้งเป้ารับรองมาตรฐานระดับโลก AACI คาดสร้างรายได้ต่อเนื่องและมั่นคงตลอดระยะเวลา 5 ปี พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่20 ม.ค.68
นายวิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) SMD100 เปิดเผยว่า บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ ศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร (Sleep Test Center) ณ ศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ (Thammasat Healthcare Center - THAMC)ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทฯ และศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ เพื่อยกระดับศักยภาพการให้บริการตรวจการนอนหลับในประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานระดับสากลสัญญาระหว่างบริษัทฯ และศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ได้ลงนามเมื่อวันที่27 ธันวาคม 2567 โดยมีผลให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 และบริษัทฯ คาดว่าศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจรจะสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
รายละเอียดโครงการ:
1. การเปิดให้บริการ:
• ศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 โดยศูนย์ฯ จะติดตั้ง เครื่องตรวจการนอนหลับ PSG Type I จำนวน 11 เครื่อง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
2. เป้าหมายการรับรองมาตรฐานระดับโลก:
• บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายให้ศูนย์ตรวจการนอนหลับได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACI (AccreditationAssociation for Ambulatory Health Care International) ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการให้บริการและตอกย้ำมาตรฐานระดับสากล
3. ขยายศักยภาพเตียงตรวจการนอนหลับ:
• เดิมทีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมีเตียงสำหรับตรวจการนอนหลับจำนวน 5 เตียง
• โครงการนี้เพิ่มเตียงอีก 11 เตียงในศูนย์การแพทย์ธรรมศาสตร์ รวมเป็น 16 เตียง ช่วยลดคิวรอจาก 6 เดือนลงอย่างมีนัยสำคัญ
4. รายได้ที่คาดการณ์จากโครงการ:
• รายได้จากค่าบริการตรวจการนอนหลับและการจำหน่ายเครื่องช่วยหายใจ CPAP คาดว่าจะสร้างรายได้รวมประมาณ 375 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา 5 ปี โดยบริษัทฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายฐานลูกค้าและความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
ผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจและสังคม:
1. เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ:
• การเปิดศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจรครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจและรักษาภาวะการนอนหลับที่มีคุณภาพสูง ลดปัญหาการรอคิว และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
2. เสริมสร้างผลประกอบการของบริษัท:
• โครงการนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ต่อเนื่องและมั่นคงตลอดระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดอุปกรณ์ช่วยหายใจ CPAP และเสริมความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการแพทย์
3. ตอกย้ำมาตรฐานระดับโลก:
• เป้าหมายการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACI จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับศูนย์ตรวจการนอนหลับครบวงจร และยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านสุขภาพของประเทศไทย
///จบ///