SVI (SVI TB)
มุมมองเชิงบวกในปี 2568 แต่ยังมีความกังวลระยะยาว
ปรับลดประมาณการกำไรจากผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” หุ้น SVI แต่ปรับลดราคาเป้าหมาย (TP) ที่ได้จากวิธี DDM ลง 2% เหลือ 8.00 บาท (อิง COE 10.4% และอัตราการเติบโต 7.5%) จากเดิม 8.20 บาท เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2567 ลง 15% เหลือ 1.3 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่กดดันอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แม้กระนั้น เรายังคาดว่ากำไรหลักของ SVI จะเติบโตเป็น 1.5 พันล้านบาท (+17% YoY) ในปี 2568 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ทั้งนี้ SVI ยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นสงครามการค้า โดยมีพื้นที่โรงงานที่ใช้การได้เพียง 30% ของความจุที่มีอยู่ ซึ่งอาจมีโอกาสเติบโตจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในยุค “Trump 2.0” อย่างไรก็ตาม เรามองว่าแนวโน้มการเติบโตระยะยาวมีข้อจำกัด จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ (ยอดขายเครื่องขุด Bitcoin ลดลง) และการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำทั่วโลก (GMT)
คาดกำไรไตรมาส 4 ฟื้นตัว 41% QoQ
เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 4/67 จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 281 ล้านบาท (+16% YoY, +41% QoQ) เราเชื่อว่าสินค้าเกี่ยวกับการขุด Bitcoin (BTC) กำลังได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นชั่วคราว โดยเฉพาะหลังจากราคาของ BTC ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากหลังการชนะการเลือกตั้งของ Trump เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง เราคาดว่ายอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง การเติบโต QoQ ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
แนวโน้มปี 2568 เป็นบวก แต่การเติบโตจะชะลอตัวในระยะต่อไป
เราคาดว่ากำไรหลักของ SVI จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 7% ในช่วงปี 2567-2571 แม้คาดว่ากำไรหลักจะเพิ่มขึ้น 17% YoY ในปี 2568 แต่เราเชื่อว่าโมเมนตัมการเติบโตจะเริ่มชะลอตัวในปี 2569 เนื่องจากกระแสความต้องการเครื่องขุด BTC มีแนวโน้มลดลง และคำสั่งซื้อจะค่อยๆ ลดลง นอกจากนี้ เราคาดว่าอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นจาก GMT จะจำกัดการเติบโตของกำไรหลักในปี 2570 เนื่องจากรายได้ของ SVI จะเกินเกณฑ์ 830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มีอัพไซด์จากสงครามการค้า
แม้ว่า SVI จะมียอดขายจากลูกค้าใหม่เฉลี่ยปีละ 20-30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เราคิดว่า SVI อาจได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากลูกค้าใหม่ที่ต้องการลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยลูกค้าเหล่านี้อาจมาจากประเทศที่เผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในยุค Trump 2.0 เช่น จีนและเวียดนาม (สองในสามอันดับแรกของประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ณ 9M67 ตามข้อมูลของ US Census Bureau)
Yugi Takeshima
yugi.takeshima@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1530