Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

372

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 30 ธ.ค.67 ปิด -1.25 จุด อยู่ที่ 1,400.21 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,842 ลบ. สถาบันซื้อ 930 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 293 ลบ. ต่างชาติขาย 361 ลบ. และรายย่อยขาย 862 ลบ.  NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,489 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,AOT,BCP,CPALL,TIDLOR และยอดขายหุ้น CCET,SAWAD,COM7,BANPU,BDMS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,086 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JTS,IRPC,ACE โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,395 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,661 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,982 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.07%, S&P500 -0.43%, Nasdaq -0.90% ถูกแรงขายทำกำไรกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย และบริการสื่อสาร ที่โดดเด่นในปี 67 ปรับขึ้น 25 – 30% YoY ขณะที่ S&P/C-S เผยดัชนีราคาบ้านสหรัฐ ต.ค. +3.6% ชะลอตัวจาก ก.ย. +3.9% YoY ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.08% เปิดทำการซื้อขายครึ่งวันในวันสุดท้ายของปี ส่วนข้อมูล CPI สเปน ธ.ค. ปรับขึ้น +2.8% & พ.ย. +2.4% & คาด +2.6% YoY

Market View

  • DJIA +12.8%, S&P500 +23.3%, Nasdaq +28.6% YTD โดยกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร และไฟแนนท์ ได้ปัจจัยหนุนจาก 1) เฟดลดดอกเบี้ยปีนี้ลง 1% อยู่ที่ 25 – 4.5% หลังเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มลดลง 2) ภาวะเศรษฐกิจ & ตลาดแรงงานสหรับขยายตัวดี 3) การเติบโตของธุรกิจ AI ส่งผลบวกต่อกลุ่ม Magnificent Seven เช่น Nvidia +171%, Apple +62% YTD 4) นโยบายของทรัมป์ ที่จะปรับลดภาษีนิติบุคคล และลดกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลบวกต่อแนวโน้มกำไร บจ.สหรัฐ เช่น กลุ่มธนาคาร, BitCoin แต่ดัชนีหุ้นสหรัฐชะลอตัวใน ธ.ค. หลังเฟดส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ยในปีหน้าเพียง 2 ครั้ง & เดิมคาด 4 ครั้ง จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PMI/ISM ภาคการผลิตสหรัฐ ธ.ค.
  • Stoxx 600 ยุโรป +5.9 % YTD นำโดยกลุ่มธนาคาร +25%, สื่อสาร +15.8% และบริการการเงิน +15% YoY หลัง ECB ปรับลดดอกเบี้ย Depot Rate ปีนี้ลง 4 ครั้งรวม 1% อยู่ที่ 0% ขณะที่กลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม, ยานยนต์ และทรัพยกรพื้นฐานปรับลดลง จากปัจจัยลบ เช่น ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า, สงครามรัสเซีย – ยูเครน กอปรกับการเมืองฝรั่งเศส, เยอรมันขาดเสถียรภาพ ค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคการผลิตยูโรโซน ธ.ค.                       
  • MSCI Asia Pacific X.Japan +12% YTD นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือ ปรับขึ้นตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ กอปรรัฐบาลจีนเริ่มออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจใน ก.ย. วงเงิน 3 ลล.ดอลลาร์สหรัฐ และ ธ.กลางจีนปรับลดอัตรา RRR และลดดอกเบี้ย Repo Rate, LPR ลง ส่งผลให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +13.1%, ฮั่งเส็ง +19.5% YoY ส่วนดัชนีนิเกอิ +19.2% YoY ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า ส่งผลบวกต่อกลุ่มส่งออกญี่ปุ่น ขณะที่ Kospi เกาหลีใต้ -10.1% YoY หลัง ปธ.ยุล ประกาศกฎอัยการศึก โดยไม่มีเหตุผลเหมาะสม จึงถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง และอยู่ระหว่างรอการไต่สวน เช้านี้ติดตาม Caxin PMI ภาคการผลิตจีน ธ.ค.
  • SET -1.10% YTD ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 5 หมื่น ลบ. -11.8 % YoY ต่างชาติขาย 1.47 แสน ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 15 ลบ. สถาบันซื้อ 4.88 หมื่น ลบ. และรายย่อยซื้อ 9.9 หมื่น ลบ. YoY โดยกลุ่มที่ปรับลดลง คือ บรรจุภัณฑ์ -34.8%, วัสดุก่อสร้าง -33.7%, ยานยนต์ -28.8%, ปิโตรเคมี -22.2% YoY ซึ่งเป็นกลุ่ม Global Play ที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีนที่ฟื้นตัวช้า กอปรกำไรกลุ่มโรงกลั่น & ปิโตร ฯ ยังถูกกดดันจากผลขาดทุนสต็อค ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้น คือ อิเล็กฯ +65.4% YoY นำโดย DELTA +73.3% YoY ที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจ Data Center & Ai และกลุ่มไอซีที +32.4% YoY นำโดย TRUE +120% YoY จากคาดกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังการควบรวมกิจการกับ DTAC ส่วน ADVANC +32% YoY ตอบรับการควบรวมกิจการของ GULF & INTUCH ที่จะให้บริการ Cloud Services ในไทย ขณะที่ บจ.ในกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ส่งออก คาดกำไรปี 67 ยังฟื้นตัวได้ดีตาม GDP ไทยปี 67 ที่คาดจะขยายตัวได้ราว 2.6% YoY ประเด็นที่ต้องติดตามในปี 68 คือ 1) ผลกระทบจาก ม.ปรับภาษีนำเข้าของสหรัฐ 2) ปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์รัสเซีย – ยูเครน, ตะวันออกกลาง ฯ 3) ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 – 1,395 แนวต้าน 1,410 คาดดัชนี Sideway รอประเมินผลกระทบจาก ม.ทรัมป์ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. นี้ แนะนำทยอยซื้อ ADVANC,INTUCH,SIRI เป็นกลุ่มที่จ่ายเงินปันผลสูง/ AMATA,WHA คาดได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตเข้าไทย / เก็งกำไร SAWAD,SKY,MBK มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
  • AU* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.10 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 83 ล้านบาท +15%QoQ, +55%YoY มีปัจจัยหนุนจากยอดขายรวมที่เพิ่มขึ้นจากทั้งยอดขายสาขาเดิม-สาขาใหม่ และการขยายช่องทางใน 7-11 ซึ่งวางขายขนมปังเนยโสดมีกระแสตอบรับที่ดี โดย GPM อยู่ที่ 65% ใกล้เคียงเดิม QoQ, YoY แต่ SG&A/sales ลดลง แนวโน้ม 4Q67 มีแผนขยายสามาเพิ่ม 1-2 สาขา และเพิ่มช่องทางบนสายการบินไทย ส่งผลบวกต่อกำไรเติบโตได้ทั้ง QoQ, YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 276 ล้านบาท +55%YoY และ 320 ล้านบาท +16%YoY
  • ITC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 28.70 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 976 ลบ. -3%QoQ, +52%YoY ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจาก GPM ที่อยู่ในระดับสูง จาก สัดส่วนสินค้า Premium ที่สูง, การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง, และ ต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง ทั้งนี้ ส่วนการดำเนินงาน 4Q67 คาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อ มูลค่าการส่งออกของไทย ต.ค.-พ.ย.67(หน่วย:บาท) อาหารสุนัขและแมว +7%YoY นอกจากนี้ ITC จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อใน 3Q67 บางส่วนส่งไม่ทันมารับรู้รายได้ใน 4Q67 แทน ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ระดับ 3,783 ลบ.(+66%YoY) และ 4,165 ลบ.(+10%YoY)

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.พ. +$0.73 อยู่ที่ $71.72 / บาร์เรล, Brent ก.พ. +$0.65 อยู่ที่ $74.64/บาร์เรล โดย WTI +0.5%, Brent -2.9% YoY ถูกกดดันจากอุปสงค์ความต้องการใข้น้ำมันจากจีนที่ฟื้นตัวช้า กอปรกลุ่มนอกโอเปกได้เพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+22.9 อยู่ที่ $2,641.0 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +27.4% YoY ได้แรงหนุนจาก ธ.กลางสหรัฐ , ECB เริ่มปรับลดดอกเบี้ย และมีปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลาง และรัสเซีย – ยูเครน กอปร ธ.กลางหลายแห่งทยอยซื้อทองคำเข้าสู่คลังสำรองของประเทศ

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วันจันทร์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +24.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -10.54 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +34.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 34.22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.573 %

(0) ดัชนี BDI วานนี้ปิดทำการ

(+) BitCoinเช้านี้ +0.98% อยู่ที่ 95,294 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)Caixin PMI ภาคการผลิตจีน ธ.ค. คาด 51.6 & พ.ย. 51.5

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

(ม.ค.)      

 

ต่างประเทศ

31 ธ.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน

02 ม.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.)

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

03 ม.ค.     US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (ธ.ค.)

               

 

 

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้