News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

27 ธ.ค. 2567 09:15:36 398

Market Wrap-Up

SET วันที่ 26 ธ.ค.67 ปิด -3.05 จุด อยู่ที่ 1,397.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,087 ลบ. สถาบันขาย 157 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 147 ลบ. รายย่อยขาย 880 ลบ. และต่างชาติซื้อ 434 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 607 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,GULF,CPALL,CCET,KBANK และยอดขายหุ้น BDMS,EA,CPN,JMT,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 765 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,TGE,SSP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,033 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 16,168 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,488 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.07%, S&P500 -0.04%, Nasdaq -0.05% โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -0.64%, บริการสื่อสาร -0.36% ขณะที่การเงิน +0.21%, บริการสุขภาพ +0.16% ดัชนีถูกกดดันจาก US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.6% สูงสุดนับตั่งแต่ พ.ค. ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทำการในวันหยุด Boxing Day

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทรงตัว โดยหุ้นกลุ่ม Growth และกลุ่ม Magnificent Seven เช่น Tesla -1.8% หลัง US Bond Yield 10 ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.64% ส่งผลให้ต้นทุนการเงินมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลลบต่อแนวโน้มกำไรของกลุ่ม Growth ส่วนข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 1,000 ราย อยู่ที่ 219,000 ต่ำกว่าคาด 224,000 ราย บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ดังนั้น CME FedWatch จึงคาดมีโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5% ในการประชุม ม.ค., มี.ค. ปีหน้า และคาดจะลดดอกเบี้ยปีหน้าเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตามยอดสินค้าคงคลังภาคค้าส่งสหรัฐ พ.ย. คาด 0.1% & ต.ค. 0.2% MoM
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดในวัน Boxing Day โดยนักลงทุนรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของ ปธ.ทรัมป์ ที่กดดันให้ EU ซื้อน้ำมัน & ก๊าซจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อชดเชยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ มิฉะนั้นอาจถูกสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกสเปน พ.ย. คาด 2.8% & ต.ค. 3.5% YoY
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.14% หลังทางการจีนได้อนุมัติออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 3 ลล.หยวนในปีหน้า เพื่อกระต้นเศรษฐกิจ โดย World Bank คาด GDP จีนปีหน้าที่ 4.5 จากเดิมคาดที่ 4.1% ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิ และการส่งออกคาดเติบโตดี ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +1.12% นำโดยกลุ่มยานยนต์ +4.6% จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าอยู่ที่ 157.68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก ด้านข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ Tokyo Core CPI ธ.ค. คาด 2.4% & คาด 2.5% & พ.ย. 2.2% YoY และกำไรภาคอุต ฯ จีน พ.ย.
SET วานนี้ -0.22% ปริมาณการซื้อขาย 2.4 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 157 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 147 ลบ. รายย่อยขาย 129 ลบ. และต่างชาติซื้อ 434 ลบ. ดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังนายก ฯ สั่งให้ กพช. ชะลอการลงนามสัญญา PPA กับผู้ชนะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 72 ราย รวม 2,180 เมกะวัตต์ ซึ่งอาจต้องพิจารณาเกณฑ์คัดเลือกใหม่ ส่วนกลุ่มค้าปลีก CPAXT, CPALL ยังถูกแรงขาย หลังสมาคม บจ.แนะนำให้กองทุนระมัดระวังการลงทุน ระหว่างรอการพิจารณาจาก กตล.ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชน คือ กลุ่ม Domestic Play เช่น ไอซีที, ธนาคาร, ไฟแนนท์ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยภาวะการซื้อขายในช่วงท้ายปี คาดจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนประหยัดภาษี กอปรกับการทำ Window Dressing หลังราคาหุ้น Big Cap. หลายตัวยังอยู่ในโซนต่ำ

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 แนวต้าน 1,405 – 1,410 คาดดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินของกองทุนประหยัดภาษี และโอกาสเกิด Window Dressing แนะนำซื้อเก็งกำไร KBANK,KTB,TTB,KTC ได้ประโยชน์จาก ม.ปรับโครงหนี้ครัวเรือน/ ไอซีที ADVANC,INTUCH,TRUE คาดได้รายได้การใช้ข้อมูลสูงขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเก็งกำไร SCC,SCGP,PTTGC,BCP,BANPU,LH,AP,QH มีโอกาสทำ Window Dressing
COCOCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.80 บาท) แนวโน้ม 4Q67 มีปัจจัยกดดันจากฤดูกาลประกอบกับต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งยอดขายและกำไรอาจชะลอตัว QoQ อย่างไรก็ตาม YoY รายได้ยังคงเติบโตสอดคล้องกับตัวเลขยอดส่งออกน้ำมะพร้าวของไทย QTD ที่ยังเติบโตแบบ YoY โดยบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อต่อเนื่องจากลูกค้ารายเดิม ขณะที่คำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ทั้งสหรัฐและจีนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อาจจะต้องรอดูในช่วง 1Q68 ที่กำไรน่าจะกลับมาโต QoQ, YoY ได้ ส่วนภาพรวมปี 68 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ค่อนข้าง aggressive มาก หนุนจากคำสั่งซื้อจากประเทศจีน-สหรัฐ ผลของการออกสินค้าใหม่กลุ่ม PET รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับจ้างผลิตและส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงในช่วง 2H68 เบื้องต้นตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 ที่ 835 ล้านบาท +55%YoY และ 1,115 ล้านบาท +34%YoY
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย50 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 2,219 ลบ. (+86.37%YoY, +28.31% QoQ ) มีแรงหนุนจากรายการพิเศษเป็นบวก(เช่น Fx Gain) ราว 366 ลบ., รายได้กลุ่มFOOD(+12.4% YoY, +4.9% QoQ)/กลุ่มFASHION(+5.1% YoY, -1.3% QoQ ), และ SG&A สามารถคุมได้ดี(เช่น การต่อรองขอลดค่าเช่า) ส่งผลให้ SG&A to Rev. ลดลง ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปกติช่วง 4Q67 นี้ เรายังประเมินว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีแรงหนุนตาม Seasonal Effect ขณะที่ปัจจัยเสริมเพิ่มเติมจะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น, ม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ, และการฟื้นตัวของธุรกิจ HARDLINE ในไทยและเวียดนาม

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.พ. -$0.48 อยู่ที่ $69.62 / บาร์เรล, Brent ก.พ.-$0.32 อยู่ที่ $73.26/บาร์เรล ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.12% อยู่ที่ 108.13 ส่งผลให้สัญญาน้ำมันแพงขึ้น แม้ว่าจะได้ความหวังอุปสงค์น้ำมันของจีนมีโอกาสสูงขึ้น จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนในปีหน้า

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+$18.40 อยู่ที่ $2,653.90 /ออนซ์ โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่สงครามรัสเซีย – ยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +13.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +12.71 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อฟิลิปปินส์ +1.26 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 34.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.577 %

(0) ดัชนี BDI วานนี้ปิดทำการ

(-) BitCoinเช้านี้ -3.18% อยู่ที่ 95,871 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

27 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

23 ธ.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ธ.ค.)

24 ธ.ค. US ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.)

26 ธ.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR