Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

425

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งค้างๆ ตรง 1400+/-
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว


Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1390-1410 จุด ตามมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ผสานสภาพแวดล้อมยังขาดปัจจัยใหม่สนับสนุนเนื่องจากหลายประเทศอยู่ในช่วงปิดทำการท้ายปี แต่แรงซื้อจากสถาบันในประเทศจะเป็นตัวช่วยประคองตลาด วันนี้เลือก BJC และ SKY

การรายงานยอดส่งออกเดือน พ.ย. ขยายตัว 8.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ 9.%YoY แต่ภาพรวมยังขยายตัวได้ดีนำโดยกลุ่มสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอย่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ +41%YoY ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ +9.6%YoY ถุงมือยาง +35%YoY ขณะที่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวเช่นกัน ยางพารา +14%YoY อาหารสัตว์เลี้ยง +18%YoY ไก่แปรรูป/ไก่สดแช่แข็ง +10%/15%YoY ด้านมุมมองการส่งออกเดือน ธ.ค. 67 กระทรวงพาณิชย์คาดส่งออกเดือน ธ.ค. มีมูลค่า 2.43 หมื่นล้านเหรียญฯ หนุนทั้งปีขยายตัว 5.2%YoY ประเมินการส่งออกที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่ภาพรวมทั้งปีหากขยายตัว 5.2%YoY ถือเป็นระดับที่ดีและไม่สร้าง Downside ต่อตัวเลขภาคส่งออกเมื่อเทียบกับ BOT คาด 4.9%YoY และสภาพัฒน์คาดขยายตัว 3.8%

ส่วนหุ้นที่ได้ Sentiment บวก ส่วนหนึ่งผ่านเก็งกำไรไปแล้ววานนี้สะท้อนจาก STA STGT เพิ่มขึ้นไปกว่า 4% GFPT +2% หากเลือกเก็งกำไรอาจจะหันไปที่ Laggard มากกว่าเช่น CPF เป็นต้น

ด้านปัจจัยต่างประเทศวานนี้โดยรวมยังไม่มีประเด็นใหม่เนื่องจากหลายตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปอยู่ในช่วงปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส ส่วนวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเริ่มกลับมาเปิดทำการ โดยมีตัวเลขที่ติดตาม คือ รายงาน U.S. Initial Jobless Claim ที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 2.21 แสนตำแหน่ง มากกว่าสัปดาห์ก่อนเล็กน้อยที่ 2.20 แสนตำแหน่ง หากออกมาตามคาดหรือสูงกว่าคาดเล็กน้อยน่าจะเป็นผลดีกับตลาดในมุมแรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง

 

Market Summary
SET Index บวกไป 0.4% โดยกลุ่มที่ Outperform กลุ่มเกษตรฯ นำโดย STA +4% NER +3% จากรายงานยอดส่งออกยางพาราเดือน พ.ย. ขยายตัว 14% กลุ่มอาหารจาก TU +4% จากประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงิน 3 พันล้านบาท กลุ่มพลังงานหนุนหลักจาก BCP +9% หลังมีรายงานกองทุนจากสิงคโปร์ซื้อหุ้นสัดส่วน 5.94% และกลุ่มโรงกลั่นอื่นๆ SPRC +4.7% BSRC +2.6% กลุ่มที่ Underperform ยังเป็นอิเล็คทรอนิกส์ CCET -2.2% DELTA -0.33%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ BJC SKY


SKY
Mid Small Cap Play
SKY จะได้รับประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในสนามบินของไทยและการลงทุนด้านไอทีของรัฐบาล โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทั้งสองนี้คาดว่าจะนำไปสู่การเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่ง 61%/56% ในปีงบ 67/68 ตามลำดับ
ปัจจัยที่หนุนการเติบโตปี 68 ที่ 56% จากบริการผู้โดยสารและ AOTGA รวมถึงการเติบโตใหม่หลายด้าน 1) รายได้จากโครงการ SI เพิ่มขึ้น 213% 2) บริการสแกนไบโอเมตริกซ์ที่สนามบินของ AOT (2 บาท/ผู้โดยสารขาออก) และ 3) รายได้จาก CUPPS ที่ 7 สนามบินของกรมท่าอากาศยาน โดยการเติบโตของรายได้จาก SI ในปี 68 ส่วนใหญ่มาจากโครงการรัฐบาลที่ล่าช้าในปี 67
Upside ส่วนเพิ่มมาจากโครงการให้บริการภาคพื้นดินที่อาคาร SAT-1 ของสุวรรณภูมิ ซึ่งมีกำหนดประมูลในเดือนมี.ค. 68 อีกหนึ่งอัพไซด์สำหรับปี 68-69 คือการเพิ่มการใช้งานคลาวด์ของรัฐบาล
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 29.40 บาท


BJC
Laggard Play
เราคาดกำไรหลัก 4Q67 ขยายตัว QoQ หนุนจากเข้าสู่ช่วง High Season จากการใช้จ่ายในประเทศและผลบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าบ้านเราสูงขึ้น และอานิสงส์จากมาตรการแจกเงินสด 1 หมื่นบาท 14.5 ล้านคน มาตรการช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันวงเงิน 3.85 หมื่นล้านบาท ที่คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อ SSSG ไตรมาสนี้
ด้านกำไรหลักปี 68 คาดขยายตัว 12.1%YoY โดยช่วง 1Q68 คาดหมายว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯทั้งโครงการแจกเงินผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท 4 ล้านคน (คาดแจกช่วงตรุษจีน) รวมถึงโครงการ Easy E-Receipt ที่จะช่วยหนุนต่อยอดขาย BIG-C
ขณะที่ Valuation ขายที่ PER67 ที่ 20.3 และ 68 ที่ 18.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี – 1.7 S.D. ด้านราคาหุ้น Laggard กลุ่มจากสัปดาห์นี้ขึ้น 1.7% เทียบกลุ่มที่ขึ้น 3.7% ซึ่งมองว่าฉีกห่างกันเกินไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท

 

KEY FACTOR
ส่งออกไทย เดือน พ.ย. ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง +8.2%YoY คิดเป็นมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ถือว่าต่ำกว่าที่ Consensus คาดที่ +9.0% YoY เล็กน้อย โดยหากพิจารณา Real Sector (หักทองคำ น้ำมัน อาวุธ) ขยายตัว +7.0% YoY
1) สินค้าเกษตร ขยายตัว +4.1% 2) อุตสาหกรรมเกษตร +7.7% โดยมีสินค้าที่ขยายตัวเด่น ประกอบด้วย ยางพารา (+14.1%), อาหารสัตว์เลี้ยง (+18.1%), และผลไม้กระป๋องและแปรรูป (+24.6%) ขณะที่สินค้าบางประเภทกลับหดตัว เช่น ข้าว (-20.6%) และน้ำตาลทราย (-23.3%) และ 3) สินค้าอุตสาหกรรม +9.5% โดยมีสินค้าเด่น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (+40.8%) รถยนต์และส่วนประกอบกลับมาขยายตัว (+4.8%) หลังจากชะลอตัวไปก่อนหน้านี้
ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวเด่น นำโดย สหรัฐฯ (+9.5%) และจีน (+16.9%) มีอัตราขยายตัวที่ดี ในขณะที่ญี่ปุ่นและตลาดอาเซียน (5) กลับมาหดตัว -3.7% และ-1.5% ตามลำดับ


EYES ON
26 ธ.ค. ตลาดหุ้นบางส่วนปิดทำการต่อเนื่อง (ออสเตรเลีย ยุโรป อินโดฯ)
27 ธ.ค. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีน

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น1200 By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ ลุ้น 1,200 จุด เอาอยู่ไหม ด้วยตลาดหุ้นไทย หยุดยาว 3 วัน เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ นักลงทุน.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้