Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

491

 


"Selective Plays"

KSS Daily Strategy: คาด SET วันนี้ "Sideways/Up" ต้าน 1405/1410 จุด รับ 1395/1390 จุด ตลาดหุ้นต่างประเทศวานนี้ส่วนใหญ่ปิดทำการ ส่วน Futures สหรัฐฯเช้านี้ทรงๆ ช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ติดตามยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดคาดอยู่ที่ภายใน นำโดยยอดส่งออก พ.ย. 24 ดีกว่าคาดเล็กน้อย หนุนขาดดุลการค้า -224 ล้านเหรียญฯ ผสาน คาดดุลบริการยังน่าจะเด่นตามนักท่องเที่ยว พ.ย. 24 +19%y-y, +17%m-m คาดช่วยให้ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ย. 24 บวกต่อเนื่อง 7 เดือน ประกอบกับ ยอดเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐที่กลับมาเป็นแรงหนุนตั้งแต่ ต.ค. 24 โดยรวมหนุน GDP งวด 4Q24 เด่น ขณะที่สัญญาณเม็ดเงินหนุนตลาดหุ้นยังไปในทางบวก เงินบาทแข็งค่า 34.16 +/- บาท ต่างชาติ Net Long TFEX ที่ 7,723 สัญญา สูงสุดใน 4 วัน ผสานคาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศผ่านนักลงทุนสถาบันยังน่าจะมีโมเมนตัมทางบวกช่วงปลายปี คาด SET แกว่งขึ้นต่อ โดยวันนี้มีหุ้นนำ คือ หุ้นที่เป็นเป้าหมายเม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศที่มีแรงหนุนปลายปี ทั้งจากมาตรการรัฐ+ท่องเที่ยวคึกคัก+เงินบาทแข็งค่า หุ้นเข้า SET50 หุ้นส่งออกที่ยอด พ.ย. 24 y-y เร่งขึ้น อาทิ ไก่ น้ำมะพร้าว วันนี้แนะนำ ADVANC, AOT, MALEE

 

 

Daily outlook: "Sideways/Up" ต้าน 1405/1410 จุด รับ 1387/1380 จุด

What happened around the world?

What happened around the world?

(*)US Stock : ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องจากเทศกาล Christmas Eve

(*) PBOC Meeting : 1.)ธนาคารกลางจีน(PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี(ดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ 2% ตามการคาด 2.)ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงิน 1.923 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ ผ่าน reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% KSS มองข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจที่ทาง Politburo และ CEWC ได้วางแนวทางไว้ในช่วงก่อนหน้า โดยเรายังคาดหวังจะเห็นแผนนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในระยะถัดไป มองน่าสะสมหุ้น China Play นำโดย SCC IVL PTTGC

(*)Russia – Ukraine War : 1.) รัสเซียเปิดฉากโจมตีระบบพลังงานยูเครน ในเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครนด้วยขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธนำวิถี อิง DTEK บริษัทพลังงานเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศยูเครนเปิดเผยว่าโรงไฟฟ้าของบริษัทถูกโจมตี ส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้า "เสียหายหนัก" KSS ประเมินการโจมตีผลกระทบยังไม่ขยายวงกว้างและไม่ใช่แหล่งผลิตพลังงานสำคัญ 2.) กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่า ทางกองทัพสามารถสกัดขีปนาวุธลูกหนึ่งที่มีการยิงมาจากกลุ่มฮูตีในช่วงเช้าวันนี้ สถานการณ์โดยรวมทำให้มองเป็นเพียงจิตวิทยาบวกระยะสั้นต่อราคาพลังงานปรับขึ้น

(*)JP Interest rate : คุณคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เผย ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% อย่างยั่งยืนในปีหน้า บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่อาจมาเร็วกว่าที่คาด KSS คาดจะยังเห็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วง 1Q25 กลยุทธ์ให้น้ำหนัก Neutral แนะนำ เน้นถือสำหรับการลงทุนในตลาดญี่ปุ่น โดยอิงจากดัชนี NIKKEI225 วางจุดตัดขาดทุนกรณีหลุด 37500 จุด ลงมา

(*) To monitor : ฝั่งญี่ปุ่น 27 ธ.ค. ติดตามอัตราการว่างงาน พ.ย. คาด 2.5% เท่าเดือนก่อน, ดัชนีค้าปลีก พ.ย. คาด +1.7%y-y vs prev. +1.6%y-y ฝั่งจีน27 ธ.ค. ติดตามการรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรม พ.ย. คาด -5.0%y-y vs prev. -4.3%y-y

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐ และ Dollar หยุดเทรดเนื่องจากเทศกาลคริสมาสตร์

(*)Oil : น้ำมันดิบ Dubai +0.26%d-d ปิดที่ USD 73.65/barrel

(*/+) Rubber price : ยาง TOCOM +1.07%d-d ปิดที่ 370JPY/kg เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มยาง อาทิ STA, NER

(*/+) Steel Price : เหล็กเส้น +1.52%d-d และ +3.1%wtd ปิดที่ 469 CNY/MT ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่มีรายได้จากธุรกิจเหล็ก อาทิ กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อาทิ DOHOME, GLOBAL

 

What happened in Thailand?

(+) SET : SET Index วันทำการล่าสุดปิดปรับเพิ่มขึ้น +6.18 จุด หรือ +0.44% ปิดที่ 1400.85 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มพลังงาน (PTTEP, BCP) ตามแรงหนุนราคาน้ำมันฟื้น หลังมีกระแสข่าวจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค 3 ล้านล้านหยวน และ BCP จากจิตวิทยาบวกกองทุน CAI เข้าถือหุ้น 5.94% กลุ่มอสังหา (CPN) แรงหนุนการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลจับจ่าย กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มชิ้นส่วน (CCET, DELTA) ประเมินถูกสลับขายทำกำไรย้ายกลุ่มลงทุนต่อเนื่อง กลุ่มการแพทย์ (BDMS, BH) ประเด็นลบ ธุรกิจประกันเสนอสำนักงาน คปภ. กำหนดเกณฑ์ให้มีค่าใช้จ่ายร่วม (Co payment) กรณีผู้เอาประกันเคลมด้วยกลุ่มโรคป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป และมีอัตราการเครมตั้งแต่ 200% ของเบี้ยประกันภัยในปีต่ออายุ คาดว่าจะเริ่มใช้เดือน มี.ค.25

(*/+) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุดไหลเข้า ขายหุ้น -0.64 ล้านเหรียญฯ ซื้อพันธบัตร 2.6 ล้านเหรียญฯ TFEX Net Long 7,723 สัญญา เงินบาทแข็งค่าทรงตัว 34.16+/- บาท

(+) Santa's Rally: เข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2024 เราประเมินองค์ประกอบหลายด้านสนับสนุนมีโอกาสเกิด Santa's Rally ดังเช่น 5 ปีย้อนหลังมักเกิด Santa' Rally ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก 100% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +1.5%นำโดย 1.) ตลาดหุ้นปรับฐานลงมาต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ในโซนลงทุนระยะกลาง-ยาว คือ มี Current Equity Risk Premium 3.93% ขณะที่มี Forward Equity Premium ที่ 4.64% vs ระดับค่าเฉลี่ย AVG + 1 S.D. ที่ 4.05% ซึ่งมักเป็นจุดกลับตัวของตลาดกรณีไม่มีภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ 2.) คาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศ กองทุน ThaiESG น่าจะเร่งขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ทั้งนี้ ล่าสุดเริ่มเห็นนักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อหุ้น 4 วันต่อเนื่อง ขณะที่อิงสถิติช่วง 5 ปีย้อนหลัง เราพบว่า ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี (23-30 ธ.ค.) นักลงทุนสถาบันมักเป็นกลุ่มที่เร่งซื้อ (ยกเว้นปี 2021 ที่มีประเด็น COVID สายพันธุ์โอมิครอนที่ซื้อสลับขาย) 3.) เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว คาด GDP งวด 4Q24 ขึ้นทำจุดสูงสุดของปี 2024 +4.0% หนุนทั้งปีเติบโต 2.7% และเติบโตต่อเนื่องอีก 2.9% ในปี 2025F

(+) TH Export: ยอดส่งออก - นำเข้า พ.ย. 24 ออกมาขยายตัว +8.2%y-y (ดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อย) และ +0.9%y-y (ใกล้เคียงคาด) vs prev. 14.6%y-y และ +15.9%y-y โดยมีจุดน่าสนใจ ดังนี้

- ดุลการค้า -224.4 ล้านเหรียญฯ (ดีกว่าคาด) vs prev. -790 ล้านเหรียญฯ • KSS คิดว่าดุลการค้าที่ขาดดุลน้อยลงมาก จะหนุนให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานดุลบัญชีเดินสะพัด เกินดุลสูงขึ้นในเดือน พ.ย. (รายงานวันที่ 27 ธ.ค.) ที่ โดยน่าจะเกินดุลมากกว่า USD1bn ( ต.ค.: +USD0.7bn) ซึ่งจะเป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

- ยอดสินค้าที่ส่งออกดี ได้แก่

ไก่สด แช่เย็น แช่เย็น ขยายตัว 2 เดือน +12%y-y (11M24 +5.6%y-y) บวกต่อ CPF GFPT

ยอดส่งออกน้ำมะพร้าวทั่วโลกเดือน พ.ย. +44%y-y (11M24 +43%y-y) บวกต่อ MALEE COCOCO

อาหารสัตว์เลี้ยง +18.1%y-y(11M2024 +24.3 %) ขยายตัว 14เดือนติด บวกต่อ AAI, ITC

ยางพารา +14%y-y(11M2024 +35.8%) ขยายตัว 13 เดือนติด เป็นจิตวิทยาบวกต่อ STA, NER

อาหารทะเลกระป๋อง +3.3%y-y(11M2024 +10.3%) ขยายตัว 5 เดือนติด บวกต่อ TU

เชิงกลยุทธ์ เน้นลงทุนหุ้นอิงกลุ่มสินค้าที่ยอดส่งออกเร่งขึ้น ไก่ CPF, GFPT น้ำมะพร้าว MALEE

(*/+) TH Budget Disbursement: ยอดเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐฯ ณ 20 ธ.ค. 24 อยู่ที่ 12.1% ของงบประมาณ เร่งขึ้นรายสัปดาห์มากสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่เพิ่มอย่างมีนัยฯ จากช่วงใกล้เคียงปีก่อน โดยล่าสุดที่เรามีข้อมูล 22 ธ.ค. 23 เบิกจ่ายเพียง 7.16% มองบวกแนวโน้มแรงขับเคลื่อนการใช้จ่าย+ลงทุนรัฐฯต่อ GDP งวด 4Q24 เด่น ประเมินบวกต่อหุ้นธนาคารที่เชื่อมโยงโครงการลงทุนรัฐฯ KTB และหุ้นรับเหมา CK, PYLON

(*/-) Excise Tax on Salty Food: อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการจัดเก็บภาษีจากความเค็ม (ภาษีโซเดียม) ซึ่งเบื้องต้นจะพิจารณาจัดเก็บภาษีความเค็มจากสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวก่อน เพราะถือเป็นสินค้าในกลุ่มที่ไม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยอาจเป็นการจัดเก็บภาษีในอัตราขั้นบันได เช่นเดียวกับภาษีความหวาน ที่ได้มีผลบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคาดว่าจะน่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2025 โดยรวมประเมินจิตวิทยาลบหุ้นที่ขายสินค้าดังกล่าว อาทิ SNNP, CHAO, TKN

(*/-) Utilities: "บอร์ด กพช." มีมติชะลอรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 ตามแผนการเพิ่มการผลิตสำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ เพื่อรอตรวจสอบความถูกต้อง ประเมินจิตวิทยาลบหุ้นที่ชนะประมูลรอบแรกสูงๆ อาทิ GUNKUL RATCH TPIPP EGCO

(*)High-Speed Rail Linked 3 Airport Project: จากกรณีโครงการรถไฟ 3 สนามบินล่าช้าจากปัญหา COVID และล่าสุด คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบการแก้ไขสัญญา 5 ประเด็น ปัจจุบันร่างการแก้ไขสัญญาอยู่ระหว่างส่งเรื่องให้กฤษฏีกาตรวจสอบ หลังจากนี้ คาดส่งให้ ครม. พิจารณาภายใน ม.ค. 25 แต่ถ้าเจรจาเอกชนไม่ลงตัว และคาดจะหาแนวทางเดินหน้าโครงการในรูปแบบอื่น เราแนะนำติดตามความคืบหน้าโครงการดังกล่าวต่อเนื่อง เพราะถือในหนึ่งในโครงการ Mega Projects ขนาดใหญ่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในระยะถัดไป

 

 

Daily Strategy : ADVANC, AOT, MALEE เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทยวันนี้ "Sideways/Up" ประเมินตลาดหุ้นวันนี้แกว่งขึ้นได้ต่อ ประเมินปัจจัยภายในที่คาดจะเห็นรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวกต่อเนื่อง 7 เดือนติดเป็นแรงหนุน ขณะที่สัญญาณเม็ดเงินหนุนตลาดยังเป็นไปในทางบวก ทำให้มองหุ้นนำ 1.) หุ้นที่เป็นเป้าหมายเม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศที่มีแรงหนุนปลายปี ทั้งจากมาตรการรัฐ+ท่องเที่ยวคึกคัก+เงินบาทแข็งค่า 2.) หุ้นเข้า SET50 และ 3.) หุ้นส่งออกที่ยอด พ.ย. 24 y-y เร่งขึ้น อาทิ ไก่ น้ำมะพร้าว

หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักจากกองทุนวายุภักษ์
กลุ่มที่ 1 หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024 – 2025 ได้แก่ AOT, KTB, PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์น้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรทติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2024-25 เกณฑ์ดี CPALL CPAXT BDMS CRC HMPRO IVL MTC BJC WHA

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, CPF, SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, BJC)
• DEC24 Best Picks : ADVANC, BJC, BTS, GULF, AOT, IVL, MALEE

• 2025F Stock Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

Tactical & Investment Idea

 

Research Highlight

 

KSS Strategist Comment: SET UPDATE ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวจากแนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1360-65 จุด สอดคล้องมุมมองเราประเมินความผันผวนอยู่ในช่วงปลายแล้ว อิงระดับ Current Equity Risk Premium ใกล้ AVG + 1S.D. เชิงกลยุทธ์ แนะนำให้เริ่มทยอยสะสมรอการฟื้นตัวรอบใหม่ ส่วนระยะสั้นหากเน้นเก็งกำไรเราประเมินสัปดาห์หน้า SET มีโอกาสฟื้นตัว จากแรงหนุน

1.) ครม. เตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Easy E-Receipt และ Digital Wallet เฟส 2 ลุ้นเปิด Upside ของ GDP ปี 2025F

2.) อิงสถิติ 5 ปีย้อนหลัง มักเกิด Santa' Rally ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก 100% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +1.5% โดยรอบนี้เรามองมีโอกาสเกิดเช่นกัน จากตลาดที่อยู่ในโซนลงทุน และคาดเม็ดเงินลงทุนภายในลดหย่อนภาษีระยะกลาง-ยาวจะเร่งขึ้นส่งท้ายปี

3.) Current Equity Risk Premium อยู่ที่ 4.0% +/- ใกล้ AVG + 1S.D. ที่เป็นจุดกลับตัวในภาวะปกติ สอดคล้องสัญญาณ Fund Inflows เริ่มกลับมาเป็นบวก วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย ขณะที่วันนี้ซื้อพันธบัตรต่ออีก 1.89 พันล้านบาท

Strategy: เราคงมุมมองตลาดหุ้นปัจจุบันประเมินความผันผวนช่วงปลายแล้ว และปัจจุบันอยู่ใน Value Zone (1345-1370 จุด) เชิงกลยุทธ์แนะนำเริ่มทยอยสะสมหุ้นเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว ส่วนการลงทุนระยะสั้น เราประเมิน SET มีโอกาสฟื้นตัวจากปัจจัยบวกที่รอในสัปดาห์หน้า โดยเน้นหุ้นในธีม Domestic

o กลุ่มธนาคาร KBANK, KTB,

o กลุ่ม ICT ADVANC, TRUE

o กลุ่มขนส่ง BTS,

o กลุ่มค้าปลีก BJC, CPALL, HMPRO, CRC

o กลุ่มท่องเที่ยว AWC

o กลุ่มปิโตรเคมี IVL

• SET50/100 Rebalance Update: ตลาดประกาศผลการ Rebalance ดัชนี SET50/100 รอบ 1H25 คาดการ Rebalance มีผลเริ่มใช้ 1 ม.ค. 2025

• หุ้นที่เข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BANPU SAWAD COM7 และ CCET

• หุ้นที่หลุดออกจาก SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ CENTEL BCP TIDLOR และ EA

• หุ้นที่เข้า SET100 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ JTS, CCET, PR9, COCOCO

• หุ้นที่หลุดออก SET100 รอบนี้ 4 บริษัท คือ MBK, RBF, TIPH, TOA

กลยุทธ์ แนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET50-SET100 เนื่องจากมีความเสี่ยงในการลดน้ำหนักจาก Index Fund ขณะที่แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้เราแนะนำ SAWAD และ BANPU เด่น

• Strategy Update : กองทุนลดหย่อนภาษีเด่นปลายปี 2024 ที่ไม่ควรพลาด

ทีมกลยุทธ์ชวนวางแผนลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF และ TESG โดยอิงจากน้ำหนักการลงทุน KSS Rating ที่ทีมกลยุทธ์ให้ไว้ในบทวิเคราะห์ Cross Asset Strategy ตามตาราง Exhibit 1 เราเลือกการลงทุนสินทรัพย์ประเภท Fixed Income (ทั่วโลก), Equities (ไทย จีน เอเชีย) เป็น Top pick สำหรับการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีในปี 2024 นี้ และกองทุน Top pick ได้แก่ UGIS-SSF/UGISRMF, KFACHINSSF/KFACHINRMF, K-TNZ-ThaiESG, KFTHAIESGA

สำหรับผู้ที่มีเงินได้ในปี 2024 และต้องการลดหย่อนภาษีผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี และต้องการลงทุนระยะยาว สามารถเลือกลงทุนได้ผ่านกองทุนลดหย่อนภาษีในทุกประเภท ทั้ง SSF, RMF และ TESG โดยกองทุน RMF และ SSF สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของรายได้ โดยกองทุนทั้ง 2 ประเภท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนกองทุน TESG สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท รายละเอียดเพิ่มเติมแสดงไว้ใน Exhibit 2

สำหรับผู้มีเงินได้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี และใส่ใจในระยะเวลาถือครอง แนะนำสำรวจช่วงอายุของนักลงทุน โดยสำหรับนักลงทุนที่อายุต่ำกว่า 51 ปี กองทุน TESG

กลยุทธ์ Tax Allowance Fund Strategy:

กองทุน SSF และ RMF (ลดหย่อนได้ประเภทละ 30% แต่ SSF ไม่เกิน 200,000 บาท และรวมกันกับ RMF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ) แนะนำ UGIS-SSF/UGISRMF (GlobalBond), KFACHINSSF/KFACHINRMF (China)

กองทุน TESG (ลดหย่อนได้ 30% หรือสูงสุด 300,000 บาท) แนะนำ KFTHAIESGA และ K-TNZ-ThaiESG

 

• AUTO (Negative): Total car production in Nov surprisingly fell to 117k units (-28% yoy), the lowest number in the past five months. This would make total car production for this year even lower than our conservative expectation of 1.5m units (-18% yoy). Meanwhile, the announcement from Honda and Nissan on merger plan is also the sign for a rough outlook for Japanese auto maker. Maintain our Negative view on auto sector.

 

 

2025F Equity Outlook : Resilient Domestic Escort amid Market Volatility

Stock Best Picks : ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE

Mid-Small Cap Play : INSET, JMT, MALEE, MOSHI

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้