Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

464

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 25 ธ.ค.67 ปิด +6.18 จุด อยู่ที่ 1,400.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,672 ลบ. สถาบันซื้อ 1,169 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 267 ลบ. ต่างชาติขาย 22 ลบ. และรายย่อยขาย 880 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 85 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น EA,BBL,BANPU,PTTEP,TISCO และยอดขายหุ้น CPN,BDMS,CPALL,TOP,BH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 930 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ BTS,SSP,IVL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 7,723 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 13,135 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 87 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวันคริสต์มาส โดยค่ำวันนี้จะเปิดซื้อขายตามปกติ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 วานนี้ปิดทำการในวันคริสต์มาส และเย็นวันนี้ยังปิดทำการต่อเนื่องในวัน Boxing Day

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวันคริสต์มาส และค่ำวันนี้จะเปิดทำการซื้อขายตามปกติ โดยตลาดหุ้นสหรัฐได้ปัจจัยหนุนทางฤดูกาลในช่วง Santa Claus Rally ที่ดัชนีหุ้นสหรัฐมักปรับขึ้นเฉลี่ย +1.3% ในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปี และ 2 วันแรกของปีใหม่ ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาด 223,000 & ครั้งก่อน 220,000 ราย และวันศุกร์ติดตาม S&P/CS ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ ต.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทำการในวันคริสต์มาส และค่ำวันนี้ยังปิดต่อเนื่องในวัน Boxing Day โดยนักลงทุนรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของ ปธ.ทรัมป์ ที่กดดันให้ EU ซื้อน้ำมัน & ก๊าซจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อชดเชยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ มิฉะนั้นอาจถูกสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกสเปน พ.ย.                       
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.01% หลัง ธ.กลางจีนประกาศคงดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ 2% ตามคาดการณ์ หลัง ก.ย. ได้ปรับลดลง 0.30% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และได้อัดฉีดเม็ดเงิน 1.92 แสน ล.หยวน ผ่าน Reverse Repo 7 วันที่ดอกเบี้ย 1.5% ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +0.24% ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มยานยนต์ ขณะที่ถ้อยแถลง ปธ.BOJ นายอุเอดะชี้เงินเฟ้อญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายที่ 2% ในปีหน้า ส่งผลให้ BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ด้านข้อมูลเศรษฐกิจวันศุกร์ ติตตาม Tokyo Core CPI ธ.ค. คาด 2.5% & พ.ย. 2.2% YoY และกำไรภาคอุต ฯ จีน พ.ย.   
  • SET วานนี้ +0.44% ปริมาณการซื้อขาย 2.86 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,169 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 267 ลบ. ต่างชาติขาย 22 ลบ. และรายย่อยขาย 880 ลบ. ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น เกษตร, อาหาร หลัง ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกไทย พ.ย. +8.2% ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ 7 – 9 % โดยสินค้าเกษตร +4.1% , สินค้าอุตฯเกษตร +7.7% และสินค้าอุต ฯ +9.5% ส่งผลให้ 11 เดือนปี 67 ส่งออกไทย +5.1% YoY ขณะที่ปีหน้าคาดส่งออกไทยจะขยายตัว 2 – 3% ภายใต้แรงกดดันจาก ม.กีดกันการค้าของสหรัฐ ขณะที่กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ท่องเที่ยว ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสุดสูงที่ 400 บาท/วัน , ม.แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กับผู้สูงอายุ และ ม.Easy E-Receipt ซึ่งกระทรวงการคลังคาดจะเพิ่มเม็ดเงินราว 1.4 – 1.5 แสน ลบ. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง Q1/68 ภาวะการซื้อขายในช่วงท้ายปี คาดดัชนีจะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนประหยัดภาษี กอปรกับการทำ Window Dressing หลังราคาหุ้น Big Cap. หลายตัวยังอยู่ในโซนต่ำ   

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 แนวต้าน 1,405 – 1,410 คาดดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่ม Domestic Play และท่องเทียวจาก ม.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, Easy E-Receipt และ ม.แจกเงินสดเฟส 2 แนะนำซื้อเก็งกำไร BJC,HMPRO,SYNEX,JMART,CBG,OSP,AWC,CPN,MBK คาดได้ประโยชน์จาก Easy E-Receipt / กลุ่มคาดมีโอกาสทำ Window Dressing เช่น SCC, SCGP, PTTGC, BANPU, BCPG, BBGI, LH, AP, JMT
  • COCOCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.80 บาท) แนวโน้ม 4Q67 มีปัจจัยกดดันจากฤดูกาลประกอบกับต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งยอดขายและกำไรอาจชะลอตัว QoQ อย่างไรก็ตาม YoY รายได้ยังคงเติบโตสอดคล้องกับตัวเลขยอดส่งออกน้ำมะพร้าวของไทย QTD ที่ยังเติบโตแบบ YoY โดยบริษัทยังคงได้รับคำสั่งซื้อต่อเนื่องจากลูกค้ารายเดิม ขณะที่คำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ทั้งสหรัฐและจีนทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อาจจะต้องรอดูในช่วง 1Q68 ที่กำไรน่าจะกลับมาโต QoQ, YoY ได้ ส่วนภาพรวมปี 68 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ค่อนข้าง aggressive มาก หนุนจากคำสั่งซื้อจากประเทศจีน-สหรัฐ ผลของการออกสินค้าใหม่กลุ่ม PET รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับจ้างผลิตและส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงในช่วง 2H68 เบื้องต้นตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 ที่ 835 ล้านบาท +55%YoY และ 1,115 ล้านบาท +34%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.23 บาท) ผลการดำเนินงาน 3Q67 ขาดทุนลดลง QoQ ส่วนภาพ YoY มีแรงกดดันจาก SG&A ที่สูงขึ้น(โฆษณา/โปรโมชั่น) และ Equity Income ที่ขาดทุนสูงขึ้นจากโรงแรม SO/Maldives(ซึ่งพึ่งเปิด พ.ย.66) อย่างไรก็ตาม คาดว่า 4Q67 SHR จะสามารถกลับมามีกำไรได้ QoQ ตาม High Season ธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ ได้แรงหนุนจาก 1.จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1ต.ค.-15ธ.ค.67 ที่ +17%YoY และ 2.จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ 1ต.ค.-24 ธ.ค.67 ที่ +7%YoY ทั้งนี้ตลาดคาด Profit ปี67 และ68 ของ SHR* ที่ 152 ลบ.(+90%YoY) และ 349 ลบ.(+130%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) เช้านี้ WTI ก.พ. +$0.24 อยู่ที่ $70.34 / บาร์เรล, Brent ก.พ.+$0.17 อยู่ที่ $73.39/บาร์เรล ค่ำวันนี้ API จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

Gold Update(+) เช้านี้ Comex Gold ก.พ.+$4.4 อยู่ที่ $2,639 /ออนซ์ โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย  

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -0.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -0.64 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นอินโด & ฟิลิปปินส์หยุดในวันคริสต์มาส

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.597 %

(0) ดัชนี BDI วานนี้ปิดทำการ

(+) BitCoinเช้านี้ +0.51% อยู่ที่ 98,942 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

27 ธ.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

23 ธ.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ธ.ค.)

24 ธ.ค.     US ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.)

26 ธ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

     

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

          

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้