Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

404


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ไปทดสอบ 1400
เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว


Market Strategy
SET Index คาด Sideway Up ตามกรอบ 1390-1410 จุด สภาพแวดล้อมต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ น้ำมัน ตามภาวะ Santa Rally ด้านปัจจัยภายในประเทศมี Sentiment บวกจากการประชุม ครม. ที่มีการอนุมัติโครงการที่เกี่ยวข้องกับภาคบริโภคและภาคการลงทุนของรัฐฯ ขณะที่ Fund Flow จากกองทุน TESG ช่วงท้ายยังเชื่อว่ายังมีอีก ประเด็นติดตามบ่ายนี้การรายงานส่งออกไทยเดือน พ.ย. สำหรับหุ้น Top Pick วันนี้เลือก CK และ STA
สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกยังอยู่ในโหมดปรับขึ้น นำโดย ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดบวกในช่วง 0.9 ถึง 1.4% ขณะที่ฝั่งจีนวานนี้ปรับขึ้น 1.3% หลังจากมีรายงานรัฐบาลจีนเตรียมออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 3ล้านล้านหยวน (คิดเป็น 2.4%ของ GDP ปี 66) โดยเน้นกระตุ้นภาคบริโภค สภาพแวดล้อมดังกล่าวยังน่าจะเป็นบวกต่อทิศทาง SET Index สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Sentiment ของมาตรการกระตุ้นของจีน คือ กลุ่มปิโตรฯ IVL กลุ่มยาง STA และกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP เป็นต้น

การประชุม ครม. วานนี้ให้ความสนใจไปที่ 3 โครงการที่ผ่านมาการเห็นชอบ 1) Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยรายละเอียดที่แตกต่างจากการนำเสนอช่วงต้นสัปดาห์ คือ รายการที่เกี่ยวกับค่าที่พักโรงแรมจะไม่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนได้ ทำให้ประโยชน์จะจำกัดวงในกลุ่มค้าปลีก เน้นสินค้าที่มูลค่าต่อบิลสูง เช่น HMPRO และ COM7 2) โครงการแจกเงินสดผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท 4 ล้านคน ที่จะจ่ายภายใน 29 ม.ค. 68 มองเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มค้าปลีกเน้นที่สินค้าจับจ่าย ในชีวิตประจำวัน อย่าง CPALL CPAXT BJC และกลุ่ม ไฟแนนซ์ MTC และ 3) โครงการมอเตอร์เวย์ (M5) รังสิต-บางปะอิน มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ในเดือนนี้ผ่านการเห็นชอบของรัฐบาล เราประเมินว่าในระยะถัดไปโครงการลงทุนต่างๆจะเร่งผลักดันออกมาเพื่อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจปีต่อๆไป จึงมองบวกต่อ CK

สำหรับประเด็นที่ติดตามในวันนี้อยู่ที่การรายงานยอดส่งออก/นำเข้าเดือน พ.ย. ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดส่งออกขยายตัว 9%YoY นำเข้าขยายตัว 1.3%YoY

 

Market Summary
SET Index ฟื้นต่ออีก 7.8 จุด หรือ 0.6% แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มค้าปลีก CPALL +2.3% CPAXT 3.7% คาดหวังต่อผลการประชุมกับ AIMC และหุ้นในกลุ่มอื่นๆ BJC +2.2% HMPRO +2.1% GLOBAL +1.4% จากรัฐบาลไฟเขียวโครงการ Easy E-Receipt กลุ่มโรงกลั่น TOP +8.8% หลังปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า ส่วนกลุ่มที่ปรับลงหลักๆ มาจากแรงขายทำกำไร เช่น ICT จาก TRUE -2.7% และกลุ่มอิเล็คฯ CCET -5.6%

 

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CK STA

STA
เก็งกำไร
เรามองระยะสั้นแรงได้ Sentiment บวกจาก 2 ปัจจัย 1) จีนเห็นชอบการออกพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 3 ล้านล้านหยวน เพื่อสนับสนุนต่อภาคบริโภคดี ซึ่งจะดีต่อการส่งออกยางพาราและ STA เพราะส่งออกไปยังจีนคิดเป็นสัดส่วนหลักราวๆ 50% และ 2) เก็งการรายงานยอดส่งออกไทยเดือน พ.ย.ในวันนี้ หากอิงรอบก่อนสินค้าที่ยางพาราและถุงมือยางที่ขยายตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY ทั้งคู่
แนวโน้มกำไรหลัก 2568 อิง Bloomberg Consensus คาดขยายตัว 24% หนุนจากปริมาณการขายยางธรรมชาติ ถุงมือยางรวมถึงราคาที่ปรับขึ้น ด้านแนวโน้มกำไร 4Q67 ยังมีโอกาสขยายตัว QoQ และ YoY จากการเติบโตของทั้งธุรกิจยางพาราและธุรกิจถุงมือยางที่ฟื้นตัว
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER67/68 ที่ 13.7 และ 11 เท่า พร้อมมีอัตราการจ่ายปันผลสูงที่ 4.5-5% ในปี 67/68
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.80 บาท

 

CK
ถึงฐานแนวรับ
คาดกำไรปี 2567/68/69E จะเติบโตโดดเด่น 30% / 15% / 24% YoY โดยเฉพาะปี 69 กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 2,711 ล้านบาท
CK ได้รับผลประเมิน SET ESG Rating ปีนี้ที่ระดับ AA มากกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ A จึงมีโอกาสได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุน TESG นอกจากนี้ความชัดเจนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 2.9% คาดกระทบต่อกำไร68 ราว 1.1% ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบการปลดล็อคความกังวลเรื่อง Policy Risk นอกจากนี้ Downside เชื่อว่าจะถูกจำกัดจากมีโครงการซื้อหุ้นคืนจนถึง 1 มิ.ย.68
เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการรัฐบาลที่อนุมัติโครงการลงทุนภาครัฐฯ ซึ่งวานนี้ ครม.อนุมัติโครงการมอร์เตอร์เวย์รังสิต-บางปะอิน วงเงิน 7.9 หมื่นล้านบาท เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ และ CK ซึ่งปัจุบันมี Backlog สูง 2.2 แสนล้านบาท เตรียมรองรับรายได้ในอนาคต
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27.50 บาท

 

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นต่างประเทศ นำโดย สหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงเอเชียบางส่วน เข้าสู่ช่วงวันหยุดคริสต์มาส น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งในระยะสั้นหากประเมินจากทิศทางค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าทำจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์แตะระดับ 34.0 บาท/ดอลลาร์ สะท้อนความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นที่ทยอยออกมาในช่วงโค้งสุดท้าย รวมถึงแรงกดดันจากปัจจัยลบต่างๆก็ผ่อนคลายลง
ในวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขส่งออก เดือน พ.ย. ซึ่ง Consensus คาดว่าจะขยายตัวได้เด่นต่อเนื่อง +9.0% YoY (คาดการณ์ในช่วง 5% ถึง 14.5%) ถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้โมเมนตัมตลาดหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปียังดีต่อเนื่อง

 

EYES ON
25 ธ.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรปออสเตรเลีย และ เอเชียบางส่วน (ฮ่องกง เกาหลีฯ อินเดีย อินโดฯ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์) ปิดทำกาในวันคริสมาสต์, ตัวเลขส่งออกไทย เดือน พ.ย.
26 ธ.ค. ตลาดหุ้นบางส่วนปิดทำการต่อเนื่อง (ออสเตรเลีย ยุโรป อินโดฯ)
27 ธ.ค. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีน


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้