Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองวันนี้ SET "ชะลอตัวลดความร้อนแรงระยะสั้น"

425

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(25 ธันวาคม 2567)--บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX Securities Co., Ltd.) ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เปิดเผยว่า SET ขึ้นมาเคลื่อนไหวใกล้บริเวณแนวต้าน 1400 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ Overbought รวมถึงเทศกาลคริสมาสต์ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ปิดทำการ ทำให้คาดมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ส่งผลให้ในระยะสั้น ดัชนีจะมีกรอบบนจำกัดบริเวณ 1400 จุด และชะลอตัวลดความร้อนแรงก่อน ด้านแนวรับอยู่ที่ 1385 และ 1375 จุด ตามลำดับ

 

ประเด็นสำคัญ
• AIMC มีมติให้กองทุนรวม ThaiESG และกองทุนรวมธรรมาภิบาล (Thai CG Fund) ลงทุนหุ้น CPAXT อย่างระมัดระวัง จนกว่า ก.ล.ต. จะมีความชัดเจนจากข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน The Happitat
• ครม. มีมติเห็นชอบกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2568 ที่ระดับ 1-3% ซึ่งเป็นระดับเดิม พร้อมให้กระทรวงการคลัง และ ธปท. ร่วมมือประคับประคองเศรษฐกิจ เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อมุ่งสู่ค่ากลางที่ระดับ 2%
• ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้น ศก. ทั้งแจกเงินหมื่นเฟสสองแก่ผู้สูงอายุภายใน ม.ค. 68 และมาตรการ Easy e-Receipt 2.0 ในช่วงวันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 (ไม่รวมค่าบริการที่พักในโรงแรม) มองจะช่วยหนุนการบริโภคและการท่องเที่ยวต่อเนื่องถึง 1Q68
• ครม. รับทราบการตอบรับคำเชิญเข้าเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไทยในด้านการค้าและการลงทุน การเงิน ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน
• ครม. เห็นชอบกรอบการคลังระยะปานกลาง ทยอยลดสัดส่วนการขาดดุลงบฯ ต่อ GDP จาก 4.3% เหลือ 3.1% และรับคำสั่งนายกฯ เพิ่มประสิทธิภาพเก็บภาษี, ลดรายจ่ายและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป พ.ย. ที่ 89,646 คัน ลดลง 10%YoY ทำให้ยอดส่งออก 11M67 เป็น 942,867 คัน ลดลง 8.2%YoY ส่วนยอดขายรถในประเทศ พ.ย. ที่ 42,309 คัน ลดลง 31.3%YoY ส่งผลให้ 11M67 เป็น 518,659 คัน ลดลง 26.7%YoY
• Reuters รายงานทางการจีนอนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 ล้านล้านหยวนในปี 2568 เพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภค และลงทุนส่งเสริมอุตสาหกรรมล้ำสมัย

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยมีแนวรับที่บริเวณ 1360 จุด ทั้งนี้มอง SET หลุด 1400 จุดแย่กว่าตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากความกังวลเรื่อง ESG ของหุ้นขนาดใหญ่ และ Fund Flow ยังมีทิศทางไหลออกหลังเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยช้าลง ทำให้ช่วงสั้นSET ลุ้นปรับขึ้นได้เพียงแค่ปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้าจากการเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการซื้อกองทุนประหยัดภาษีที่มักจะเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นเฟส 2, การนำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิต ธ.ค. จีนและสหรัฐฯ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ-ต้าน
1385/1375 – 1400/1410


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดย Upside ขึ้นกับปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้าจากการเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการซื้อกองทุนประหยัดภาษี และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 3 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐออกมาตรการเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งในอดีตราคาหุ้นมักปรับตัวได้ดีอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO)
2. หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก GULF OSP AMATA AU TIDLOR BCP
3. Trading Idea : 1) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี ได้แก่ BBL GPSC AWC BEM CBG 2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดจะเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ในช่วงสิ้นปีนี้ โดยมีสถิติในอดีตมักมีการปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงปลายปีอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี แนะนำ BCP GPSC BDMS OSP และ 3) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แนะนำ IVL PTTGC


Daily top picks
GPSC: มองราคาหุ้นปรับลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมารับรู้ประเด็นลบไปมากแล้ว ขณะที่เห็นปัจจัยหนุน ได้แก่ 1) การเพิ่มกำลังการผลิต โดยเฉพาะ AVAADA 2) ผลบวกจากการได้รับการคัดเลือกจาก ERC ในโครงการพลังงานทดแทนระยะที่ 2 รอบแรก 3) ไม่มีผลกระทบจากการบังคับใช้ภาษีขั้นต่ำสากล และ 4) ผลกระทบจำกัดจากความล่าช้าของโครงการ CFP

BDMS: ช่วงสั้นมองมีโอกาสเป็นหุ้นที่เป็นเป้าหมายทำ Window Dressing ในช่วงสิ้นปีนี้ หลังราคาหุ้นปรับลง 11.4%YTD และ 18.7%QTD ขณะที่ 4Q67 คาดกำไรปกติจะเติบโตต่อเนื่อง YoY และทรงตัว QoQ จากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น หนุนให้ปี 2567 กำไรปกติเติบโต 12.6%YoY สู่ระดับ 1.6 หมื่นลบ.

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้