Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

460

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 24 ธ.ค.67 ปิด +7.76 จุด อยู่ที่ 1,394.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,447 ลบ. สถาบันซื้อ 1,611 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 395 ลบ. รายย่อยขาย 24 ลบ. และต่างชาติขาย 1,193 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,015 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น SCC,GULF,TOP,CPALL,BANPU และยอดขายหุ้น CCET,DELTA,TRUE,CPN,BDMS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,129 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,PRM,KBANK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,746 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 20,858 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 665 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.91%, S&P500 +1.10%, Nasdaq +1.35% นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +2.6%, การเงิน +1.2% และหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven ปรับขึ้น ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.32% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ +0.6%, พลังงาน +0.4% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ   

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้ปัจจัยหนุนในช่วง Santa Claus Rally ที่ดัชนีหุ้นสหรัฐมักปรับขึ้นเฉลี่ย +1.3% ในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปี และ 2 วันแรกของปีใหม่ นำโดยกลุ่ม Magnificent Seven เช่น Tesla +7.4% แม้ว่า US Bond Yield 10 ปี จะปรับขึ้นอยู่ที่ 4.61% สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ค. ที่ผ่านมา จากความกังวลเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ GDPNow คาด US GDP Q4/67 มีโอกาสขยายตัว +3.1% & Q3/67 +2.8% QoQ ขณะที่ค่ำวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันคริสต์มาส โดยสัปดาห์นี้รอข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ S&P/CS ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ ต.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ , พลังงาน โดยนักลงทุนรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของ ปธ.ทรัมป์ ที่กดดันให้ EU ซื้อน้ำมัน & ก๊าซจากสหรัฐมากขึ้น เพื่อชดเชยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ มิฉะนั้นอาจถูกสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการในวันพุธ – พฤหัส ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส                      
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.26% หลังจีนเผยเตรียมออกพันธบัตรพิเศษมูลค่า 3 ลล.หยวนในปีหน้า เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดจะได้รับผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ ส่วนดัชนีนิเกอิ -0.32% หลัง BOJ Minutes เผยที่คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0.25% เนื่องจากความกังวลนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากเกินไป เป็นประเด็นที่ BOJ เฝ้าระวัง วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการ เช่น สิงค์โปร์, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์   
  • SET วานนี้ +0.56% ปริมาณการซื้อขาย 3.0 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,611 ลบ. ต่างชาติขาย 1,193 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 395 ลบ. และรายย่อยขาย 24 ลบ. โดยตลาดหุ้นไทยก็ปรับขึ้นตามดัชนีภูมิภาคเอเชีย ที่ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐในช่วง Santa Rally ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นคืน ในกลุ่มค้าปลีก, ปิโตรเคมี ที่ค่อนข้าง Underperform เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ จากสาเหตุเฉพาะกลุ่ม เช่น CPAXT ในกรณีการลงทุนโครงการ Happitat และ TOP ที่ปรับลดลงจากความล่าช้าในโครงการ CFP ขณะที่ปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีวานนี้ คือ ผลการประชุม ครม.ที่มีการอนุมัติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสุดสูงที่ 400 บาท/วัน รวมถึงการอนุมัติ ม.แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กับผู้สูงอายุ และ ม.Easy E-Receipt ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการมาหักหย่อนภาษีได้ในช่วง 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 68 ซึ่งกระทรวงการคลังคาดจะเพิ่มเม็ดเงินราว 1.4 – 1.5 แสน ลบ. เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง Q1/68 ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออกไทย พ.ย. คาด +9.0% & ต.ค. +14.6% YoY    

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 แนวต้าน 1,400 – 1,405 คาดดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่ม Domestic Play และท่องเทียวจาก ม.ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, Easy E-Receipt และ ม.แจกเงินสดเฟส 2 แนะนำซื้อเก็งกำไร CRC,HMPRO,COM7,SYNEX,OSP,AWC,CPN,MBK คาดได้ประโยชน์จาก Easy E-Receipt / กลุ่มคาดมีโอกาสทำ Window Dressing เช่น SCC, SCGP, PTTGC, BANPU, BCPG, LH, AP, QH
  • HMPRO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.20 บาท) คาดกำไรน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q67 ที่เจอทั้งกำลังซื้อที่หดตัว ฤดูฝน แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 ฟื้นตัว QoQ, YoY ได้มีหนุนจากการแจกเงินสดของรัฐบาลและเป็นช่วง high season ของการจับจ่ายใช้สอย และการซ่อมแซมบ้านหลังเหตุการณ์น้ำท่วม ด้าน SSSG คาดทยอยฟื้นตัวขึ้นกลับมาเป็นบวก GPM มีแนวโน้มดีขึ้นจากการขายสินค้า Private brand และใน 4Q67 มีแผนเป็นโฮมโปร และเมก้าโฮม รวมกันราว 4 สาขา ทำให้ทั้งปี 67 ตลาดคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 6 พันล้านบาท +2%YoY ส่วนในปี 68 คาดกำไรเติบโตเป็น 7.1 พันล้านบาท +9%YoY ตามแผนขยายสาขาอีก 6-8 สาขา และมีโมเมนตัมบวกช่วงต้นปีจากมาตรการ easy e-receipt
  • ITC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 28.70 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 976 ลบ. -3%QoQ, +52%YoY ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจาก GPM ที่อยู่ในระดับสูง จาก สัดส่วนสินค้า Premium ที่สูง, การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง, และ ต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงาน 4Q67 คาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อ มูลค่าการส่งออกของไทย ต.ค. 67 อาหารสุนัขและแมว +6%YoY นอกจากนี้ ITC จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อใน 3Q67 บางส่วนส่งไม่ทันมารับรู้รายได้ใน 4Q67 แทน ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ระดับ 3,783 ลบ.(+66%YoY) และ 4,165 ลบ.(+10%YoY)

 

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.พ. +$0.86 อยู่ที่ $70.10 / บาร์เรล, Brent ก.พ.+$0.95 อยู่ที่ $73.58/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากข่าวจีนเตรียมออกพันธบัตรมูลค่า 3 ลล.หยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลบวกต่ออุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.2 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+)Comex Gold ก.พ.+$7.30 อยู่ที่ $2,635.50 /ออนซ์ โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย  

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -49.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -34.94 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -14.26 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.591 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +3 จุด อยู่ที่ 997

(+) BitCoinเช้านี้ +3.83% อยู่ที่ 98,220 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

27 ธ.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

23 ธ.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ธ.ค.)

24 ธ.ค.     US ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.)

26 ธ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

               

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้