AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ฟื้นตัว
เลือกหุ้นกำไรปี 68 เติบโตและมีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น
Market Strategy
SET Index คาดฟื้นตัวตามกรอบ 1380-1395 จุด จากทิศทาง Fund Flow ที่มีสัญญาณบวกผสานกับความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ชัดเจน ช่วยลดความความเสี่ยงด้าน Policy Risk ส่วนผลกระทบต่อกำไรตลาดมีไม่มาก วันนี้เลือก AAV CRC
การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างวานนี้มีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศในช่วง 337-400 บาทหรือเฉลี่ย 355 บาท เพิ่มขึ้นจากรอบก่อน 2.9% ซึ่งกระบวนการถัดไปเตรียมเสนอ ครม. เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลวันที่ 1 ม.ค. 68 เรามองเป็นปัจจัยช่วยลดความกังวลต่อ Policy Risk (จากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ) ด้านผลต่อกำไรบริษัทฯปี 68 บนสมมติฐานการปรับขึ้นค่าแรงเฉลี่ย 2.9% จะกระทบกำไรเป็นบางกลุ่มในช่วง -0.1% ถึง -1.7% (ไม่มาก)ประกอบด้วย กลุ่มรับเหมาฯ -1.7% กลุ่มอาหาร -0.9% กลุ่มบรรจุภัณฑ์ -0.7% กลุ่ม F&B -0.5% กลุ่มยานยนต์ -0.4% กลุ่มท่องเที่ยว -0.4% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -0.3% กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ -0.1% ทั้งนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจะน้อยกว่าที่เราคาด เนื่องจากหลายบริษัทฯ จ่ายค่าจ้างที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มที่ได้ Sentiment บวก คือ กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่ม ICT ในมุมกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
ด้านทิศทาง Fund Flow นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ 2.25 พันล้านบาท หลังค่าเงิน Dollar ชะลอการแข็งค่า เป็นไปในทางเดียวกับนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 508 ล้านบาท เราคาดว่าแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีน่าจะเป็นบวกได้ต่อ แรงขับเคลื่อนจากนักลงทุนสถาบันซึ่งเราแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสได้แรงหนุนจากกองทุน TESG ช่วงโค้งสุดท้าย ที่ Valuation น่าสนใจ กำไรปีหน้าโตกว่า 10% พร้อมทั้งระดับ SET ESG Rating ระดับ A ขึ้นไป อย่าง CRC CK MINT ICHI และ MTC
ปัจจัยที่ติดตามวันนี้ คือ การประชุม ครม. คาดนำเสนอมาตรการ Easy E-Receipt สำหรับลดหย่อนภาษีในปี 68 และการหารือระหว่างสมาคม บลจ. กับ CPAXT ต่อประเด็นการลงทุนในโครงการ The Happitat
Market Summary
SET Index ดีดตัวแรง 22 จุด หรือ 1.6% กลุ่ม ICT ที่ฟื้นตัวเด่นสุด นำโดย TRUE +5.7% ADVANC +3.7% และ INTUCH +2.4% กลุ่มค้าปลีกจาก CPALL +3.7% และ CPAXT 6.9% กลุ่มโรงไฟฟ้าตาม U.S. Bond Yield ที่ชะลอการขึ้น GPSC +4% BGRIM +4.4% ส่วนกลุ่มหุ้นที่ปรับลงแรง TOP -6.4% จากการเพิ่ม CAPEX และเลื่อน COD โครงการ CFP
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AAV CRC
CRC
มีพัฒนาการที่ดีขึ้นหลายส่วน
คาดว่าผลการดำเนินงานในงวด 4Q67 จะเติบโตได้ต่อจาก 3Q67 ตามการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเฉลิมฉลอง รวมถึงการกลับมาเปิด Central ชิดลม และ Rinascente Milan พร้อมทั้งการขยายสาขา ด้าน SSSG ช่วง ต.ค. – พ.ย. ลบ Low Single Digit ดีขึ้นจาก 3Q67 ที่ -3% โดย SSSG ของไทยเป็นบวกจากกลุ่มแฟชั่น กลุ่มไทวัสดุที่ปรับตัวดีขึ้น
แนวโน้มกำไร 2568 เราคาดขยายตัว 13.5%YoY เด่นกว่ากลุ่มค้าปลีกที่ขยายตัว 10.6%YoY มุม Valuation ถือว่าซื้อขายที่ PER68E ที่ 21.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของ CRC-0.5 S.D
ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากมาตรการ Easy E-Receipt ที่เราเชื่อว่าจะช่วยหนุนต่อกำลังซื้อ 1Q68 และเรามองว่า CRC จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินของกองทุน TESG เนื่องมาจากมี SET ESG Rating ระดับ AA และราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปียังติดลบ 14% สวนทางกำไรปี 67/68 ที่ยังขยายตัว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 40.00 บาท
AAV
เลือกหุ้นผู้นำ
AAV ถือเป็นผู้นำสายการบินตลาดภายในประเทศ และศักยภาพการเติบโตของรายได้จากเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ๆ นอกจากนี้ AAV ยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี (CAGR) ช่วงปี 67-69 โดยในปี 68 คาดกำไรสุทธิ 3.3 พันล้านบาท (+15% YoY) จากรายได้ค่าตั๋วและรายได้เสริมที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้โดยสารและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
ส่วนอัพไซด์เพิ่มเติมอาจเกิดจากการควบรวมกิจการกับ Thai AirAsia XAAX และการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเชื่อมโยงของผู้โดยสาร
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.40 บาท
KEY FACTOR
ตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี โดย ASEAN ซึ่งโดนผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนในช่วงก่อนหน้า ที่ตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยเข้มงวดกว่าเดิม กลับมาบวกในช่วง 0.3% - 1.61% สะท้อนภาวะตลาดที่ผ่อนคลายความกังวลจากดอกเบี้ยสูง สอดคล้องกับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาซื้อในตลาดหุ้นไทย +2.25 พันล้านบาท สูงที่สุดในรอบ 45 วันทำการ
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา 1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน พ.ย. -1.1% แย่กว่าที่ตลาดคาดที่ -0.3% 2) ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. +5.9% MoM แย่กว่าคาดที่ตลาดคาดไว้ที่ +9.7% MoM เช่นกัน
EYES ON
25 ธ.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรปออสเตรเลีย และ เอเชียบางส่วน (ฮ่องกง เกาหลีฯ อินเดีย อินโดฯ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์) ปิดทำการในวันคริสมาสต์, ตัวเลขส่งออกไทย เดือน พ.ย.
26 ธ.ค. ตลาดหุ้นบางส่วนปิดทำการต่อเนื่อง (ออสเตรเลีย ยุโรป อินโดฯ)
27 ธ.ค. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีน
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ