โค้งท้ายของปี หวัง SET ขยับขึ้นบ้าง
สัปดาห์ที่แล้ว เป็นสัปดาห์ที่ SET INDEX ลงแรงสุดของปี -4.65% ด้วยปัจจัยกดดันเข้ามากระจุกตัวพร้อมกัน ความกังวลการเมืองไทยนอกสภาร้อนแรง, FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีหน้าจาก 4 ครั้ง เหลือ 2ครั้ง, และหุ้นใหญ่ที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกดดัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ คาดหวัง SET มีโอกาสรีบาวน์หลังลงมาลึก มี PBV เพียง 1.3 เท่าคาดหวังแรงหนุนจาก EASY E-RECEIPT 5 หมื่นบาทต่อคน และค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้น หลังตัวเลข PCE สหรัฐออกมาต่ำคาด หนุน FUNDFLOW มีโอกาสไหลเข้าสัปดาห์สุดท้ายของปี เหมือนกับ 3 ปีที่ผ่านมาส่วนเม็ดเงินจากกองทุนมีโอกาสไหลเข้าน้อยประเมินราว 3 พันล้านบาทในเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเอนเอียงไปซื้อกองทุน THAI ESG ประเภทตราสารหนี้มากขึ้น ขณะที่เดียวกันยังเห็นการ REDEMPTION จาก
กองทุน LTF สลับมาซื้อ THAI ESG อีกประเมินจากปัจจัยแวดล้อม SET INDEX มีโอกาสเกิด TECHNICALREBOUND คาดกรอบ 1360-1380จุด TOP PICK เลือก ERW, CRCและ ADVANC
ก่อนจบปี 2567 คาดหวังแรง REBOUND จากข่าวบวก
ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแรงซื้อ REBOUND ราว 0.9% - 1.2% ขณะที่BOND YIEDL 10Y สหรัฐฯ ย่อตัวลงสู่ระดับ 4.52% จากความผ่อนคลายในประเด็นดัชนีเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เดือน พ.ย. 67 ขยายตัว +2.4%YOY ซึ่งต่ำกว่าCONSENSUS คาดการณ์ที่ +2.5%YOY
ในมุมมองของตลาดฯ FEDWATCH TOOL คาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น เป็นการประชุมรอบเดือน มี.ค. 68 (จากเดิม พ.ค. 68) ทั้งนี้ หากระยะถัดไปเห็นสัญญาณเงินเฟ้อชะลอตัวลง อาจเป็นแรงหนุนให้ตลาดฯ มีมุมมอง DOVISH มากขึ้นได้นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังคลายความกังวล หลังสหรัฐฯ รอดพ้นภาวะGOVEENMENT SHUTDOWN เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 โดยส.ว.ผ่านร่างงบประมาณด้วยคะแนนเสียง 85 :11 เสียง ต่อชีวิต 3 เดือน และให้ความช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติและเกษตรกรเพิ่มเติม
ส่วนบ้านเรา คาดว่าจะมีแรงผลักจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลเตรียมให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2568 โดยคาดจะมีการนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณา ในวันพรุ่งนี้ หลักๆ ได้แก่
1. มาตรการ EASY E-RECEIPT เริ่มตั้งแต่ 15 ม.ค.-28 ก.พ. 68 วงเงินลดหย่อนภาษี 50,000 บาท แบ่งใช้จ่าย 2 ส่วน คือ 1) สำหรับการใช้จ่ายสินค้า
2.ทั่วไปและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ทัวร์ เช่ารถ โรงแรม และร้านอาหาร กำหนดวงเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท และ 2) สำหรับการใช้จ่ายร้านวิสาหกิจชุมชน SME และร้านค้า OTOP ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 20,000 -50,000 บาท
2. โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 (กลุ่มผู่สูงอายุ ~4 ล้านราย) โดยรัฐบาลจะให้เป็นเงินสดก่อนตรุษจีนปีหน้า (ภายในเดือน ม.ค. 68)
สรุป ปัจจัยภายนอกประเทศที่ผ่อนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ – การเมือง และปัจจัยภายในประเทศคาดหวังแศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยแรงกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้น AOT, ERW, BEM, CRC, BJC,HMPRO เป็นต้น
SET เตรียมขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี จากปัจจัยอะไรบ้าง
ภาพรวม SET INDEX สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลง 4.65%(ถือแรงปรับตัวลงแรงสุดของปีนี้)ซึ่งโดยหลายปัจจัยกดดันทั้ง FED ที่ส่งสัญญาณ HAWKISH มากขึ้น, มวลชนกดดัน ปปช. เร่งสอบทักษิณนอนชั้น 14 และปัจจัยหุ้นรายบริษัททั้ง CPALL-CPAXTTOP เป็นต้น
ซึ่งสัปดาห์นี้ อาจเห็นการรีบาวน์ขึ้นของ SET ได้จากเม็ดเงิน 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่
1.เม็ดเงิน THAIESG ซึ่งในเดือน พ.ย. มีเงินไหลเข้า 2.98 พันล้านบาท แต่เข้าหุ้น 820ล้านบาท(คิดเป็นสัดส่วน 28%) โดยปกติแล้วหากอ้างอิงจากเม็ดเงิน LTF ในอดีต จะพบว่า เม็ดเงินหนุนจากเดือน ธ.ค. จะมากกว่าเดือน พ.ย. ถึง 3.6 เท่า ดังนั้นในเดือนธ.ค.67 มีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินฝั่งสถาบันหนุนราว 3 พันล้านบาท แต่จะถูกหักล้างจากการ REDEMPTION ของกองทุน LTF ราว 1.1 หมื่นล้านบาทในเดือน พ.ย. สลับมาซื้อ THAI ESG อีก
2.เม็ดเงินฝั่งต่างชาติที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา FUND FLOW ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยทุกปีในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ธ.ค. ราว 1 พันล้านบาท – 2 หมื่นล้านบาท
สรุป ฝ่ายวิจัยฯคาดว่าจะเห็น SET ขยับขึ้นได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี มองกรอบแนวต้านแรกระดับ 1375-1380 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ หุ้นปีนี้ลงลึก คาดหวังรีบาวน์ขึ้นมาบ้าง อาทิ
• หุ้นอิงจีน LAGGARD เพื่อน SCC, PTTGC
• หุ้นปันผล AP, SIRI, LH
• หุ้นท่องเที่ยว ERW, CENTEL
• หุ้นบาทแข็ง BGRIM
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์