Market Wrap-Up
- SET วันที่ 19 ธ.ค.67 ปิด -21.42 จุด อยู่ที่ 1,377.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,320 ลบ. สถาบันขาย 1,252 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 743 ลบ. ต่างชาติซื้อ 102 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,893 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 152 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น GULF,HANA,KCE,CPALL,SCC และมียดดขายในหุ้น DELTA,BBL,SCB,KBANK,CRC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,916 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SISB,SAPPE,PTTGC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 5,243 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 24,478 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 12,364 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.04%, S&P500 -0.09%, Nasdaq -0.10% DJIA เริ่มฟื้นตัวจากวันก่อน -2.58% หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า โดยกลุ่มอสังหา ฯ -1.69%, วัสดุ -1.07% และ Micron Tech -16.2% หลังบริษัทคาดการณ์รายได้ & กำไรต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.51% จากแรงขายกลุ่มอสังหาฯ และเทคโนโลยี -2.4% หลังเฟดอาจชะลอดอกเบี้ยในปีหน้า
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA เริ่มฟื้นตัว จากความกังวลเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่ข้อมูล US GDP Q3/67 +3.1% สูงกว่าประมาณการณ์ครั้งที่ 2 ที่ 2.8% QoQ และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 22,000 อยู่ที่ 220,000 ต่ำกว่าคาดที่ 229,000 ราย บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ดังนั้น CME FedWatch ชี้มีโอกาส 91.4% ที่เฟดจะคงดอกเบี่ยในการประชุม 29 ม.ค. 68 ค่ำวันนี้ติดตาม US PCE พ.ย. คาด 2.5% & ต.ค. 2.3% YoY ที่จะบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ และสภาคองเกรสเตรียมลงมติร่างงบประมาณรายจ่ายชั่วคราว หากไม่ผ่านอาจส่งผลให้เกิดภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาล
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ Stoxx600 -1.51% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี, อสังหา ฯ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ Euro Vix Index ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 18.62 สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ผลการประชุม BOE ของอังกฤษมีมติ 6 – 3 คงดอกเบี้ยที่ 4.75% ตามคาดการณ์ หลัง CPI อังกฤษ พ.ย. อยู่ที่ 2.6% & ต.ค. 2.3% YoY ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มาจากเงินเฟ้อจากภาคบริการ พ.ย. ทรงตัวสูงที่ระดับ 5% โดย Consensus คาดมีโอกาส 50% ที่ BOE จะลดดอกเบี้ยใน ก.พ. 68 และคาดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับลดลง จากความกังวลเฟดชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่า และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้น ซึ่งมีผลให้ Fund Flow ต่างชะลอการลงทุนในตลาดเอเชีย ขณะที่ผลการประชุม BOJ วานนี้มีมติ 8 – 1 คงดอกเบี้ยที่ 0.25% เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังการใช้จ่ายภาคธุรกิจชะลอตัว กอปรมีปัญหาเสถียรภาพการเมืองภายในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ CPI ญี่ปุ่น พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.9% & ต.ค. 2.3% YoY และ ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1, 5 ปี ไว้ที่ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ
- ดัขนี SET วานนี้ -1.53 % ปริมาณการซื้อขาย 4.9 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 1,252 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 743 ลบ. ต่างชาติซื้อ 102 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,893 ลบ. หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติมีแนวโน้มชะลอการลงทุนในตลาดอาเซียน โดยกลุ่มไฟแนนท์, โรงไฟฟ้าปรับลดลงจากความกังวลต้นทุนทางการเงินคาดอยู่ในระดับสูง ขณะที่ CPAXT, CPALL ก็ปรับลดลง หลัง Tris Rating ประเมินการเข้าร่วมลงทุนในโครงการ Happitat ของ CPAXT อาจส่งผลลบต่อสถานะการเงินของบริษัท แม้ว่า Tris จะคงอันดันดับความน่าเชื่อของ CPAXT และ CPALL ไว้ที่ AA- โดยภาพรวมดัชนี SET ยังขาดปัจจัยบวก และรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า เช่น ม. E-Receipt ที่ผู้ซื้อสินค้าและบริการสามารถหักค่าลดหย่อนภาษีได้ตามจริง ไม่เกิน 50,000 บาท ที่คาดจะเริ่มใน ม.ค. 68. การอนุมัติ ม.แจกเงินสดผู้สูงอายุ และการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,360 คิดเป็น Forward P/E ที่ 15.5 X ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 16.2 X น่าจะเพียงพอรองรับความผันผวนในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 1,400 แนะนำทยอยบริเวณแนวรับในกลุ่มอุปโภค เช่น BJC,CRC,CBG,OSP,COM7,SYNEX ได้ประโยชน์ ม.แจกเงิน & ม. E-Receipt และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / กลุ่มส่งออก ICT,AAI,COCOCO ได้ปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่า
- SNNP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.50 บาท) แนวโน้มกำไร 4Q67 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ, YoY จากช่วง high season โดยคำสั่งซื้อในเวียดนามที่เป็นปัญหาคาดสามารถเห็นการฟื้นตัว QoQ จากการปรับโครงสร้าง distributor ส่วนการขยายตลาดในฟิลิปปินส์จะทำได้ดีขึ้นในปีหน้าหลังตั้ง distributor ใหม่ 2 ราย ด้าน GPM คาดว่ายังทำได้ดีในระดับเกิน 30% ทั้งนี้ในปี 68 ปัจจัยหนุนจะมาจากคาดการณ์รายได้ในเวียดนามจะกลับมาเติบโต และเพิ่มการขยายตลาดฟิลิปปินส์เข้ามาชดเชย เบื้องต้น consensus คาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 660 ล้านบาท (+4%YoY) และปี 68 ที่ 731 ล้านบาท (+10%YoY) ราคาหุ้นปัจจุบันมี valuation ที่ไม่แพงคิดเป็น forward PER’67/68 ที่ 3 เท่า และ 15.6 เท่า ตามลำดับ ขณะที่ราคาหุ้นมี downside จำกัดจากการประกาศซื้อหุ้นคืน
ITC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 28.70 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 976 ลบ. -3%QoQ, +52%YoY ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจาก GPM ที่อยู่ในระดับสูง จาก สัดส่วนสินค้า Premium ที่สูง, การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง, และ ต้นทุนวัตถุดิบที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงาน 4Q67 คาดจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อ มูลค่าการส่งออกของไทย ต.ค. 67 อาหารสุนัขและแมว +8.6%YoY นอกจากนี้ ITC จะมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อใน 3Q67 บางส่วนส่งไม่ทันมารับรู้รายได้ใน 4Q67 แทน ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITC* จะอยู่ที่ระดับ 3,783 ลบ.(+66%YoY) และ 4,165 ลบ.(+10%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ม.ค. -$0.67 อยู่ที่ $69.91 / บาร์เรล, Brent ก.พ. -$0.51 อยู่ที่ $72.88/บาร์เรล กังวลอุปสงค์น้ำมันจะชะลอตัว หลัง FED และ BOE มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$ -45.20 อยู่ที่ $2,608.10 /ออนซ์ ถูกกดดันหลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่า +0.36% อยู่ที่ 108.409 ซึ่งเป็นลบต่อสัญญาทองคำ
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -71.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +2.96 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -58.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -16.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.55 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -52 จุด อยู่ที่ 976
(-) BitCoinเช้านี้ -3.62% อยู่ที่ 97,148 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
18 ธ.ค. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2567
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
16 ธ.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ธ.ค.)
17 ธ.ค. US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
18 ธ.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (พ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
19 ธ.ค. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
20 ธ.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (พ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th