Market Wrap-Up
- SET วันที่ 18 ธ.ค.67 ปิด +3.38 จุด อยู่ที่ 1,398.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,817 ลบ. ต่างชาติขาย 387 ลบ. สถาบันขาย 301 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 242 ลบ. และรายย่อยซื้อ 446 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,642 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,BDMS,CPN,PTT,CPALL และมียดดขายในหุ้น TRUE,BH,PRM,PTTGC,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,406 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,ACE,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 16,145 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 19,235 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 101 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -2.58%, S&P500 -2.95%, Nasdaq -3.56% นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -4.7%, อสังหา -3.97% หลังเฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.25 – 4.50% ตามคาดการณ์ แต่คาดดอกเบี้ยปีหน้าจะลดลงเพียง 2 ครั้ง จากเดิมคาดจะลด 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.15% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.1% และหุ้นเรโนลด์ +5.2% รับข่าวการเจรจาควบรวมกิจการระหว่าง Nissan & Honda
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังเฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.25 – 4.50% ตามคาดการณ์ แต่ส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า โดยเฟดคาดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง จากเดิมคาด 4 ครั้ง ครร้งละ 0.25% ส่งให้คาดดอกเบี้ยสหรัฐปีหน้าจะอยู่ที่ 3.9% & คาดเดิมที่ 3.4% สาเหตุมาจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานแข็งแรงกว่าคาด กอปรกับกังวลต่อนโยบายของ ปธ.ทรัมป์ ที่อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น โดยเฟดคาด US GDP ปี 67 , ปี 68 ที่ 2.5% และ 2.1% สูงกว่าเดิมคาดที่ 2% ต่อปี และ US PCE ปี 67, ปี 68 คาดที่ 2.4%, 2.5% สูงกว่าเดิมคาดที่ 2.3%, 2.1% ตามลำดับ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.518% และ Vix Index +74% อยู่ที่ระดับ 27.62 ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม วันศุกร์รายงาน US PCE พ.ย. คาด 2.5% & ต.ค. 2.3% YoY ที่จะบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ และสภาคองเกรสเตรียมลงมติร่างงบประมาณรายจ่ายชั่วคราว หากไม่ผ่านอาจส่งผลให้เกิดภาวะชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาล
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.1% ก่อนทราบผลการประชุมเฟด ส่วนรายงานข้อมูล CPI ยูโรโซน พ.ย. อยู่ที่ 2.2% & ต.ค. 2.0% แต่ต่ำกว่าคาดที่ 2.3% YoY และ CPI อังกฤษ พ.ย. อยู่ที่ 2.6% & ต.ค. 2.3% YoY ตามคาดการณ์ โดยเงินเฟ้ออังกฤษปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเงินเฟ้อจากภาคบริการ พ.ย. ทรงตัวสูงที่ระดับ 5% ส่งผลให้ตลาดคาดผลการประชุม BOE ค่ำวันนี้มีโอกาสคงดอกเบี้ยที่ 4.75%
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.62%, ฮั่งเส็ง +0.83% จากคาดการณ์รัฐบาลจีนจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปีหน้า เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.72% อยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด ว่าจะส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้าหรือไม่ ส่วนวันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25%
- ดัขนี SET วานนี้ +0.24% ปริมาณการซื้อขาย 4.7 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 301 ลบ. ต่างชาติขาย 387 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 242 ลบ. และรายย่อยซื้อ 446 ลบ. ได้แรงหนุนจากราคาหุ้น CPAXT เริ่มฟื้นตัว หลังบริษัทรายงานต่อ ตลท.ว่าขั้นตอนการพิจารณาการลงทุนในโครงการ Habitat เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดย กลต. สั่งให้ CPAXT ชี้แจงประเด็นดังกล่าวภายในวันที่ 25 ธ.ค. 67 ว่าเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทในกลุ่มหรือไม่ ขณะที่ CPALL ก็มีแรงซื้อคืน แม้ว่าจะมีข่าวผู้บริหารขายหุ้นก่อนการแถลงการลงทุนใน Habitat แต่มูลค่าปัจจัยพื้นฐานปัจจุบันของ CPALL อยู่ในโซนถูก เทรดที่ระดับ P/E 21.45 X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 25.0X จึงเริ่มมีแรงซื้อสะสม ส่วนผลการประชุม กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 2.25% และคาด GDP ไทยปีนี้ที่ 2.7% และปีหน้าคาดที่ 2.9 % ลดลงจาก ต.ค. คาดที่ 3 % และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะต่ำกว่าคาดการณ์ สาเหตุมาจากนโยบายของกลุ่มเศรษฐกิจหลัก, การกู้เงินเพิ่มขึ้น และ ม.กัดกันการค้า ดังนั้น กนง.จึงคงดอกเบี้ยเพื่อรักษา Policy Space ไว้รับรองความผันผวนในปีหน้า ส่วนภาวะการซื้อขายวันนี้คาดดัชนี SET ถูกกดดันจากแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติยังชะลอการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,380 – 1,390 แนวต้าน 1,410 – 1,420 คาดดัชนีมีโอกาสปรับฐานลง หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ดังนั้นจึงแนะนำซื้อเก็งกำไรบริเวณแนวรับในกลุ่มอุปโภค เช่น BJC,CRC,CBG,OSP ได้ประโยชน์ ม.แจกเงิน & การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / กลุ่มหุ้นที่คาดถูกนำเข้าคำนวณ SET50/ในรอบ 1H/68 เช่น SAWAD,BANPU,COM7,CCET
- SPA* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.60 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 3Q67 มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +32%QoQ, โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น QoQ จากการขยายสาขาใหม่ ซึ่งบันทึกต้นในไปมากแล้วใน 2Q67 ส่วน YoY flat เพราะภาษีจ่ายสูงขึ้นในอัตราปกติ ขณะที่แนวโน้ม 4Q67 คาดเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY จากช่วง high season ท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นคิดเป็นรายได้ส่วนใหญ่ราว 70% แนวโน้ม GPM ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 77 สาขา และจะเพิ่มใน 4Q67 อีก 3 สาขา ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 312 ล้านบาท -6%YoY และ 369 ล้านบาท (+18%YoY) ตามลำดับ
- TEGH* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.63 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติ 4Q67 ยังดูดีต่อเนื่อง YoY จากราคายางและน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ/ 3Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 32%) จะสูงขึ้นด้วยแม้ EU เลื่อนการบังคับใช้ออกไปปี69 แต่ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่ ด้าน TEGH เองวางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ระดับ 526 ลบ.(+145%YoY) และ 611 ลบ.(+16%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ม.ค. +$0.50 อยู่ที่ $70.58 / บาร์เรล, Brent ก.พ. +$0.20 อยู่ที่ $73.39/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 934,000 บาร์เรล ขณะที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้ Dollar แข็งค่า ซึ่งเป็นผลลบต่อสัญญาน้ำมัน
Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$-8.7 อยู่ที่ $2,653.30 /ออนซ์ สัญญาทองคำปิดตลาด ก่อนจะทราบผลการประชุมเฟด ขณะที่ Gold Spot เช้านี้ +0.88% อยู่ที่ $2,607 /ออนซ์
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -49.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -11.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -29.44 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -8.26 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.51 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.51 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -25 จุด อยู่ที่ 1,028
(-) BitCoinเช้านี้ -5.20% อยู่ที่ 100,581 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
18 ธ.ค. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2567
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
16 ธ.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ธ.ค.)
17 ธ.ค. US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
18 ธ.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (พ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
19 ธ.ค. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
20 ธ.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (พ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th