Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

378

 

 

ดูเหมือนความเชื่อมั่นลดลงไปอีก
การปรับลดลงของราคาหุ้น CPAXT และ CPALL ถือเป็นภาพสะท้อนถึงระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดระดับลงอีกครั้ง เห็นได้จากแรงขายที่ออกมาในหุ้น MARKET CAP ใหญ่ที่กระจายตัวออกไปในวงกว้าง ขณะที่ในทาง TECHNICAL ก็มีการปรับลดลงมาต่ำกว่าจุดที่มีนัยสำคัญ ในส่วนของปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน วันนี้รอดูผลการประชุม กนง. ในช่วงบ่ายว่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ ถ้ดมาก็เป็นผลการประชุมFED ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ทั้งนี้จากการศึกษาของเราพบว่าหาก กนง. ลดดอกเบี้ยลง 0.25%จะเป็นผลดีต่อเป้าหมายดัชนีราว70 จุด ส่วนอีกเรื่องที่ต้องติดตามคือ ทิศทางของสถานการณ์การเมื่องที่เค้ารางของความร้อนแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีคำร้องให้ยุบพรรค,MOU44 หรือ กรณีการพักรักษาตัว ชั้น 14 รพ.ตำรวจประเมินภาพใหญ่เห็นได้ว่าระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อ ตลาดหุ้นไทยลดลงไปอีกระดับหนึ่ง ขณะที่ยังไม่เห็นปัจจัยบวกหนุน วันนี้คาดกรอบ
1384-1405 จุด TOP PICK เลือก CK, PLANB และ MASTER

 

วันนี้ติดตามการประชุม FED BOT รู้กันลดหรือไม่ลด ?
ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีสัญญาณล่าสุดจากรายงาน FOMC FED MINUTES เผยเจ้าหน้าที่ FED ยังสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย หลังมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะยังคงชะลอตัวลง ท่ามกลางตลาดแรงงานแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามในการลดดอกเบี้ยอาจเป็น “รูปแบบค่อยเป็นค่อยไป” ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธาน FED (POWELL) ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งกำหนดประชุม FED วันที่ 18 ธ.ค. 67 (หรือวันที่ 19 ธ.ค. เวลา 2.00 น. ตามประเทศไทย) CONSENSUS คาดว่าจะเห็นการปรับลดลง 25 BPS. สู่ระดับ 4.5%ส่วนในปีหน้ายังเห็นโอกาสการลดดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้ง ราว 50-75 BPS. หากสัญญาณจากตัวเลขทางเศรษฐกิจยังคงทิศทางเดิม


ส่วนประเทศไทย กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางดีขึ้น ค่อนข้างสอดรับกับความคาดหมายของรัฐบาล ที่พยายามเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี จึงมีโอกาสสูงที่จะคงดอกเบี้ยระดับเดิม 2.50% ในการประชุมวันนี้ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นจากBLOOMBERG ที่มองว่าดอกเบี้ยไทยจะคงที่ระดับเดิมไปอีกสักระยะ ภาวะดังกล่าว(FED คาดลดดอกเบี้ย / BOT คาดคงดอกเบี้ย) น่าจะหนุนให้ GAP ระหว่าง BONDYIELD 10Y ของสหรัฐฯ – ไทย มีแนวโน้มลดลง และเชื่อว่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่าลงได้อย่างไรก็ตามหากมีการลดดอกเบี้ยสัก 1 ครั้ง จะสามารถขยับดัชนีเป้าหมายขึ้นราว70 จุด ตามกลไกของ PE ที่ยกขึ้น 0.7 เท่า

การเมืองเข้นข้น มักกดตลาดหุ้นผันผวน
ความไม่แน่นอนทางการเมือง ถูกกลับมาให้น้ำหนักมากขึ้นในหลายประเทศ เนื่องจากมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการกำหนดนโยบาย เศรษฐกิจ รวมถึงการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินความเสี่ยงทางการเมืองยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด นำโดยสหรัฐฯ หลังจากที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ซึ่งตาม TIMELINEกำหนดให้ 20 ม.ค. 68 เป็นวันที่ ปธน. คนใหม่เข้าพิธีสาบานตน ก่อนเริ่มทำงานขณะที่นโยบายจากการหาเสียงหลักๆ เป็นการผลักดันให้เกิด AMERICAN FIRSTเช่น การปรับ COPERATE TAX ในสหรัฐฯ ลงจาก 21% เหลือ 15%, การเพิ่มภาษีนำเข้าจากต่างประเทศ 10% และจากจีน 60% (TRADE WAR), ตั้งกำแพงภาษีกลุ่มBRICS 100%, ชูโครงการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่สุดในประวิติศาสตร์สหรัฐฯ เป็นต้น ซึ่งการเดินหน้านโยบายเหล่านี้ ล้วนส่งผลกับประเทศโดยรอบยุโรป มีความเสี่ยงจากประเด็นเยอรมนีเตรียมยุบสภาภายใน 21 วัน และกำหนดเลือกตั้งใหม่เป็นวันที่ 23 ก.พ.2568 หลังที่ประชุมรัฐสภาเยอรมนีมีมติไม่ไว้วางใจนายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจชะงักได้


ไทย ยังต้องจับตาการชุมนุมทางการเมือง หลังมีมูลเหตุ ทั้งกรณีอดีตนายกฯทักษิณรักษาตัวชั้น 14 ครบ 180 วัน รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีป (MOU 44) ที่ไทยลงนามร่วมกับกัมพูชาไว้เมื่อปี 2544

นอกจากนี้ความคืบหน้าในการพิจารณา “6 คำร้อง” คดียุบพรรคเพื่อไทย-พรรคร่วม ล่าสุด กกต.เผยว่า “ใกล้ถึงขั้นสุดท้ายแล้ว” จึงคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าต่อการยื่นเรื่องให้กับศาล รธน. ช่วงต้นปี 2568

สรุป ประเด็นการเมืองทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ที่ดูร้อนแรงขึ้น และมีแนวโน้มเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงต้นปีหน้า จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรณีที่มีความปั่นปวน มักเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นผันผวนอย่างมีนัยฯ

 

วานนี้หุ้นไทย ตกหนักสุดเป็นอันดับที่ 4 ของปีรายล้อมด้วยปัจจัยกดดัน

วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลง -24.45 จุด หรือ -1.7% ต่ำสุดเป็นอันดับ 4 ของปี ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท โดยมีแรงกดดันหลักๆ 4 ส่วนในช่วงนี้ คือ


▪ SET INDEX ลงตามตลาดหุ้นโลก (DOW JONES -267 จุด) โดยนักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง รอดูผลการประชุม FED คืนนี้ ส่วนนักลงทุนไทยรอดู
ผลประชุมกนง.14.00 น.

▪ SET INDEX ถูกกดดันจากควันหลง CPAXT และ CPALL ผ่านมา 2 วันลงแรงมาก -23%WTD และ -10%WTD ตามลำดับ ทำให้พอร์ตลงทุนในบัญชีมาร์จิ้นถูกกดดันจากโอกาสถูก FORCE SELL และถูกกดันให้ขายหุ้นตัวอื่นๆ ตามออกมาด้วย ขณะที่หุ้นใน SET100 ช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีการปรับตัวลง 85 ใน 100 หุ้น และมีหุ้นลงเกิน -3% ถึง 36 หุ้น

▪ SET INDEX มีความเสี่ยงการเมืองที่ต้องรอติดตาม ทั้งความกังวลความเสี่ยงทางการเมือง นอกสภาพ ประเด็น MOU44 และว้าแดง เป็นต้น

▪ SET INDEX ในเชิงเทคนิค กราฟมีการทำรูปแบบ HEAD & SHOULDERSกดดันให้ SET INDEX ย่อตัวและมีความผันผวนมากในช่วงนี้

 

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา SET INDEX ยังมีความผันผวนอยู่ในช่วงนี้ แนวรับสำคัญแรก 1380 จุด แนวรับถัดไป 1350 จุด แต่ถ้ากลับมายืนเหนือ 1400 จุด ได้ แนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด และ 1430 จุด

 

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อ่อนตัว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้