Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

398

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 17 ธ.ค.67 ปิด -16.99 จุด อยู่ที่ 1,395.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,294 ลบ. ต่างชาติขาย 558 ลบ. สถาบันขาย 3,732 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 719 ลบ. และรายย่อยซื้อ 5,009 ลบ.  NVDR มียอดซื้อสุทธิ 2,526 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น CPALL,BDMS,CCET,CPAXT,BH และยอดขายหุ้น PTTEP,SCC,KBANK,TISCO,PTTGC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,510 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ ACE,DCC,CENTEL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 25,507 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 35,380 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 373 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.61%, S&P500 -0.39%, Nasdaq -0.32% จากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม -0.9%, พลังงาน -0.76% ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +0.28% หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐเผยยอดค้าปลีก พ.ย. +0.7% สูงกว่าคาด +0.6% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.42% จากแรงขายกลุ่มน้ำมั้น & ก๊าซ -1.3% ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 17 เดือน สาเหตุจากอุปสงค์จากจีนที่ลดลง และกลุ่มธนาคาร -1.8% จากแรงขายธนาคารสเปน

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม & สถาบันการเงิน ที่คาดจะได้รับผลกระทบเชิงลบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ ขณะที่ข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐ พ.ย. +0.7% สูงกว่าคาด +0.6% MoM บ่งชี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐยังขยายตัวได้ดี ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ค่ำวันนี้ติดตามผลการประชุมเฟดคาดจะลดดอกเบี้ย 25% ลงอยู่ในที่ 4.25 – 4.50% และรอฟังถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐปีหน้า รวมถึงคาดการณ์ US GDP, เงินเฟ้อ & อัตราว่างงานสหรัฐในปีหน้า ส่วนวันศุกร์ ติดตามข้อมูล US PCE พ.ย. คาด 2.5% & ต.ค. 2.3% YoY ที่จะบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มน้ำมัน & ก๊าซ ที่ชะลอตัวตามอุปสงค์ตลาดโลก และดัชนีหุ้นสเปน -1.6% จากแรงขายกลุ่มธนาคารสเปน ขณะที่ IFO เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมัน ธ.ค. อยู่ที่ 84.7 & พ.ย. 85.6 ต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 2563 สาเหตุมาจากเศรษฐกิจเยอรมันชะลอตัว, ผลกระทบสงครามรัสเซีย – ยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น และรอผลการเลือกตั้งเยอรมันในวันที่ 23 ก.พ. 68 ค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน พ.ย. คาดที่ 2.3% & ต.ค. 2.0% YoY และ CPI อังกฤษ พ.ย. คาดที่ 2.6% & ต.ค. 2.3% YoY                    
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.73% หลัง NBS จีนเผยยอดค้าปลีกจีน พ.ย. อยู่ที่ 3.0% ชะลอตัวจาก ต.ค. ที่ 4.8% และต่ำกว่าคาดที่ 4.6% YoY บ่งชี้อุปสงค์ผู้บริโภคจีนยังฟื้นตัวช้า ขณะที่ดัชนีนิเกอิ -0.24% ระหว่างรอผลการประชุม FED และ BOJ โดยวันศุกร์นี้ติดตามดอกเบี้ย LPR จีน 1 ปี, 5 ปี คาดจะคงที่ 3.1% และ 3.6%  
  • ดัขนี SET วานนี้ -1.70% ปริมาณการซื้อขาย 5.5 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 3,732 ลบ. ต่างชาติขาย 558 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 719 ลบ. และรายย่อยซื้อ 5,009 ลบ. โดยดัชนีถูกกดดันจากแรงขาย CPAXT ที่มีคำถามต่อมาตราฐานด้าน ESG ในการลงทุนในโครงการ Habitat ของบริษัทในเครือ MQDC กอปรกับมีประเด็นกรรมการของ CPALL มีรายการขายหุ้นก่อนที่มีการเปิดเผยโครงการลงทุนดังกล่าว ดังนันกลุ่มสถาบันจึงขายปรับพอร์ตหลักทรัพย์ดังกล่าวตามเกณฑ์การลงทุนด้าน ESG ขณะที่กลุ่มขนส่ง & ท่องเที่ยวก็ถูกแรงขายทำกำไร แม้ว่าแนวโน้มรายได้ยังอยู่ในช่วง High Season แต่รายได้ในช่วง Q2 – Q3/68 อาจชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก เนื่องจากมีปัจจัยเสียงสงครามการค้ารอบใหม่ ส่วนผลการประชุม ครม.วานนี้เผยเตรียมอนุมัติโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กับผู้สูงอายุในสัปดาห์หน้า และเห็นชอบร่าง พ.ร.ฏ.กำหนดพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จ.ระยอง พื้นที่ 2,662 ไร่ เพื่อรับรองโครงการ Entertainment Complex ซึ่งส่งผลบวกเขิงจิตวิทยาการลงทุนต่อกลุ่มบริษัทร่วมทุน BA, BTS, STECON ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการประชุม กนง. ซึ่ง Consensus คาดจะคงดอกเบี้ยที่ 2.25%

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 แนวต้าน 1,410 – 1,420 คาดแรงขายปรับพอร์ตในกลุ่ม CPAXT, CPALL เริ่มลดลง แต่ดัชนีคาดฟื้นตัวได้จำกัดระหว่างรอผลการประชุม กนง. และเฟด แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มไฟแนนท์ SAWAD,MTC,JMT คาดความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ปรับดีขึ้น จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ / กลุ่มที่คาดมีโอกาสเข้า SET50 ในรอบ 1H/68 เช่น SAWAD,BANPU,COM7,CCET
  • MTC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 58.75 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 49 พันล้านบาท +3%QoQ, +16%YoY หนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ดอกเบี้ยเติบโต และการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี โดย NPL ลดลงเหลือ 2.8% จาก 2Q67 ที่ 2.9% สำหรับแนวโน้ม 4Q67 กำไรยังอยู่ในทิศทางปรับเพิ่มทั้ง QoQ, YoY จากการตั้งสำรองที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลงจากมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของรัฐ ส่งผลให้ลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น ส่วน NIM ที่อาจถูกกดดันจากต้นทุนการเงินหุ้นกู้ชุดใหม่น่าจะชดเชยได้จากการขยายพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งในปี 67-68 คาดการขยายตัวของสินเชื่อ 15-20% อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67-68 ที่ 5.86 พันล้านบาท +20%YoY และ 6.97 พันล้านบาท +19%YoY
  • CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย50 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 2,219 ลบ. (+86.37%YoY, +28.31% QoQ ) มีแรงหนุนจากรายการพิเศษเป็นบวก(เช่น Fx Gain) ราว 366 ลบ., รายได้กลุ่มFOOD(+12.4% YoY, +4.9% QoQ)/กลุ่มFASHION(+5.1% YoY, -1.3% QoQ ), และ SG&A สามารถคุมได้ดี(เช่น การต่อรองขอลดค่าเช่า) ส่งผลให้ SG&A to Rev. ลดลง ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปกติช่วง 4Q67 นี้ เรายังประเมินว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีแรงหนุนตาม Seasonal Effect ขณะที่ปัจจัยเสริมเพิ่มเติมจะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น, ม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ, และการฟื้นตัวของธุรกิจ HARDLINE ในไทยและเวียดนาม

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ม.ค. -$0.63 อยู่ที่ $70.08 / บาร์เรล, Brent ก.พ. -$0.72 อยู่ที่ $73.19/บาร์เรล ปรับลดลงหลัง NBS เผยยอดค้าปลีกจีน พ.ย. +3% ชะลอตัวจาก ต.ค. +4.8% YoY บ่งชี้อุปสงค์น้ำมันจากจีนมีโอกาสฟื้นตัวช้า ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.7 ล.บาร์เรล & คาดจะลด 1.85 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$-8.0 อยู่ที่ $2,662 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.09% อยู่ที่ 106.956 และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.391% ก่อนการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันนี้

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -141.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -16.30 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -101.62 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -23.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.391 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -18 จุด อยู่ที่ 1,053

(+) BitCoinเช้านี้ +0.42% อยู่ที่ 106,330 ดอลลาร์สหรัฐ

(+)ส่งออกญี่ปุ่น พ.ย. +3.8% & คาด +2.8% YoY

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

18 ธ.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2567

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

16 ธ.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ธ.ค.) 

17 ธ.ค.     US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)

18 ธ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (พ.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

19 ธ.ค.     US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย           

                US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

20 ธ.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (พ.ย.)

               

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio December 2024: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อ่อนตัว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....

หมดข่าว เลิก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทยออก วานนี้ หลังจาก สหรัฐกับจีน ตกลงการค้า จบด้วยดี.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้