Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

413

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 12 ธ.ค.67 ปิด -3.16 จุด อยู่ที่ 1,439.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,406 ลบ. ต่างชาติขาย 1,528 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 86 ลบ. สถาบันซื้อ 262 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,179 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 54 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,DELTA,KTB,SCC,TRUE และยอดขายหุ้น BDMS,ADVANC,PTTEP,BCP,PTT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,414 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,ORI,SPRC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,720 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 24,629 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 5,407 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.53%, S&P500 -0.54%, Nasdaq -0.66% นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -0.84%, เฮลธ์แคร์ -0.83% และกลุ่มเทคโนโลยี Nvidia -1.4% หลัง ก.แรงงานสหรัฐเผย US PPI พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.0% สูงกว่าคาดที่ 2.6% YoY ขณะที่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 17,000 อยู่ที่ 242,000 สูงกว่าคาดที่ 220,000 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.14% จากแรงขายกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -1.7% ขณะที่กลุ่มสินค้าหรูหรา +0.9% หลัง ECB มีมติลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์   

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี , สินค้าฟุ่มเฟือย หลัง ก.แรงงานสหรัฐ เผย US PPI พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.0% สูงกว่าคาดที่ 2.6% YoY และ Core PPI พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.4% สูงกว่าคาดที่ 3.2% กอปร US CPI พ.ย. ก็ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.7% YoY เป็นไปตามคาดการณ์ แต่เริ่มมีสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐอาจลดลงได้ช้ากว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในปีหน้า อย่างไรก็ตาม CME FedWatch จึงชี้มีโอกาส 98% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.25 – 4.5% แต่คาดจะคงดอกเบี้ยใน ม.ค. 68
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว หลัง ECB มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยฝากอยู่ที่ 3.0%, ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 3.4% และดอกเบี้ยรีไฟแนนท์อยู่ที่ 3.15% เพือสนับสนุนการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน ที่ยังปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐ – ยุโรป, การเมืองเยอรมัน – ฝรั่งเศสที่ขาดเสถียรภาพ และอุปสงค์จากตลาดจีนที่ชะลอตัว โดย LSEG คาด ECB มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในปี 68 ลงอีก 1.20% ค่ำวันนี้ติดตาม CPI ฝรั่งเศส พ.ย. คาด 1.7% & ต.ค. 1.6% YoY และ CPI สเปน พ.ย. คาด 2.4% & ต.ค. 1.8% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.85% ได้ปัจจัยจากคาดการณ์จีนจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปีหน้า จากผลการประชุมว่าเรืองเศรษฐกิจจีน CEWC โดยจีนตั้งเป้าจะรักษาอัตราการเติบโตปีหน้าไว้ที่ระดับ 5% ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ +1.21% จากคาดการณ์ BOJ จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19 ธ.ค. ขณะที่เช้านี้คาดตลาดหุ้นเอเชียเหนือมีโอกาสปรับลดลงตามกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ      
  • SET วานนี้ -0.22% ปริมาณการซื้อขาย 4.1 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 1,528 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 86 ลบ. สถาบันซื้อ 262 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,179 ลบ. จากแรงขายในกลุ่มพลังงาน, โรงไฟฟ้า, ค้าปลีก, สื่อสาร และ รพ. หลังการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ยังไม่มีการเปิดเผย ม.กระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ในช่วงปีหน้า โดยเน้น ม.เดิม เช่น ม.แจกเงินสดเฟส 2 คาดจะเบิกจ่ายได้ก่อนช่วงตรุษจีน ขณะที่ ม.ดิจิทัล วอลเล็ตยังไม่มี Timeline ที่ชัดเจน ส่วนการประชุมไตรภาคี ก.แรงงานยังไม่สามารถหาข้อสรุปของการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท/ทั่วประเทศ ส่งผลให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปในวันที่ 23 ธ.ค. จากปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลลบต่อความเชื่อมั่น & กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงต้นปีหน้า โดยประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า วันพุธการประชุม กนง. ซึ่ง Consensus จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% และปีหน้าคาดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ครังละ 0.25%              

            

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,430 – 1,435 แนวต้าน 1,450 คาดได้แรงพยุงซื้อจากเม็ดเงินกองทุน Thai ESG และรอผลการประชุมเฟดในวันพุธหน้า เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในปีหน้า แนะนำทยอยซื้อ KBANK,SCB,KTB,TTB,MTC,KTC คาดได้ประโยชน์จาก ม.แก้ไขหนี้ภาคครัวเรือน/ เก็งกำไร SAWAD,COM7 คาดมีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณ SET50 ปีในรอบ 1H/68
  • PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.55 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 282 ล้านบาท +7%QoQ, +8%YoY ตามรายได้สื่อโฆษณานอกบ้านและรายได้การบริหารสิทธิกีฬา Olympic อย่างไรก็ตาม GPM ปรับตัวลดลงเหลือ 27% เพราะ margin ของงาน Olympic ต่ำกว่าธุรกิจปกติ ข้ามมาที่ 4Q67 คาดกำไรฟื้นตัวเด่น QoQ, YoY เนื่องจากเป็น high season ของการใช้สื่อนอกบ้าน U-rate กลับมาที่ 80% และ GPM จะฟื้นตัวไม่มี Olympic มาฉุด โดยบริษัทคงเป้าหมาย core revenue +6-8%, GPM 29-31%, NPAT margin >11% ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อิงจาก consensus อยู่ที่ 05 พันล้านบาท +15%YoY และ 1.2 พันล้านบาท +14%YoY
  • CPAXT* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 37.84 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 1,952 ลบ. (+16%YoY, -10%QoQ) แม้จะมีปัจจัยกดดันจากรายการพิเศษ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบบริษัทและ Fx Loss ราว -458 ลบ. แต่การดำเนินงานหลักยังเป็นบวกดีYoY โดยเฉพาะยอดขายอาหารสด และ Omni Channel  ส่วนช่วง 4Q67 นี้ คาดว่าจะ +QoQ ตามฤดูกาล +YoY ต่อเนื่องมีแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศของภาครัฐฯ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ CPAXT* จะอยู่ที่ระดับ 10,359 ลบ.(+20%YoY) และ 11,938 ลบ.(+15%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ม.ค. -$0.27 อยู่ที่ $70.02 / บาร์เรล, Brent ก.พ. -$0.11 อยู่ที่ $73.41/บาร์เรล หลัง IEA คาดอุปทานน้ำมันส่วนเกินปี 68 เพิ่มขึ้น 950,000 แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็นเกือบ 1% ของผลผลิตทั่วโลก และคาดอาจเพิ่มเป็น 1.4 ล.บาร์เรล/วัน หากกลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตใน เม.ย. 68

 

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$47.30 อยู่ที่ $2,709.40 /ออนซ์ ถูกแรงขายปรับพอร์ตก่อนการประชุมเฟดวันที่ 18 ธ.ค. กอปรกับ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.33%

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -188.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -45.18 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -137.05 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -6.54 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.33 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -51 จุด อยู่ที่ 1,055

(-) BitCoinเช้านี้ -0.76% อยู่ที่ 100,004 ดอลลาร์สหรัฐ

(+)ดัชนทันกันอุตสหากรรมขนาดใหญ่ญี่ปุ่น Q4/67 อยู่ที่ 14 สูงกว่าคาดที่ 13

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

18 ธ.ค.     ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2567

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

12 ธ.ค.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ธ.ค.)

                EU การประชุม ECB

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)

16 ธ.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ธ.ค.) 

17 ธ.ค.     US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)

18 ธ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (พ.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

19 ธ.ค.     US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย           

                US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3)

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

20 ธ.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (พ.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,

(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*

(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB

(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio December 2024: CPALL, SAV, SYNEX*, CRC, WHA

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้