SET คาดปรับตัวขึ้น : แรงหนุนจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ และการแถลงผลงานรัฐบาล รวมถึงความหวังในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด

แนวรับ-ต้าน
1,440 –1,465

กลยุทธ์การลงทุน
1) พลังมาตรการรัฐ :
 a) จับจ่ายใช้สอย+ท่องเที่ยว : ADVANC, AEONTS, BJC, CBG, CPALL, CPAXT, ERW, KTC, MBK, MINT, MTC, SAWAD, TACC, TRUE
b) โครงการลงทุน : CK, STECON, AMATA, WHA
 c) อสังหาริมทรัพย์ : SC, SIRI, SPALI

 2) Bond Yield ชะลอ : GPSC, BGRIM, GULF

ลุ้นแรงหนุนจากรัฐบาลต่อ

แก้หนี้มา เยียวยาไทย : กระทรวงการคลังเผยมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ “คุณสู้ เราช่วย” โดยแบ่งย่อยเป็นสองโครงการ คือ 1)มาตรการ“จ่ายตรง คงทรัพย์” ซึ่งเป็นมาตรการช่วยพักดอกเบี้ย 3 ปีให้กับสินเชื่อ บ้าน รถ และ SMEs ที่วงเงินไม่สูงมากและเข้าเงื่อนไขของ ธปท. รวมถึงจะมีการช่วยลดค่างวดชำระแบบขั้นบันได โดยในปีแรกลูกหนี้ชำระค่างวดเพียง 50% ของค่างวดที่ตกลงกับสถาบันการเงิน ก่อนจะเพิ่มเป็น 70% ในปีที่ 2 และ 90% ในปีที่ 3 โดยมีเป้าหมายและ 2) มาตรการ “จ่ายปิดจบ” ซึ่งเป็นมาตรการช่วยลูกหนี้ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 5 พันบาท ซึ่งสามารถจ่ายชำระคืนทั้งหมดหรือบางส่วนได้ในคราวเดียว ด้านรองนายกเผยอาจทำให้หนี้ครัวเรือนลดลงเหลือ 80% ของจีดีพี จากเดิมอยู่ที่ 90% ต่อจีดีพี ในปีหน้า ช่วยให้รัฐมีสภาพคล่องเพิ่มเติมสำหรับการปล่อยสินเชื่อเพิ่มไปยังชนบท และคาดจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินในมือของประชาชน ทำให้กำลังซื้อทยอยเพิ่มขึ้นตาม

90 วันที่ผ่านมาทำอะไร ก้าวต่อไปประเทศไทยต้องจับตา : เช้าวันนี้นายกฯมีกำหนดการแถลงผลงานในรอบ 90 วันของรัฐบาล ซึ่งคาดจะมีการกล่าวถึงนโยบายที่ผ่านมา และนโยบายต่างๆที่จะดำเนินการในอนาคต โดยมองตลาดคาดหวังพัฒนาการของ 1)นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ซึ่งอาจเห็นความคืบหน้าหลังการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างในวันนี้ 2) นโยบายเงินดิจิทัลหมื่นบาท ซึ่งไม่ได้เข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. วานนี้ คาดจะมีการประกาศกระบวนการ และ ย้ำไทม์ไลน์การแจกเงินหมื่นทั้งในเฟส 2 และ 3 3)มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 4) มาตรการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยรวมคาดจะหนุน Domestic Stock

CPI สหรัฐตามคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย : CPI และ Core CPI เดือนพ.ย.67 ขยายตัวแบบ y-y ที่ 2.7% และ 3.3% เท่ากับที่ตลาดคาด โดย Core CPI เท่ากับเดือนก่อน ขณะที่ CPI เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 2.6% ตลาดเพิ่มน้ำหนักสู่ 96% ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมเดือนนี้ กดดัน Bond Yield สหรัฐปรับตัวลง เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯและ โรงไฟฟ้า

ปัจจัยเพิ่มเติม
 (+)ครม. เห็นชอบยกเว้นภาษีเงินได้จัดอบรมสัมมนา และ การท่องเที่ยวเมืองรอง โดยนิติบุคคลสามารถลดหย่อนได้สูงสุดถึง 1.5 เท่าของมูลค่าที่จ่ายจริงเป็นบวกต่อการท่องเที่ยวภายใน
(+) ADB เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.3% เพิ่มขึ้นเป็น 2.6% และยังคงตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไทยในปี 2568 ไว้ที่ระดับเดิม โดยคาดว่า GDP ปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 2.7%
(+)ตลาดคาด ECB มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมวันนี้ หลังเศรษฐกิจภายในของยูโรโซนยังฟื้นตัวช้า
 (-) FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลงไปอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ที่ระดับ 118.28 โดย นักลงทุนคาดหวัง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย มาตรการภาครัฐ โครงการเงินดิจิทัลเฟส 2 และ แรงหนุนการเข้าซื้อ SSF RMF และ ThaiESG จะช่วยหนุนภาพรวมเศรษฐกิจ

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์