Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

355

 

AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ตั้งฐานกรอบ 1440-1460
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1440-1460 จุด กลยุทธ์เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวเนื่องจากสภาพแวดล้อมอยู่ในช่วงติดตามพัฒนาการ โดยฝั่งสหรัฐฯคือการรายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย.ประกาศช่วงค่ำวันนี้ ฝั่งจีนการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค. และบ้านเราวันนี้การประชุม ครม. ซึ่งจุดสนใจหลักอยู่ที่มาตรการแก้หนี้ วันนี้เลือก BJC และ CCET

ตลาดหุ้นจีนวานนี้ปรับขึ้น 0.7% หนุนหลักมาจากทางการจีนเผยเตรียมใช้มาตรการทางการคลังเชิงรุกและการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะช่วยหนุนต่อภาคบริโภค ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจทีต่ำกว่าคาดทั้งยอดส่งออกเดือน พ.ย. +6.7%YoY ต่ำตลาดคาด 12.7%YoY และเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ขยายตัว 0.2%YoY ต่ำตลาดคาด 0.3%YoY โดยสิ่งที่ตามต่อคือการประชุมคณะเศรษฐกิจระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค. ต่อสัญญาณการกระตุ้นที่เป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งหากมีความชัดเจนจะเป็นบวกในเชิง Sentiment ต่อกลุ่มปิโตรฯ (IVL) กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (SCGP) กลุ่มเกษตร/อาหาร (STA CPF) เป็นต้น
ฝั่งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นพักตัวเฉลี่ย -0.3% จากลด Position ก่อนการรายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ซึ่งคาดเงินเฟ้อทั่วไป +2.7%YoY สูงกว่าเดือนก่อน +2.6%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานคาด +3.3%YoY ทรงตัวจากเดือนก่อน หากออกมาเป็นไปตามคาดเชื่อว่า FED จะลดดอกเบี้ยฯการประชุมเดือน ธ.ค. 25 bps มาที่ 4.5% อิง FEDWatch Tool ให้โอกาสปรับลดดอกเบี้ยสูงที่ 86%

สำหรับบ้านเราวันนี้ติดตามการประชุม ครม. ประเด็นสำคัญอยู่ที่การพิจารณามาตรการแก้หนี้ SMEs บ้านและรถ หากผ่านความเห็นชอบจะมีการแถลงรายละเอียดร่วมกันระหว่างคลังและธปท โดยจุดที่สนใจ เช่น เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการและกลไกการใช้เงินกองทุน FIDF ช่วยสนุบสนุน ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารที่มีสัดส่วนลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวสูง อย่าง SCB TTB และ KKP โดยชอบ KKP มากที่สุดเนื่องจากคาด Earnings Growth 68E ฟื้นตัวแรง 24%YoY และคาด Dividend Yield 8.2% ต่อปี

 

Market Summary
SET Index ปรับลง -0.31% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 2.9 หมื่นล้านบาท กลุ่มที่กดดันมาจากกลุ่มพลังงาน PTTEP -1% TOP -2% ฺตามด้วยกลุ่ม ร.พ. กำไรผ่านจุด High Season ช่วง 3Q67 กดดัน ฺ BH -3.8% CHG -2.2% กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL -2.7% ERW -1.9% และ AOT-0.8% ส่วนกลุ่มที่ขึ้นสวนตลาดกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA +1.3% เก็งหลุด Cash Balance (รู้ผลเย็นวันนี้) กลุ่มธนาคาร +0.7% เก็งความชัดเจนเรื่องมาตรการแก้หนี้

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CCET BJC

BJC
มาตรการกระตุ้นรัฐ
คาดช่วยหนุนยอดขาย
เราคาดกำไรหลัก 4Q67 ขยายตัว QoQ หนุนจากเข้าสู่ช่วง High Season จากการใช้จ่ายในประเทศและผลบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินเข้าบ้านเราสูงขึ้น และอานิสงค์จากมาตรการแจกเงินสด 1 หมื่นบาท 14.5 ล้านคน มาตรการช่วยชาวนาไร่ละ 1 พันวงเงิน 3.85 หมื่นล้านบาท ที่คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อ SSSG ไตรมาสนี้
ด้านกำไรหลักปี 68 คาดขยายตัว 12.1%YoY โดยช่วง 1Q68 คาดหมายว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐฯ เช่น โครงการแจกเงินสด 1 หมื่นบาท ผู้สูงอายุวงเงิน 4 หมื่นล้านบาท (คาดแจกช่วงตรุษจีน) รวมถึงโอกาสที่ฟื้นโครงการ Easy E-Receipt ที่จะช่วยหนุนต่อยอดขาย BIG-C ได้ในอีกทางหนึ่ง
ขณะที่ Valuation ปัจจุบันซื้อขายที่ PER67 ที่ 21 และ 68 ที่ 18.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี – 1.6 S.D. ซึ่งถือเป็นระดับใม่แพง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท

CCET
Initial Coverage
พร้อมเลือกเป็น Top pick กลุ่ม
เราเริ่มต้นวิเคราะห์หุ้น CCET ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายอิงวิธี DDM ที่ 9.90 บาท (COE 10.4% และการเติบโต 7.5%) โดยราคาเป้าหมายนี้คิดเป็น PE ปีงบ 68 ที่ 28.2 เท่า ซึ่งเท่ากับ +0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี
CCET เป็นหุ้นเด่นตัวใหม่ของเราในกลุ่ม ETRON เนื่องจากเราเห็นว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการยกระดับสงครามการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 เราคาดว่า CCET จะมีกำไรหลักเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 17% ในปีงบ 67-71 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มหุ้นที่เราวิเคราะห์ ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ 1) การได้ลูกค้ารายใหม่เพื่อเติมเต็มกำลังการผลิต ในโรงงานใหม่ 2) การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น
ปัจจัยหนุนระยะสั้น คือ ผลประกอบการที่คาดแข็งแกร่งต่อใน 4Q67 นอกจากนี้เรายังคาดว่า CCET จะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 รอบ 1H68 ซึ่งจะประกาศช่วงกลาง ธ.ค.67 ต่อไป
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.90 บาท

 

KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ทยอยรายงานสะท้อนภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ที่ยังล่าช้า 1) ดัชนี CPI และ PPI (รายงานเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นในขณะที่ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศจีน (รายงานวันที่ 10 ธ.ค.) ส่งออก +6.7% YoY ชะลอตัวลงจาก +12.7% YoY และต่ำกว่าที่ Consensus คาด +8.7% YoY 2) นำเข้าพลิก -3.9% YoY แย่กว่าที่ Consensus คาด +0.9% YoY อย่างมีนัยสำคัญ และแย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.3%YoY สะท้อนภาพอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังอ่อนแอในภาคการผลิตและการบริโภค

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะรายงานวันนี้ เงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. Consensus คาด +2.7% YoY และ +0.3% จาก +2.6% YoY และ 0.2% MoM ในเดือนก่อนหน้า ส่วน Core CPI คาด 3.3% YoY และ +0.3% MoM เท่ากับเดือนก่อน

 

EYES ON
9 ธ.ค. ดัชนี CPI และ PPI ของจีน เดือน พ.ย.
10 ธ.ค. ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ, ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีน เดือน พ.ย.
11 ธ.ค. เงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ เดือน พ.ย.
12 ธ.ค. ดัชนี PPI เดือน พ.ย., การประชุม ECB

 

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หมดข่าว เลิก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทยออก วานนี้ หลังจาก สหรัฐกับจีน ตกลงการค้า จบด้วยดี.....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้