ยังไม่มีแรงกระตุ้นใหม่ ๆ
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนยังสะท้อนภาพของการที่ยังอ่อนแรงกว่าปกติ โดยเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ออกมาที่ 0.2% YOY ต่ำกว่าคาดที่ 0.5% ขณะที่การค้าระหว่างประเทศพบว่าทั้งการส่งออก และนำเข้าต่ำกว่าที่คาด ภาวะดังกล่าวทำให้เกิดความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นที่แรงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหลายครั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นมาตรการที่แรงอย่างที่หวังส่วนในสหรัฐพรุ่งนี้จะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. โดยCONSENSUS คาดที่ 2.7% YOY ในบ้านเรารอติดตามการเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ภาครัวเรือน ตามด้วยการแถลงผลงานรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้จากการประเมินปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานข้างต้นเห็นยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะกำหนดทิศทางตลาดขณะที่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง คาด SET INDEX ผันผวนต่อยังอยู่ในภาวะที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานใหม่ๆ เข้ามากำหนดทิศทาง และ มูลค่าการซื้อขายที่เบาบางคาดทำให้SET INDEX ยังอยู่ในภาวะผันผวน กรอบ1440-1455 จุด TOP PICK เลือก KTB, MASTER และTTB

ปัจจัยแวดล้อมอยู่ในช่วง WAIT & SEE
ประเด็นสำคัญๆ ที่น่าติดตามช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ในแต่ละประเทศ ดังนี้

สหรัฐฯ : คืนนี้เวลา 20.30 น. มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ของเดือน พ.ย. โดยCONSENSUS คาดว่าจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน เล็กน้อย มาอยู่ที่2.7% อย่างไรก็ตาม ระดับเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยฯ เชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยของ FED จะยังคงเกิดขึ้น ในวันที่ 18 ธ.ค. 67

จีน : วันนี้ผู้นำระดับสูงของจีนจะมีการประชุม CENTRAL ECONOMIC WORKCONFERENCE แบบปิด เป็นเวลา 2 วัน (11 –12 ธ.ค. 67) เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับปี 2568โดยในการประชุม POLITBURO เมื่อ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้นำจีนให้คำมั่นกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 2568 ได้แก่

• ประกาศปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งแรกในรอบ 14 ปี จากเดิมที่มีท่าทีแบบ“รอบคอบ” (PRUDENT) ที่ใช้ตั้งแต่ปี 2011 จะปรับเป็นแบบ “ผ่อนคลายปานกลาง” (MODERATELY LOOSE) ในปีหน้า

• เพิ่มความเข้มข้นในนโยบายการคลัง โดยเปลี่ยนถ้อยคำจาก “เชิงรุก”(PROACTIVE) ปรับเป็น “เชิงรุกมากขึ้น” (MORE PROACTIVE)ขณะที่ด้านนักเศรษฐศาสตร์จีน “เพิ่มความคาดหวัง” ในปี 2025 ว่าจีนอาจเพิ่มงบประมาณขาดดุล มากสุดในรอบ 30 ปีโดยเป้าหมายการขาดดุลอาจสูงถึง 4%ของ GDP นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย ครั้งใหญ่ที่สุดนับแต่ปี 2014ซึ่งดอกเบี้ยอาจลดลงอีกราว 0.4 –0.6%กระแสการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน คาดหนุนให้เกิดแรงเก็งกำไรสั้นๆ ให้กับหุ้นกลุ่มCHINA PLAY อาทิ BANPU SCC SCGP PTTGC IVL เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังคงเห็น DEMAND อ่อนแอ โดยล่าสุดเดือนพ.ย. 67 มีสัญญาณเงินเฟ้อจีนอยู่ระดับต่ำแค่ 0.2%YOY รวมถึงการส่งออกชะลอตัวลงจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 6.7%YOY

ไทย : เช้านี้บ้านเราจะมีการประชุม ครม. รอติดตามการปรับโครงสร้างแก้หนี้ ผ่าน 2มาตรการ ได้แก่ 1) มาตรการแก้ NPL 3 กลุ่ม พักจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี ลดเงินส่ง FIDF50% และ 2) มาตรการยกหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท/ราย จากการค้างชำระหนี้ของรายย่อย เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้อาจมีความคืบหน้าการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ การแจกเงิน 10,000 บาท/คน เฟส 2, มาตรการ EASY ERECEIPT หรือการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีนี้และต้นปี 2568

ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. 67 เวลา 10.00 น. รอติดตาม นายกฯ แถลงผลงานรอบ 3 เดือน รวมถึงโครงการที่เป็นเรือธงของรัฐบาลที่จะทำและดำเนินการต่อในปี2568 นอกจากนี้ บอร์ดค่าจ้างจะมีการหารือเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วันประเด็นบวกภายในประเทศ คาดเป็นแรวหนุนต่อหุ้นกลุ่ม DOMESTIC PLAY อาทิCPALL CRC CPAXT BJC KTB BBL TTB

ตลาดหุ้นไทยยังเงียบเหงา เน้น SELECTIVE BUY
ในวันจัทร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยย่อตัว -4.43 จุด มาอยู่ที่ 1447.53 จุด ที่สำคัญคือมูลค่าซื้อขายเบาบางมาเหลือเพียง 3.59 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทย 1.74 พันล้านบาท และขายติดต่อกันมา 3 วัน รวม 4.1 พันล้านบาทขณะที่ช่วงที่เหลือของปี มูลค่าซื้อขายยังมีโอกาสเบาบางต่อ เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส,FUND FLOW ยังชะลอการไหลเข้า และ SET มี TRAILING PE สูงเกือบ 20 เท่าดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เน้น SELECTIVE BUY เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวดังนี้
▪ หุ้นอิงเศรษฐกิจจีน ราคา LAGGARD มีโอกาสรีบาวน์ตามความคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้ อาทิ KCE -57%YTD, HANA -51%YTD,SCGP -44%YTD, SCC -42%YTD, PTTGC -35%YTD ขณะที่หุ้นจีนในHANG SENG INDEX +19.2%YTD
▪ หุ้นมีโอกาสเข้า SET50 รอบ 1H68 อย่าง BANPU, CCET, COM7
▪ หุ้นปันผลสูงจ่ายปันผลปีละครั้ง อย่าง KTB มี DIVIDEND YIELD 4.5% ต่อปี, มี DIVIDEND YIELD 7.3% ต่อปี

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์