Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

314

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 6 ธ.ค.67 ปิด +1.14 จุด อยู่ที่ 1,451.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,688 ลบ. สถาบันซื้อ 2,133 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 57 ลบ. ต่างชาติขาย 1,586 ลบ. และรายย่อยขาย 605 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,574 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น GULF,CBG,TU,SCB,IVL และยอดขายหุ้น CPALL,BH,DELTA,TRUE,BDMS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,531 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ STECON,BSRC,GFPT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 155 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 51,250 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 5,110 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.28%, S&P500 +0.25%, Nasdaq +0.81% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +2.4%, Meta Platform +2.4% หลังตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 18 ธ.ค. หลังอัตราว่างงาน พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2% & ต.ค. 4.1% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.18% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา +3% สูงสุดในรอบ 2 เดือน, BMW +2.7% หลังโบรกเกอร์แนะนำซื้อ

Market View

  • DJIA -0.60%, S&P500 +1.0%, Nasdaq +3.3% WoW หลังรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ย. เพิ่มขึ้น 227,000 สูงกว่าคาด 202,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงาน พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2% & ต.ค. 4.1% กอปร ปธ.เฟด แถลงในงาน NY Times DealBook ชี้ภาวะเศรษฐกิจ & ตลาดแรงงานสหรัฐเติบโตดี ขณะที่เงินเฟ้อปรับขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 18 ธ.ค. ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Growth ขณะที่ DJIA ปรับลดลงตามหุ้น United Health หลัง CEO ของบริษัทถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม US CPI พ.ย. คาด 2.7% & ต.ค. 2.6% YoY, คาด 0.3% & ต.ค. 0.2% MoM
  • Stoxx 600 ยุโรป +2.0% WoW หลัง CAC-40 ฝรั่งเศส +2.65% หลังพรรคฝ่ายค้านลงมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ มิเชล บาร์นิเยร์ ที่พยายามผ่านร่างงบประมาณ โดยไม่ผ่านการลงมติสภา ฯ ดังนั้น ปธ.มาครง จะแต่งตั้งนายก ฯ ใหม่ และคาดจะสามารถผลักดันงบประมาณปี 68 ในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลให้ Euro Vix Index ปรับลดลงอยู่ที่ 48 และ Bond Yield ฝรั่งเศส 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.8735% & สูงสุดที่ 3.2% สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามผลการประชุม ECB คาดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% หลังเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า กอปรกับมีปัจจัยเสี่ยงสงคราม                
  • MSCI Asia Pacific X.Japan +1.7% WoW ปรับขึ้นตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม 18 ธ.ค. ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 148% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +2.3% WoW ระหว่างรอประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจในวันพุธนี้ ที่จะกำหนดเป้าหมาย GDP และ ม,กระตุ้นเศรษฐกิจจีนในปีหน้า ขณะที่ Kospi -1.1% WoW หลัง ปธ.เกาหลีใต้ประกาศอัยการศึก โดยไม่เหมาะสม ส่งให้สภา ฯ ลงมติถอดถอนแต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามหัวหน้าพรรคพลังประชาชนซี่งเป็นพรรครัฐบาลพยายามจะหาวิธีให้ประธานาธิบดียุล พ้นจากตำแหน่ง
  • SET +1.7% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 09 หมื่น ลบ. +2.2% WoW สถาบันซื้อ 8,285 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 618 ลบ. ต่างชาติขาย 1,358 ลบ. และรายย่อยขาย 7,545 ลบ. WoW โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มไอซีที +4.4% และโรงไฟฟ้า +2.2% WoW รับข่าว CEO Nvidia เดินทางเยือนไทย และทำข้อตกลงระหว่าง Siam AI ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Nvidia กับกลุ่ม Gulf & True ในการลงทุนด้าน Cloud Services & Ai ในไทย ส่วนกลุ่มธนาคาร +2.6% WoW หลัง ธปท.จะประกาศ ม.ปรับโครงสร้างลูกหนี้รายย่อย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงหนี้เสียของกลุ่มสถาบันการเงิน นอกจากนี้ดัชนียังได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินกองทุน Thailand ESG ใน ธ.ค. คาดราว 1 หมื่น ลบ. ของผู้มีเงินได้เพื่อใช้หักลดหย่อนภาษี ขณะที่ต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย จากความกังวลต่อนโยบายกัดกันการค้าของทรัมป์ ซึ่งอาจจะกระทบด้านลบต่อตัวเลขส่งออกไทยในปีหน้า ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้วันที่ 11 ธ.ค. ธปท.แถลง ม.แก้ไขหนี้ครัวเรือน และ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ม.แจกเงินผู้สูงอายุเกิน 60 ปี วงเงินราว 4 หมื่น ลบ. และ ม.กระตุ้นกำลังซื้อช่วงต้นปีหน้า เช่น ม.ลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า & บริการ

Daily Strategy

  • วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 – 1,445 แนวต้าน 1,460 – 1,470 คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงวันหยุดกลางสัปดาห์ และยังรอผลการประชุม ธ.กลางหลัก เช่น ECB จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีก CPAXT, BJC, MOSHI / การเงิน BBL,KBANK,SCB,KTB,KTC ได้ประโยชน์จาก ม.แก้ไขหนี้คร้วเรือน/ กลุ่มลงทุนด้าน Data Center เช่น GULF,INTUCH,ADVANC
  • GULF* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 65.00 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 6 พันล้านบาท +27%QoQ, +79%YoY จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนตราสารอนุพันธ์ ขณะที่กำไรปกติอ่อนตัวเล็กน้อย QoQ อยู่ที่ 7 พันล้านบาท เนื่องจากยอดขายไฟฟ้าให้กลุ่มโรงไฟฟ้า IPP ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ลดลงจากต้นทุนก๊าซฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น แนวโน้ม 4Q67 คาดกำไรปกติปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ, YoY หนุนจากโรงไฟฟ้า GPD Phase 4 กำลังการผลิตไฟฟ้า 231.8 Mwe ที่เริ่ม COD และส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงฟ้าพลังงานลมปรับขึ้นตามฤดูกาล เช่นเดียวกับกำไรของ INTUCH จะเป็นตัวหนุนที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ทั้งปี 67-68 ตลาดคาดกำไร 1.85 หมื่นล้านบาท +25%YoY และ 2.22 หมื่นล้านบาท +20%YoY ทั้งนี้ราคาหุ้นยังคงมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการจัดตั้งบริษัท NewCo ที่ทำให้งบดุลแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการลงทุนขายธุรกิจเดิมไฟฟ้าและธุรกิจใหม่ทางด้าน Data center และ AI Cloud Solutions
  • KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย75 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 74 ลบ. (+4.35%YoY, -0.10%QoQ) ภาพ QoQ ทรงตัวจากสาขาที่เปิดใหม่ยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้ offset ต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะ ค่าเสื่อมฯ D&A 3Q67 อยู่ที่ 73.41 ลบ.(+47.99%YoY, +7.34%QoQ) ทั้งนี้หากตัดปัจจัยดังกล่าวออกไป EBITDA จะ+18.62%YoY, +4.65%QoQ ด้านการดำเนินงานไตรมาสถัดๆไป เราคาดว่าแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายขยายสาขาจะมีน้ำหนักน้อยลง โดยปี68 คาดว่า KLINIQ จะเปิดสาขาใหม่อีกราว 10 สาขา (aggressive น้อยกว่าปีนี้ที่คาดเปิด 20 สาขา/ 9M67 เปิดแล้ว 14 สาขา) ปัจจุบัน เราประเมิน กำไรสุทธิปี67 และ 68ของ KLINIQ ที่ 302 ลบ.( +4.70%YoY)  และ 366 ลบ.(+21.17%YoY)

 

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ม.ค. -$1.10 อยู่ที่ $67.20 / บาร์เรล, Brent ก.พ. -$0.97 อยู่ที่ $71.12/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -1.2%, Brent -2.5% จากคาดการณ์อุปสงค์การใช้ของจีนปีหน้ายังชะลอตัว ดังนั้นกลุ่มโอเปกพลัสจึงเลื่อน ม.เพิ่มกำลังการผลิตออกไปจนถึง เม.ย. 68

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+$11.20 อยู่ที่ $2,659.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลง จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค.

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -5.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -39.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -32.59 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +66.75 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 34.03 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.14 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +7 จุด อยู่ที่ 1,167

(-) BitCoinเช้านี้ -0.14% อยู่ที่ 99,838 ดอลลาร์สหรัฐ

(+)GDP ญี่ปุ่น Q3/67 +0.3% & คาด +0.2% QoQ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

10 ธ.ค.     วันรัฐธรรมนูญ

18 ธ.ค.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2567

สัปดาห์ที2  ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ 

                หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

                สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

 

ต่างประเทศ

11 ธ.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)(พ.ย.)

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

12 ธ.ค.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ธ.ค.)

                EU การประชุม ECB

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้