AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ตั้งฐานกรอบ 1445-1465
เลือกหุ้นกำไรโต Valuation น่าสนใจ

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1445-1465 จุด เงินเฟ้อไทยเดือน พ.ย. มีแนวโน้มปรับขึ้นแม้ต่ำกว่ากรอบ ธปท. แต่เรามองการประชุม กนง.เดือนนี้จะคงดอกเบี้ยตามเดิม ฝั่งสหรัฐฯ รอการรายงานตัวเลข NFP และอัตราการว่างงานเดือน พ.ย. เพื่อประเมินการลด/คงดอกเบี้ย FED ด้านกลุ่ม OPEC+ เลื่อนการเพิ่มการผลิตแต่ประเด็น Oversupply ยังจำกัดการขึ้นราคาน้ำมันดิบ วันนี้เลือกหุ้นที่กำไรโต Valuation น่าสนใจ PR9 CPALL

เงินเฟ้อทั่วไปไทยเดือน พ.ย. ขยายตัว +0.95%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +1.1%YoY แต่ดีกว่าเดือนก่อนที่ +0.85%YoY จากราคาน้ำมันดีเซล อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานตามคาดที่ +0.8% และดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่ +0.77%YoY แม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบของ ธปท. ที่ 1-3% แต่ยังมีแนวโน้มขยับขึ้น อีกทั้งความไม่แน่นอนของการปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ ของ FED จากนโยบายของคุณทรัมป์ จึงเชื่อว่าการประชุม กนง.วันที่ 18 ธ.ค. จะคงดอกเบี้ยที่ 2.25%

ฝั่งสหรัฐฯ ความเห็นของประธาน FED ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะดำเนินดอกเบี้ยฯด้วยความระมัดระวัง โดยรวมถือว่าไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจน FEDWATCH Tool ยังคาด FED ลดดอกเบี้ยในประชุม ธ.ค. ด้วยความน่าจะเป็น 72% สำหรับวันนี้ติดตาม NFP และอัตราการว่างงานเดือน พ.ย. ตลาดคาดปรับขึ้น 2.15 แสนตำแหน่งและ 4.1 % หากออกมาตามคาดน่าจะเป็นผลดีต่อมุมมองการลดดอกเบี้ยและตลาดหุ้น

OPEC+ มีมติเลื่อนเพิ่มกำลังการผลิตส่วนของ Voluntary Cut 2.2 mbpd ไปเป็นเดือน เม.ย. 68 และอัตราการเพิ่มจะช้าลงโดยใช้เวลา 18 เดือน เทียบกับเดิมที่เพิ่มในเดือน ม.ค.68 ใช้เวลา 12 เดือน แต่ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ -0.2% จาก IEA คาดภาวะ Oversupply ยังคงอยู่ 1 mbpd ในปี 68 แม้ OPEC+ จะเลื่อนเพิ่มการผลิตก็ตาม เชิงกลยุทธ์เราชอบหุ้นกลุ่ม โรงกลั่น BCP SPRC ที่ค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวมากกว่า PTTEP ที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นได้จำกัด

Market Summary
SET Index ปรับลง -3.94 จุด กดดันหลักมาจากแรงขายทำกำไรของกลุ่ม GULF (GULF -3.4% ADVANC และ INTUCH -2.4%) หลังปรับขึ้นแรงประเด็น CEO NVIDIA ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในไทย กลุ่มที่ปรับขึ้นหมุนไปที่กลุ่มธนาคาร SCB +1.7% KBANK+1% กลุ่มโรงแรม ERW +1% AWC +1.6% นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1.15 พันล้านบาท สวนทางนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 763 ล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPALL PR9

PR9
เริ่ม Initiate ด้วยคำแนะนำซื้อ
พร้อมยกเป็น Top Pick กลุ่ม ร.พ.
เราเริ่มวิเคราะห์ PR9 ด้วยคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมายที่ 32 บาท และเลือกให้เป็น Top pick ในกลุ่มโรงพยาบาล
เรามองว่า valuation ของ PR9 ยังคงน่าสนใจ ซื้อขาย PER68 ที่ 24 เท่าใกล้เคียงกลุ่ม แต่กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยที่ 14% CAGR ในปี 67-69 สูงสุดในกลุ่ม โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การเพิ่มขึ้นมากของลูกค้าตะวันออกกลางหลังเจาะตลาดได้สำเร็จ 2) จำนวนเตียงเพียงพอหลังจากผ่านช่วงการลงทุนสูงไปแล้ว 3) บริการคุณภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ ทั้งนี้ประมาณการเราสูงกว่าตลาดคาด 2-6%
แนวโน้มกำไรมี Momentum ที่ดีโดยเราคาด ขยายตัว +13% YoY และ+2% QoQ) ซึ่งเป็นการสูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาล และคาดเป็นโรงพยาบาลเพียงแห่งดียวในกลุ่มที่จะมีกำไรเติบโต QoQ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.00 บาท

CPALL
มาตรการกระตุ้นของรัฐ
ปัจจัยหนุนยอดขายและราคาหุ้น
การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่คาดจะออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ ทั้งในส่วนแจกเงินชาวนาวงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท (คาดเริ่ม ธ.ค.) แจกเงินผู้สูงอายุวงเงิน 4 หมื่นล้านบาทและ Easy E-Receipt (ทั้ง 2 โครงการคาดเริ่มภายใน 1Q68) เป็นปัจจัยหนุนต่อยอดขายของ CPALL ในช่วง 4Q67-1Q68
แนวโน้มกำไร 4Q67 เติบโต QoQ และ YoY หนุนจาก SSSG 4Q67QTD ยังมีแนวโน้มเร่งตัวจาก 3Q67 ที่อยู่ระดับ 3.3% จากยอดขายในพื้นที่ท่องเที่ยวและปั๊มน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ GPM ยังอยู่ในระดับสูงจากสินค้าพร้อมทาน ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเพื่อสุขภาพแนวโน้มเติบโต
ด้าน Valuation ซื้อขายบน PER67/68 24/22 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีกว่า -1.25 S.D. จึงมองเป็นระดับที่น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 81.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งตัวผสมผสามในวันที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ (5 ธ.ค.) 1) จีน-ฮ่องกง +0.13% และ -0.92% ตามลำดับ 2) เอเชียเหนือ ญี่ปุ่น +0.3% ส่วนเกาหลีฯ ที่มีปัจจัยการเมืองในประเทศกดดัน -0.9% 3) ASEAN แกว่งในช่วง -0.58% ถึง +2.19%
ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ การจ้างงานภาคเอกชน (ADP) เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.46 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ +1.5 แสนตำแหน่ง อยู่เล็กน้อย และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.33 แสนตำแหน่ง ถือเป็นบวกต่อ Risk sentiment ในระยะสั้น เพิ่มความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในการประชุม 17-18 ธ.ค. เป็น 74% และปีหน้าลดดอกเบี้ยอีก 3-4 ครั้ง และในขณะเดียวกันทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ยังทรงตัวที่บริเวณ 4.2%

EYES ON
5 ธ.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
6 ธ.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน, เงินเฟ้อเดือน พ.ย. ของไทย

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ