Market Wrap-Up
- SET วันที่ 4 ธ.ค.67 ปิด -3.94 จุด อยู่ที่ 1,450.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,955 ลบ. สถาบันซื้อ 1,147 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 553 ลบ. ต่างชาติขาย 763 ลบ. และรายย่อยขาย 938 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,461 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,SCB,DELTA,CBG,TRUE และยอดขายหุ้น GULF,BH,ADVANC,,CPALL,KTB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,268 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ LVMH01,SJWD,HKCE01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 13,554 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 51,405 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 420 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.55%, S&P500 -0.19%, Nasdaq -0.18% หุ้น United Health -5.2% หลัง CEO ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต ส่งผลให้หุ้นกลุ่มบริการสุขภาพใน S&P500 -1.1%, กลุ่มเทคโนโลยี -0.2% ส่วนข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 9,000 ราย อยู่ที่ 224,000 & คาด 215,000 ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.4% หลังพรรฝ่ายค้านฝรั่งเศสลงมติถอดถอนนายก ฯ บาร์นิเยร์ และคาดงบประมาณฉบับใหม่จะสามารถผ่านสภาเร็ว ๆ นี้
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มประกัน หลัง CEO United Health ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต คาดสาเหตุมาจากความไม่พอใจ ที่บริษัทประกันพยายามชะลอการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ขณะที่ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดในงาน NY Times DealBook Summit เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชี้ภาวะเศรษฐกิจ & ตลาดแรงงานสหรัฐขยายตัว และเงินเฟ้อปรับขึ้นเล็กน้อย บ่งชี้เฟดสามารทยอยปรับลดดอกเบี้ยลงไปที่ระดับ Neutral rate ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่ม Growth ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ย. คาด 202,000 & ต.ค. 12,000 ตำแหน่ง, อัตราว่างงาน พ.ย. คาด 4.2% & ต.ค. 4.1%
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้น โดย CAC-40 ฝรั่งเศส +0.63% หลังสภาผู้แทนฯ ฝรั่งเศสลงมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ บาร์นิเยร์ และคณะ รมต. หลังพยายามจะผ่านร่างงบประมาณโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภา ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะลดงบรายจ่าย และเพิ่มการเก็บภาษี ซึ่งฝ่ายค้านคาดงบประมาณฉบับใหม่จะสามารถผ่านสภาได้ในเร็ว ๆ นี้ ค่ำวันนี้ติดตาม GDP ยูโรโซน Q3/67 คาด 0.4% & Q2/67 +0.2% QoQ
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ นิเกอิ +0.30% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับขึ้นตาม Nasdaq หลัง Salesforce รายงานรายได้ Q3/67 ดีกว่าคาด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.12% โดยนักลงทุนรอผลการประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจในวันพุธหน้า ซึ่งจะว่าเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนในปีหน้า
- SET วันพุธปิด -0.27% ปริมาณการซื้อขาย 79 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 763 ลบ. รายย่อยขาย 938 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 553 ลบ. และสถาบันซื้อ 1,147 ลบ. โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดกลางสัปดาห์ กอปรกับมีแรงขายทำกำไรกลุ่มไอซีที, โรงไฟฟ้า ที่ปรับขึ้นรับข่าว CEO Nvidia เดินทางเยือนไทย และมีข้อตกลงร่วมลงทุนด้าน Data Center ระหว่างกับบริษัท Siam AI ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Nvidia กับบริษัท Gulf Edge ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม New Co. Gulf & Intuch และกลุ่มบริษัทที่ให้บริการก่อสร้าง Data Center ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ก็ปรับขึ้นตอบรับ ม.ปรับโครงสร้างลูกหนี้รายย่อยของ ธปท. ที่จะประกาศในวันที่ 11 ธ.ค. และ ม.แจกเงินสดเฟส 2 ซึ่งจะช่วยลดภาระการกันสำรองหนี้เสียของกลุ่มไฟแนนท์ ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ก.พาณิชย์รายงาน CPI ไทย พ.ย. อยู่ที่ 0.95% YoY และปีนี้คาดอยู่ที่ 0.4 – 0.5% YoY ซึ่งมีช่องว่างเพียงพอให้ กนง.พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 18 ธ.ค. ภาวการณ์ซื้อขายในช่วงสุดสัปดาห์ คาดทรงตัวรอประเมินข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ ก่อนจะเริ่มประชุม ธ.กลางหลัก ๆ ในช่วงสัปดาห์หน้า
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,440 – 1,445 แนวต้าน 1,460 คาดดัชนีทรงตัว หลัง Dollar Index และ US Bond Yield เริ่มปรับลดลง ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอการขาย ระหว่างรอผลการประชุม ECB, Fed แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มอุปโภค เช่น CPALL,CPAXT,CRC,MOSHI / ท่องเที่ยว AOT,MINT,ERW,AWC/กลุ่มลงทุนด้าน Data Center เช่น GULF,INTUCH,WHA
- COM7* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 75 บาท) ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ถูกนำเข้า SET50 ด้านผลประกอบการบริษัทมีกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 709 ล้านบาท -6%QoQ, +16%YoY ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ YoY โตจากยอดขาย smartphone ตามการเปิดตัว iphone16 รวมถึงผลการดำเนินงานของ NCAP ที่ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มช่วง 4Q67 จะเป็นจุดสูงสุดของปีตามการบริโภคที่ฟื้นตัว ซึ่งได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน โดยยอดขาย iphone16 ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลังจากช่วงแรกของการเปิดตัวของขาดตลาด ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 3.2 พันล้านบาท +11%YoY ส่วนปี 68 อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท +13%YoY มีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของ AI PC และ AI smartphone
- TEGH* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.63 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติ 4Q67 ยังดูดีต่อเนื่อง YoY จากราคายางและน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ/ 3Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 32%) จะสูงขึ้นด้วยแม้ EU เลื่อนการบังคับใช้ออกไปปี69 แต่ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่ ด้าน TEGH เองวางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ระดับ 526 ลบ.(+145%YoY) และ 611 ลบ.(+16%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ม.ค. -$0.24 อยู่ที่ $68.30 / บาร์เรล, Brent ม.ค. -$0.22 อยู่ที่ $72.09/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจนถึง เม.ย.68 และขยายเวลายกเลิก ม.ลดกำลังการผลิตออกไปอีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี 69 อย่างไรก็ตามตลาดคาดอุปทานน้ำมันตลาดโลกปีหน้ายังอยู่ระดับสูง
Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$27.8 อยู่ที่ $2,648.40 /ออนซ์ ยังรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ย.จะรายงานในช่วงค่ำวันนี้
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -65.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -39.05 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -27.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.39 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.177 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -20 จุด อยู่ที่ 1,160
(-) BitCoinเช้านี้ -1.00% อยู่ที่ 97,355 ดอลลาร์สหรัฐ
(+)ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ต.ค. +2.9% & ก.ย. -1.3% MoM
Economic Calendar
ในประเทศ
2-4 ธ.ค. Thai Entertainment Complex Summit
5 ธ.ค. วันพ่อแห่งชาติ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
(ธ.ค.)
ต่างประเทศ
02 ธ.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (พ.ย.)
03 ธ.ค. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ต.ค.)
04 ธ.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (พ.ย.)
05 ธ.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
06 ธ.ค. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
US อัตราการว่างงาน (พ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2024: CPALL, SAV, SYNEX*, CRC, WHA
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th