Today’s NEWS FEED

News Feed

พาณิชย์ จับมือ CIB รุกหนักเร่งปิดเกมส์แก๊งนอมินีทำลายเศรษฐกิจไทย เปิดโต๊ะแถลงข่าว ทลายรังมังกรเทา เจอนิติบุคคล 442 ราย เข้าข่ายกระทำผิด

413


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 ธันวาคม 2567)---
กระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมแถลงข่าวเปิดยุทธการทลายรังมังกรเทา Nominee Sweep ep. 2        ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และกระทรวงพาณิชย์  โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือเชื่อมโยงข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่ เข้าข่าย พบนิติบุคคลกระทำผิด 442 รายใน 2 ลักษณะคือ การใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติหรือนอมินี และการจดทะเบียนรูปแบบบัญชีม้านิติบุคคล เตือนสำนักงานบัญชีและคนไทยให้ระมัดระวังไม่ถือหุ้นแทนใครหากจับได้ต้องรับโทษทางกฎหมาย!

           นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (4 ธันวาคม 2567)    ได้เข้าร่วมการแถลงข่าว เปิดยุทธการทลายรังมังกรเทา Nominee Sweep ep. 2 ณ ห้องประชุมชัยจินดา อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และพล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. โดยเป็นผลจากความร่วมมือจากการบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้ MOU การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)  

          รมช.พณ. กล่าวต่อว่า "การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการจับกุมผู้กระทำผิดที่มีลักษณะนอมินีและบัญชีม้า  นิติบุคคล โดยหน่วยงานภายใต้ CIB คือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม  ทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ตรวจสอบบริษัทนิติบุคคลที่มีแนวโน้มเข้าข่ายการกระทำความผิดร่วมกับกรมฯ  พร้อมลงพื้นที่ตรวจค้นในพื้นที่ อาทิ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และสมุทรสาคร พบนิติบุคคลเข้าข่ายกระทำความผิด จำนวนทั้งสิ้น 442 ราย โดยประกอบธุรกิจประเภท ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต นำเที่ยว โกดัง/คลังสินค้า รับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล ถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยผิดกฎหมาย และหลายบริษัทไม่มีกิจการอยู่จริง

          โดยมีแผนประทุษกรรม 2 รูปแบบ 1) การจดทะเบียนบริษัทในลักษณะนอมินีซึ่งคนต่างชาติว่าจ้าง  สำนักงานบัญชีจดทะเบียนโดยใช้คนไทยถือหุ้นแทน หรือนอมินีเข้ามาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้ตามพระราชบัญญัติ  การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีนิติบุคคลที่กระทำความผิดจำนวน 244 ราย (บุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน  248 ราย ไทย 57 ราย สัญชาติอื่น 14 ราย) ทุนจดทะเบียนรวม 891,000,000 บาท และสำนักงานบัญชี 3 ราย     ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับการกระทำความผิด และ 2) การจดทะเบียนบริษัทในลักษณะบัญชีม้านิติบุคคล   เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จาก อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือฟอกเงินที่ได้จากการ  กระทำความผิด มีนิติบุคคลที่กระทำผิดจำนวน 198 ราย (บุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน มาเลเซีย (สัญชาติจีน)           8 ราย) และสำนักงานบัญชี 14 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับการกระทำความผิด   

          ทั้งนี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมฯ และผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษคือ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจ   ของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 ตามมาตรา 36 กรณีคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนคนต่างด้าวให้กระทำ  ความผิด และมาตรา 37 กรณีคนต่างด้าวที่ประกองธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ  ปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลต้องระวางโทษ ปรับรายวัน วันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน  

          นอกจากนี้ ถ้าตรวจพบว่าสำนักงานบัญชี หรือผู้ทำบัญชีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
โดยใช้เอกสารประกอบการทำบัญชีที่ไม่ถูกต้อง จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.254
3 มาตรา 20 ซึ่งจะมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท รวมถึง พ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 สำหรับสำนักงานบัญชี หรือผู้ทำบัญชี มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชี และหากผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี หรือผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชีไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณที่กำหนดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าผู้นั้นประพฤติผิดจรรยาบรรณ ต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด

          ปัจจุบันผู้กระทำผิดได้ใช้กลวิธีจ้างสำนักงานบัญชีเพื่อจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล โดยใช้ชื่อคนไทยเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น และนำบัญชีม้านิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีทางการเงินรับโอนเงินหรือฟอกเงินซึ่งหลบเลี่ยงการกระทำความผิด โดยปัญหานี้ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก และสร้างความเดือนร้อนกับประชาชนไทย กระทรวงพาณิชย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการฯ อีก หน่วยงาน จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และกำจัดนอมินีให้หมดจากประเทศไทย

          โอกาสนี้จึงขอเตือนไปยังสำนักงานบัญชีที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้กระทำผิดและเน้นย้ำให้คนไทยระมัดระวังไม่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวเหล่านั้นเข้ามาประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย หากตรวจสอบพบการกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป และขอขอบคุณพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ในการป้องปรามนอมินีและแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลซึ่งเป็นเรื่องท้าทายการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องผสานความร่วมมือกัน" รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย

#SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้