Market Wrap-Up
- SET วันที่ 29 พ.ย.67 ปิด -0.47 จุด อยู่ที่ 1,427.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,196 ลบ. สถาบันซื้อ 1,209 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 348 ลบ. ต่างชาติขาย 1,283 ลบ. รายย่อยขาย 273 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,073 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น BDMS,ADVANC,GULF,EA,TOP และยอดขายหุ้น DELTA,BH,SKY,STANLY,CPAXT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,292 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,SISB,TCAP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,775 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,797 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,932 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.42%, S&P500 +0.56%, Nasdaq +0.83% ได้แรงหนุนจากกลุ่ม IT, เทคโนโลยี, กลุ่มผู้ผลิตชิป และค้าปลีกออนไลน์ในช่วงวันหยุด Black Friday ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.58% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.6%, ทรัพยากรพื้นฐาน +1.6% และกลุ่มกลาโหมปรับขึ้น รับภาวะสงครามรัสเซีย - ยูเครน
Market View
- DJIA +1.39%, S&P500 +1.06%, Nasdaq +1.13% WoW ได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ เช่น การลดภาษีนิติบุคคล, ลดกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจ จะช่วยหนุนกำไร บจ. แม้ว่า ม.ดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐปรับสูงขึ้นในอนาคต ส่วนรายงาน US PCE ต.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 3% & ก.ย. 2.1% เป็นไปตามคาดการณ์ โดย CME FedWatch ชี้มีโอกาส 66% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 18 ธ.ค. สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล ISM/PMI ภาคผลิต & บริการ พ.ย., ADP การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ พ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ย. และถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด
- Stoxx 600 ยุโรป -0.20% WoW จากความกังวลต่อภาวะสงครามรัสเซีย – ยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ขณะที่พรรคฝ่ายขวาของฝรั่งเศส ไม่เห็นชอบกับร่างงบประมาณที่ลดการใช้จ่าย และมีเก็บภาษีเพิ่ม ส่งผลลบต่อเสถียรภาพการเมืองในฝรั่งเศส ส่วนรายงาน CPI ยูโรโซน พ.ย. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3% & ต.ค. 2.1% YoY ตามคาดการณ์ ดังนั้น Consensus ชี้มีโอกาส 80% ที่ ECB จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 12 ธ.ค. สัปดาห์นี้ติดตาม GDP ยูโรโซน Q3/67 , PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน พ.ย., PPI ยูโรโซน ต.ค.
- MSCI Asia Pacific X.Japan -0.20% WoW หลังทรัมป์ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก, แคนาดาที่ 25% และจีนที่ 10% ในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง กอปร ก.พาณิชย์สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซล่าร์ เซลล์ จากกัมพูชา, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม ในอัตรา 3% - 271% ซึ่งจะตัดสินใจในวันที่ 18 เม.ย. 68 บ่งชี ม.กีดกันการค้ารอบใหม่มแนวโน้มรุนแรงขึ้น ส่วนดัชนีนิเกอิ -0.35% WoW ถูกกดดันจากค่าเงินเยนแข็งค่าอยู่ที่ 150 เยน/ดอลลาร์ หลังรายงาน Tokyo Core CPI พ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.2% & ต.ค. 1.8% สูงกว่าคาดที่ 2.1% YoY ส่งผลให้ BOJ มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 19 ธ.ค. สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการของจีน, ญี่ปุ่น พ.ย.
- SET -1.3% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 0 หมื่น ลบ. -3.0% WoW ต่างชาติขาย 4,283 ลบ. รายย่อยซื้อ 2,925 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 1,240 ลบ. และสถาบันซื้อ 118 ลบ. WoW โดยกลุ่มที่ปรับลดลง คือ บรรจุภัณฑ์ -6.7% หลัง SCGP ถูกถอดออกจาก MSCI Global Standard Index ในการรีบาลานท์วันที่ 25 พ.ย.และกลุ่มพลังงาน -3.6%, วัสดุก่อสร้าง -3.5% สาเหตุมาจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลง กอปรกับอุปสงค์ตลาดโลกที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็ก ฯ -2.5% ที่ฟื้นตัวตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ โดยภาพรวมดัชนีถูกกดดันจาก Fund Flow ไหลจาก ม. American First ของทรัมป์ กอปรกับรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งล่าสุดทรัมป์ได้ขู่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้ากลุ่ม BRICS ในอัตรา 100% หากต้องการหลีกเลี่ยงการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ตัวเลขส่งออกไทย ต.ค. +14.6% YoY สูงกว่าคาดไว้ที่ 5.1% ส่งผลให้ ก.พาณิชย์ปรับเพิ่มเป้ายอดส่งออกไทยปีนี้คาด +4% YoY โดยสัปดาห์นี้วันอังคารติดตามผลการประชุม ครม.ในการอนุมัติ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นของขวัญปีใหม่ และวันศุกร์ ก.พาณิชย์รายงาน CPI ไทย พ.ย. คาด 1.2% & ต.ค. 0.83% YoY และงานสัมมนา Thailand Entertainment Complex วันที่ 2 – 4 ธ.ค.
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,410 – 1,420 แนวต้าน 1,430 – 1,440 คาด Fund Flow จะชะลอการไหลออก หลัง Dollar Index เริ่มอ่อนค่า และ US Bond Yield ปรับลดลง ก่อนรอการประชุม ธ.กลางหลัก ๆ ใน ธ.ค. แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว กลุ่มค้าปลีก & อุปโภค เช่น CPAXT, TNP, GLOBAL,OSP, COCOCO/ รพ. BCH, CHG รับข่าว สปสช.จ่ายค่ารักษาโรคร้ายแรง / เก็งกำไรหุ้นที่สัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น RCL, RBF, BTS
- SNNP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 15.60 บาท) แนวโน้มกำไร 4Q67 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ, YoY จากช่วง high season โดยคำสั่งซื้อในเวียดนามที่เป็นปัญหาคาดสามารถเห็นการฟื้นตัว QoQ จากการปรับโครงสร้าง distributor ส่วนการขยายตลาดในฟิลิปปินส์จะทำได้ดีขึ้นในปีหน้าหลังตั้ง distributor ใหม่ 2 ราย ด้าน GPM คาดว่ายังทำได้ดีในระดับเกิน 30% ทั้งนี้ในปี 68 ปัจจัยหนุนจะมาจากคาดการณ์รายได้ในเวียดนามจะกลับมาเติบโต และเพิ่มการขยายตลาดฟิลิปปินส์เข้ามาชดเชย เบื้องต้น consensus คาดกำไรสุทธิปี 67 ที่ 661 ล้านบาท (+4%YoY) และปี 68 ที่ 730 ล้านบาท (+10%YoY) ราคาหุ้นปัจจุบันมี valuation ที่ไม่แพงคิดเป็น forward PER’67/68 ที่ 9 เท่า และ 15.4 เท่า ตามลำดับ
- CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย50 บาท) กำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 2,219 ลบ. (+86.37%YoY, +28.31% QoQ ) มีแรงหนุนจากรายการพิเศษเป็นบวก(เช่น Fx Gain) ราว 366 ลบ., รายได้กลุ่มFOOD(+12.4% YoY, +4.9% QoQ)/กลุ่มFASHION(+5.1% YoY, -1.3% QoQ ), และ SG&A สามารถคุมได้ดี(เช่น การต่อรองขอลดค่าเช่า) ส่งผลให้ SG&A to Rev. ลดลง ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปกติช่วง 4Q67 นี้ เรายังประเมินว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีแรงหนุนตาม Seasonal Effect ขณะที่ปัจจัยเสริมเพิ่มเติมจะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น, ม.กระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ, และการฟื้นตัวของธุรกิจ HARDLINE ในไทยและเวียดนาม
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ม.ค. -$0.72 อยู่ที่ $68.00 / บาร์เรล, Brent ม.ค. -$0.34 อยู่ที่ $72.94/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -4.8%, Brent -3.1% หลังอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ขณะที่ IEA เผยตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาด 1 ล.บาร์เรล/วัน กอปรรอผลการประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 5 ธ.ค. และ Reuter Poll คาดราคาน้ำมันดิบ Brent ปีหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ $74.53/บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$41.10 อยู่ที่ $2,681.00 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.38% อยู่ที่ 105.737 ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ -3% หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งเป็นผลลบต่อสัญญาทองคำ
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -434.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -124.08 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -245.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -65.06 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.21 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -65 จุด อยู่ที่ 1,354
(+) BitCoinเช้านี้ +1.20% อยู่ที่ 97,520 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
2-4 ธ.ค. Thai Entertainment Complex Summit
5 ธ.ค. วันพ่อแห่งชาติ
สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
(ธ.ค.)
ต่างประเทศ
02 ธ.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (พ.ย.)
03 ธ.ค. US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ต.ค.)
04 ธ.ค. US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (พ.ย.)
05 ธ.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
06 ธ.ค. US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
US อัตราการว่างงาน (พ.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio November 2024: CPALL, SAV, SYNEX*, CRC, WHA
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th