Digital Telecommunications (DIF TB)
“ถือ” เพื่อรับอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 9.5% ในปี 67-69
ปรับคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" ราคาเป้าหมายเดิมที่ 9.20 บาท
เราได้ลดคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" เนื่องจากราคาหุ้นได้แตะราคาเป้าหมายของเราแล้วหลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 18% ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. (เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 18 ก.ย.) เราแนะนำ "ถือ” เพื่อรับอัตราผลตอบแทนที่ 9.5% ต่อปีในปี 67-69 ทั้งนี้ DIF รายงานกำไรหลักใน 3Q67 ที่ 2.9 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY และ QoQ) และเราคาดว่ากำไรใน 4Q67 จะทรงตัว QoQ ราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ยังคงอยู่ที่ 9.20 บาท (WACC ที่ 7.3%) DIF มีระยะเวลาสัญญาเช่าคงเหลือเฉลี่ย 14 ปี (คำนวณค่าเฉลี่ยด้วยการถ่วงน้ำหนัก EBITDA) โดยสัญญาเช่าเสาและไฟเบอร์จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 76 และ ก.ย. 86 ตามลำดับ ขณะนี้ DIF มี IRR ที่ 5.8% ซึ่ง ต่ำกว่า 3BBIF ที่ 6.5% และ CPNREIT ที่ 6.5%
กำไรหลัก 3Q67 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาทตามที่คาดการณ์
DIF รายงานกำไรจากการลงทุนสุทธิใน 3Q67 ที่ 2.9 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY และ QoQ) สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด โดยรายได้จากการลงทุนสุทธิใน 9M67 คิดเป็น 74% ของประมาณการทั้งปีของเรา เราคาดว่ารายได้จากการลงทุนสุทธิใน 4Q67 จะอยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+1% YoY, ทรงตัว QoQ)
เงินปันผลต่อหน่วย (DPU) ที่ 0.22 บาทใน 3Q67
DIF ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยใน 3Q67 ที่ 0.222 บาท ซึ่งเท่ากับ DPU ใน 1-2Q67 โดยวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD คือ 14 พ.ย. และวันจ่ายเงินปันผลคือ 6 ธ.ค. เราคาดการณ์ DPU ในปีงบ67-68 ที่ 0.88 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 9.5% โดยการลดอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 25bps จะส่งผลให้อัตรา DPU เพิ่มขึ้น 0.6% เนื่องจากสินเชื่อของ DIF เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว อัตราดอกเบี้ยของ DIF ในปีงบ 68 จะอ้างอิงจาก THOR + 3.0% และ THOR + 3.5% (ซึ่งขณะนี้คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5.5%)
ความเสี่ยงจากการเจรจารีไฟแนนซ์หนี้
หนี้ของ DIF มูลค่า 1.16 หมื่นล้านบาท (ตามสัญญาเงินกู้ฉบับที่ 4) จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.68 และกองทุนมีแผนจะเริ่มเจรจากับธนาคารใน 4Q67 เกี่ยวกับสัดส่วนการชำระคืนเงินต้นและตารางเวลาในการชำระ หากการชำระคืนเงินต้นสูงกว่าที่คาดไว้อาจส่งผลลบต่อ DPU ของ DIF
Wasu Mattanapotchanart
wasu.m@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1392