Company Note
ICHI

ประกาศกำไรสุทธิ 3Q24 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ, กำไรหลักยังเติบโตแต่ต่ำกว่าที่คาด

ICHI ประกาศกำไรสุทธิ 3Q24 อยู่ที่ 357 ล้านบาท (+9% YoY, -6%QoQ) โดยหากไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากการขายสินทรัพย์ใน 2Q24 กำไรหลักจะเติบโต +9%YoY, +2%QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 10% และ 7% ตามลำดับ จากยอดขายที่ต่ำกว่าที่คาดไว้จากผลกระทบน้ำท่วมและฤดูฝน โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ จากยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 7%YoY แต่ลดลง 6%QoQ โดยรายได้เติบโต YoY มาจากกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียว กลุ่มเครื่องดื่มสมุนไพรแบรนด์เย็นเย็น น้ำด่างอิชิตันที่มียอดขายเพิ่มขึ้น การออกสินค้าใหม่เน้นสินค้า healthy trend และเครื่องดื่มโซดาแบรนด์ “ตันซันซู” แต่ลดลง QoQ จากช่วงฤดูฝนและน้ำท่วมในเดือน ก.ย.24 สำหรับเครื่องดื่มพลังงาน TAN POWER ที่เริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย.24 ถึงปัจจุบัน ยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะเป็นสินค้าใหม่และการแข่งขันสูง ด้านยอดส่งออกลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเงิน และกำลังซื้อที่อ่อนตัวของประเทศคู่ค้า บริษัทร่วมทุนอินโดนีเซียรับรู้กำไร 1 ล้านบาท จากการเก็บสต๊อกสินค้าเก่าเพื่อการปรับแพคเกจจิ้งแบรนด์สินค้าใหม่

อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง QoQ อัตราทำกำไรขั้นต้นเติบโต YoY จากการผลิตที่มากขึ้นได้การประหยัดการขนาด (economy of scale) และการปรับสูตรลดน้ำตาล และราคาแพคเกจจิ้งที่ลดลง แต่อัตราทำกำไรขั้นต้นลดลง QoQ เนื่องจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอและมีการจ้างภายนอกผลิต (OEM) ในบางสินค้ายังไม่สามารถผลิตเองได้ ได้แก่ เครื่องดื่มชาเขียวขนาด 420 มล., เครื่องดื่มพลังงาน “TAN POWER” , เครื่องดื่มชิ้นเนื้อวุ้นมะพร้าวแบรนด์ “ชิวชิว” และเครื่องดื่มชาเขียวแบบกล่อง UHT

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง จากการทำการตลาดลดลง และไม่มีบันทึกค่าใช้จ่ายเหมือนใน 2Q24 จากการซื้อเครื่องจักรนำเข้าบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 11 ล้านบาท และไม่มีการบันทึกโบนัสล่วงหน้า 2 เดือน ส่งผลให้อัตราทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.7% เพิ่มขึ้นจาก 15.8%YoY และ 16.4% QoQ

บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.24) ที่ 0.6 บาท (XD 22 พ.ย.24) โดยปกติบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายอีกครั้งสำหรับงวดผลประกอบการ 4Q24F ที่ 0.5 บาท หรือคิดเป็น Dividend yield ปี 2024F ที่ 6.6% บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงิน โดยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลจริงไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น

บริษัทประกาศปิดบริษัทย่อย อิชิตัน เพาเวอร์ ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2011 ถือหุ้น 100% โดยเริ่มตั้งแต่ 13 พ.ย.24 เป็นต้นไป ทั้งนี้บริษัทย่อยนี้จัดตั้งเพื่อกระจายสินค้า แต่ปัจจุบันไม่มีการดำเนินงานกระจายสินค้า จึงประกาศปิดเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

เรายังคงประมาณการเดิม คาดกำไรสุทธิเติบโต 16% (CAGR3Y)

เราคาดผลประกอบการ 9M24 คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี เราคาดแนวโน้ม 4Q24F กำไรสุทธิอ่อนตัว จากค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น เรายังคงประมาณการเดิม คาดกำไรสุทธิปี 2024F อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท เติบโต 29.5%YoY และปี 2025-26F คาดกำไรเติบโต 9.7% และ 10.6% ตามลำดับ คาดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงกับเป้าหมายบริษัทที่ 9 พันล้านบาท (+11%YoY) และปี 2025-26F เติบโตปีละ 10% จากกลุ่มชาเขียวและ non-tea จากการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง และการขยายกำลังการผลิตรองรับการเติบโต คาดอัตรามาร์จิ้นอยู่ที่เฉลี่ยปีละ 25.5% เราคาดบันทึกค่าเสื่อมจากไลน์ผลิตใหม่ปีละ 29 ล้านบาท เริ่ม 4Q24F และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 6.9% จากการทำการตลาด และปี 2025-26F คาด 6.6% และ 6.5% ตามลำดับ จากสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดอัตราทำกำไรจะเพิ่มขึ้นปี 2024-26F อยู่ที่ 15.9%-16% บริษัทขยายกำลังการผลิต 200 ล้านขวดเป็น 1,700 ล้านขวด งบลงทุน 430 ล้านบาท เริ่มดำเนินงาน 4Q24F

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 22 บาท

คาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากเครื่องดื่มเน้นกลุ่ม healthy trend เพื่อสุขภาพ และยังมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 22 บาท อ้างอิง PER forward +0.5STD ของ ICHI เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 20X ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มคาดปี 2024F อยู่ที่ 6.6% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ที่ 4.4% ในขณะที่มี PER และ PBV ปี 24F ต่ำที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ที่ 15.1X และ 3.6X เทียบกับกลุ่มเครื่องดื่มเฉลี่ยที่ 20.2X และ 4.5X ตามลำดับ และบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี D/E 24F เพียง 0.2X ต่ำที่สุดในกลุ่ม ความเสี่ยง : การแข่งขัน, ภาพรวมเศรษฐกิจ