Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : MAJOR คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท

204

 

Company Note
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
กำไรสุทธิ 3Q24 ลดลง YoY และ QoQ

MAJOR ประกาศกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 50 ล้านบาท -52%YoY, -78%QoQ โดยเทียบกับ 3Q23 ที่กำไรสุทธิ 104 ล้านบาท โดยใน 3Q23 มีบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อสัญญาสุขุมวิทจำนวน 20 ล้านบาท และมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax loss carry forward) 91 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าว 3Q24 จะมีกำไรที่มากกว่า 3Q23 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท

รายได้ตั๋วหนังลดลง -4%YoY -26%QoQ เนื่องจากใน 2Q24 มีหนังเด่นหลายเรื่องได้แก่ “หลานม่า” , “อนงค์”, Godzilla x Kong, “เทอม 3” และ Inside Out 2 สำหรับใน 3Q24 มีหนังทำรายได้จำนวนน้อยกว่าได้แก่ Deadpool & Wolverine ทำรายได้ 178 ล้านบาท, วิมานหนาม 93 ล้านบาท, องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ 35 ล้านบาท, Minions 34 ล้านบาท และเอเลี่ยน 26 ล้านบาท

รายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม -11%YoY, -26%QoQ ตามรายได้หนังที่ลดลงและการทำโปรโมชั่นลดลง สำหรับสินค้า Popcorn จำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก 7-11 จำนวน 14,000 สาขาทั่วประเทศ แต่สัดส่วนรายได้ยังเล็กน้อยคิดเป็นราว 4% ของรายได้กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รายได้ค่าโฆษณา -4%YoY, +14%QoQ ตามรายได้ตั๋วหนัง อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้อัตราทำกำไรอยู่ที่ 3% ลดลงจาก 6%YoY แต่เพิ่มขึ้นจาก 11%QoQ

คาดผลประกอบการปีนี้เติบโตจากเน้นภาพยนตร์ไทยและการขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น แนวโน้มผลประกอบการ 4Q24F จะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ จากหนังภาพยนตร์หลายเรื่องที่เข้ามา โดยหนังไทยหลายเรื่องได้แก่ “ธี่หยด 2” ที่ทำเงินมากกว่า 760 ล้านบาทแล้ว, “หลวงพี่เท่ง”, “หมู่บ้านโคกะโหลก”, “นาคบรรพ์” และหนังต่างประเทศ เช่น “Joker”, “Venom”, “Gladiator”, “Mufasa : The Lion King” และ , “Kraven the Hunter” เป็นต้น เราคาดกำไรหลักปี 2024F จะเพิ่มขึ้น 29%YoY จากการขยายโรงภาพยนตร์ต่างจังหวัดมากขึ้นและเน้นภาพยนตร์ไทยมากขึ้น โดยบริษัทวางแผนภาพยนตร์ไทยปีละ 50 เรื่อง ส่งผลให้รายได้อาหารและเครื่องดื่มทานเล่นและรายได้ค่าโฆษณาเติบโตตามรายได้ตั๋วภาพยนตร์ และการขายอาหาร Popcorn ผ่าน delivery รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 เพิ่มขึ้น บริษัทได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Lotus, BigC ใน ก.พ.ที่ผ่านมา และบริษัทวางแผนขยาย โรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะต่างจังหวัด ปีนี้ประมาณ 47 โรงภาพยนตร์ 15 โลเคชั่น จากปีที่ผ่านมามี 851 โรงภาพยนตร์ 184 โลเคชั่น เราคาด Gross margin 34% ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 24% ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิปี 2024F อยู่ที่ 10%

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 20.50 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8%) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER24F ที่ 15x สถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash คาด Dividend Yield’24F ที่ 2.7% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 1.5% ความเสี่ยง : 1) เศรษฐกิจซบเซา 2) การล็อกดาวน์จากสถานการณ์ COVID-19 หากรุนแรงขึ้น

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้