ราคาทองคำ วันนี้ (11 พ.ย.) มีการเคลื่อนไหวในทิศทางปรับตัวลงต่อจากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ ราคาทองคำ ถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ที่ทรงตัวในระดับสูง หลังเศรษฐกิจสหรัฐ ได้รับ มุมมองเชิงบวกที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนผ่านการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโริภค เดือนพ.ย. ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UoM) ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 73.0 สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หรือ ตั้งแต่เดือนเม.ย. อีกทั้งจากถ้อยแถลงของนายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐรั (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส ที่ชี้ถึงความเป็นไปได้ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วยขนาดที่ลดลง หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้ ทำ ให้นักลงทุนมีการเผื่อโอกาสราว 1 ใน 3 ที่เฟดจะไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนธ.ค. นอกจากนั้น แม้ว่าแนวทางการดำ เนินนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเริ่มดำรงตำ แหน่งในปี 2025 อาจมีส่วนชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ จากการขาดแคลนแรงงาน และการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้าและบริการ แต่ด้วยผลกระทบดังกล่าวทำ ให้คาดการณ์ของตลาดต่อขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เข้มงวดขึ้น อันนับเป็นแรงหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐราคาทองคำ จึงมีปัจจัยที่คอยกดดันให้ปรับตัวลง

คำแนะนำ
เสี่ยงเปิดสถานะขาย หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,691-2,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทยอยแบ่งปิดสถานะขาย หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 2,656-2,637 ดอลลาร์ต่อออนซ์
พร้อมลดสถานะขายลง หากราคายืนเหนือแนวต้านระดับ 2,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์